“อิ๊งค์” นัดถกหัวหน้าและแกนนำพรรค ร่วมรัฐบาล กำหนดแนวทางร่วมกันใหม่ หลังภูมิใจไทยถอนตัวทำให้มีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ที่นั่ง มากันพร้อมหน้า “พีระพันธุ์-นฤมล-ทวี-เฉลิมชัย-วราวุธ-เดชอิศม์” เสียงเอกฉันท์ผนึกกำลังหนุนนายกฯ เดินหน้าประเทศไทย ส่วนเรื่องปรับ ครม.ให้นายกฯ ไปคุยส่วนตัวกับหัวหน้าแต่ละพรรคอีกที โฆษก รทสช.ปัดกดดันต่อรองเก้าอี้เพิ่ม กลุ่ม 18 แซะ “พีระพัง” โกหกหน้าตาย โผ ครม.ยังไม่นิ่ง “ภูมิธรรม” ผงาด มท.1 “ปลัดตุ๋ม” คุม พณ. โยก “นฤมล” ไปดู อว. “อนุดิษฐ์” นั่ง รมช.ศธ. พท.ฉะมีคนบิดเบือนบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาล “ตรีนุช” ยันไม่พลิกขั้วขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นัดหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหารือ ก่อนจะมีมติเอกฉันท์ประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ผนึกกำลังร่วมกันเดินหน้าประเทศไทย และสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ส่วนการปรับ ครม.ให้นายกฯไปหารือกับหัวหน้าของแต่ละพรรคอีกที“อิ๊งค์” นัดแกนนํา รบ.ถกปรับ ครม.เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. มีรายงานความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้แจ้งเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคหารือเป็นการภายใน เพื่อจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างลง หลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล โดยในตอนแรกไม่มีการเปิดเผยสถานที่ให้สื่อมวลชนรับทราบ ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) เปิดเผยว่า วันนี้นายกฯ เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือเรื่องการปรับ ครม. เนื่องจากมีการลาออกของรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ทำให้ต้องมีการหารือเพื่อกำหนดแนวทาง การทำงานกันใหม่ จะมีการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างลงถึง 8 ตำแหน่งตบเท้าพร้อมหน้าหารือ รร.โรสวูดต่อมาเวลา 12.30 น. น.ส.แพทองธารเดินทางมาถึงโรงแรมโรสวูดเป็นคนแรก เพื่อมารอหารือกับหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลตามที่นัดไว้ ต่อมาบรรดาแกนนำพรรคร่วมทยอยเดินทางตามมาสมทบ ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทยผนึกกำลังเดินหน้าประเทศไทยจากนั้นเวลา 16.10 น. น.ส.แพทองธารทวีตข้อความผ่าน X เป็นภาพหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยเป็นการส่วนตัวภายในที่โรงแรมโรสวูด ระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง รับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย รัฐบาลของเราจะทำงานหนักร่วมกันด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท เพื่อประเทศไทย”ทุกพรรคเอกฉันท์หนุนนายกฯต่อผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพูดคุย น.ส.แพทองธารได้อธิบายถึงความจำเป็นที่ต้องขอตำแหน่ง รมว.มหาดไทยกลับมาจากพรรคภูมิใจไทย แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยไม่รับเงื่อนไขก็จำเป็นต้องปรับ ครม. พร้อมอธิบายเหตุผลความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเดินหน้าต่อ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่ขณะนี้ เช่น ปัญหาความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ทุกพรรคได้ตอบรับที่จะยืนข้างนายกฯในการเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศ โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงที่ยืนยันจุดยืนที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะ แต่ต้องเตรียมความพร้อมรับทุกสถานการณ์ โดยในที่ประชุมไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องตำแหน่งที่ว่างลง 8 ตำแหน่งขึ้นมาหารือกัน เนื่องจากการวางตำแหน่งของรัฐมนตรี เป็นหน้าที่นายกฯ คงมีการพูดคุยส่วนตัวกับแต่ละพรรค ไม่จำเป็นต้องนำมาหารือในที่ประชุมร่วมกันในครั้งนี้“อ้วน” ผงาด มท.1–“ปลัดตุ๋ม” คุม พณ.สำหรับความคืบหน้าการจัดโผ ครม. ตำแหน่งสำคัญอย่าง รมว.มหาดไทย ที่เดิมวางไว้เป็นนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มาเป็น แต่เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนที่มีความเข้มข้น ทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ต้องลุกจากเก้าอี้ รมว.กลาโหม เปิดทางให้ทหารมืออาชีพมาบริหารแทน ชื่อเต็งหนึ่งขณะนี้ยังเป็น พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ “บิ๊กนัย” อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. และอดีต ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) โดยนายภูมิธรรมจะขยับไปเป็น รมว.มหาดไทยแทน ทำให้นายประเสริฐอาจต้องนั่งรองนายกฯควบ รมว.ดีอีเหมือนเดิม ส่วนชื่อที่เข้ามาใหม่อย่างนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะเข้ามาในโควตาของกลุ่ม 18 พรรค รทสช. ภายใต้การนำของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค รทสช. นายจตุพรยังถือว่ามีสัมพันธ์ใกล้ชิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะเป็นคนเชียงใหม่ด้วยกัน อาจได้นั่งกระทรวงใหญ่เป็น รมว.พาณิชย์“นฤมล” ไปดู อว.–“อนุดิษฐ์” รมช.ศธ.ส่วนพรรคกล้าธรรมจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยเพิ่มมา 1 ที่นั่ง โดยขยับนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค ไปเป็น รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แล้วดันนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา ขึ้นมาเป็น รมว.เกษตรฯแทน ส่วน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรค กธ. ไปเป็น รมช.ศึกษาธิการ ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนาจะได้ตำแหน่ง รมช.เพิ่มมา 1 ที่เช่นกัน นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคยังนั่งเป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯ เช่นเดิม ตำแหน่งที่เพิ่มจะให้นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ชทพ. นั่งโควตา รมช. แต่ยังไม่ได้ระบุกระทรวงที่ชัดเจนผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการแจ้งเป็นการภายในให้ผู้ที่มีชื่อจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีใหม่ ทยอยเข้าไปกรอกประวัติกับสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.นี้รทสช.ปัดกดดันต่อรองเพิ่มโควตาวันเดียวกัน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรค รทสช.ต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่มในการปรับ ครม.ว่า ยืนยันไม่มีแน่นอน สมมติหาก รทสช.ยังคงร่วมรัฐบาลต่อ พรรคก็จะยืนยันตำแหน่งโควตาเดิม 4 ตำแหน่ง ส่วนบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนั้น กลไกของพรรคมอบอำนาจให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. เป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อถามว่ามีหลายคนในพรรคออกมาให้ข่าวว่ามติพรรค รสทช. คือขอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่เช่นนั้นไม่ร่วมรัฐบาล นายอัครเดชตอบว่า มติพรรคที่ถูกต้องต้องมาจากนายพีระพันธุ์เพียงผู้เดียว เพราะพรรคมีมติให้นายพีระพันธุ์พูดคนเดียว ที่มีกระแสข่าวว่ามีการเสนอให้เปลี่ยนตัวนายกฯเป็นนายพีระพันธุ์นั้น ขอการันตีแน่นอนไม่มี วันที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค วันที่ 19 มิ.ย. เราคุยกันเพียงว่าจะทำยังไงเพื่อไม่ให้เกิดการยุบสภา เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบกับประเทศหลายอย่าง รวมทั้งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่ยังค้างอยู่กลุ่ม 18 แซะ “พีระพัง” โกหกหน้าตายนายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี พรรครทสช. 1 ใน 18 สส. กลุ่ม 18 ที่มีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรค รทสช.เป็นแกนนำ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า “มติพรรคบอกว่าให้นายกฯลาออก ถ้านายกฯไม่ลาออกจะถอนตัวจากรัฐบาล โกหกหน้าตาย” พร้อมกับติดแฮชแท็ก #พีระพัง ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่ม 18 ยืนยันจุดยืนที่แจ้งแกนนำรัฐบาลแล้ว สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ทำงานต่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมกรรมการบริหารพรรคสายนายพีระพันธุ์ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ไม่มีการแถลงมติพรรคเป็นทางการ มีรายงานข่าวมติคือต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ หรือหากนายกฯไม่ลาออกกลุ่มดังกล่าวจะลาออกเองพท.โต้ลั่นนายกฯลาออก-ยุบสภาที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล รองโฆษกฯพรรคเพื่อไทย แถลงว่ากรณีมีข่าวลือว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลาออกหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ผ่านสภาฯวาระที่ 3 ว่า ในฐานะตัวแทนพรรคยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความสับสนในสังคม บั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาล ที่ผ่านมานายกฯยืนยันชัดเจนว่าจะไม่มีการลาออก ไม่ยุบสภา โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยเผชิญความท้าทายในหลายด้าน ทั้งปัญหาความมั่นคง ข้อพิพาทตามแนวชายแดน ปัญหายาเสพติด และอาชญากรรมทางไซเบอร์ เป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าทำงานต่อ และภายหลังจากการปรับ ครม. รัฐบาลจะเดินหน้าสานต่อภารกิจต่างๆให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด รวมถึงเดินหน้ากฎหมายฉบับต่างๆที่เราทำไว้ ขอเรียกร้องผู้มีเจตนาไม่หวังดีที่พยายามปล่อยข่าวลือ ให้หยุดบิดเบือนข้อเท็จจริง และขอให้ยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศเป็นหลักแจงเหตุไม่มีชื่อแบ่งงาน “พีระพันธุ์”ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสงสัยที่ไม่มีชื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในการแบ่งงานรองนายกฯใหม่ ทำให้เข้าใจผิดว่าอาจมีการถอดถอนนายพีระพันธุ์ออกจากตำแหน่งหรือไม่ น.ส.ขัตติยาตอบว่า นายพีระพันธุ์ยังคงดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เหตุผลที่ไม่มีชื่ออยู่ในคำสั่งล่าสุด เพราะเป็นการมอบหมายงานเฉพาะกรณีให้รองนายกฯที่เหลือรับช่วงภารกิจต่อจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ นายพีระพันธุ์ ยังมีภารกิจรองนายกฯที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องสั่งเพิ่มเติมในส่วนนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการจัดโครงสร้างมอบหมายงานภายในคณะรัฐมนตรี ยังดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย มีจุดมุ่งหมายเพื่อบริหารงานให้เดินหน้าต่อไปได้เชื่อพรรคร่วมจับมือเดินหน้าต่อนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแกนนำพรรค รทสช. บางส่วนกดดันให้เปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่เช่นนั้นจะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลว่า ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของแต่ละพรรค อาจมีแนวทางวิธีการที่แตกต่างหลากหลาย กว่าจะได้มติพรรคที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน จำเป็นต้องเปิดพื้นที่ให้มีการถกแถลงกันเต็มที่ ถือเป็นบรรยากาศความงดงามในระบอบประชาธิปไตย แต่เชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาล จะสามารถหาข้อสรุปเพื่อให้ได้สิ่งที่เห็นชอบร่วมกันในพรรคได้ แม้ระหว่างทางอาจมีความเห็นแย้ง เห็นต่างกัน ดูเหมือนว่าจะมีการยึกยักหรือยื่นเงื่อนไขบ้างบางประเด็น เชื่อว่าที่สุดแล้วทุกพรรคจะบรรลุในการแสวงหาแนวทาง ทำให้ประเทศชาติเดินหน้า มีการตั้งรัฐมนตรีใหม่เข้าไปทำงานแทนรัฐมนตรีที่พ้นไปได้ในระยะเวลาอันใกล้ เชื่อว่าจะได้คณะรัฐมนตรีที่มีประสิทธิภาพโดยเร็วที่สุด เร่งเดินหน้านำพาประเทศชาติออกจากวิกฤติ และขอให้จับตาดูผลงานรัฐบาลนับจากนี้ เชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นพลังขับเคลื่อนประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ตรีนุช” ยืนหยัดทำหน้าที่ฝ่ายค้านน.ส.ตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ยืนยันว่าจะยืนหยัดทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีศักดิ์ศรี ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลต่อไป โดยไม่คิดแต่ประโยชน์ส่วนตนเพื่อไปเข้าร่วมกับขั้วรัฐบาล เป็นไปตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ประกาศเจตนารมณ์ไว้ชัดเจนว่าเราจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่มีศักดิ์ศรี จ.สระแก้ว ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีพื้นที่ชายแดนติดกับกัมพูชา ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ปัจจุบันมีความตึงเครียดพอสมควร ตนและชาวสระแก้วขอยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องคนไทยทุกคน และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติบริเวณแนวหน้าด้วยความเสียสละโพลชี้ทุกข์คนไทยทะเลาะกันเองขณะที่นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,154 ตัวอย่าง “อะไรทำให้ท่านมีความสุข หรือไม่มีความสุขในวันนี้?” คะแนนเต็ม 10 พบว่า ด้านความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวได้ 7.84 คะแนน รองลงมาคือด้านวัฒนธรรมประเพณีไทย 7.46 คะแนน ด้านความสัมพันธ์ของคนในชุมชน 7.18 คะแนน สะท้อนให้เห็นว่าความสุขของคนไทยยังยึดโยงกับ “บ้านคือหัวใจ ชุมชนคือราก” และวัฒนธรรมคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว คือเสาหลักของความมั่นคงทางอารมณ์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก ความสุขระดับกลางๆคือ เสรีภาพ เทคโนโลยี ขณะที่ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านได้ 4.93 คะแนน ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ที่น่าเป็นห่วงคือความสุขด้านเศรษฐกิจ อยู่ที่ 4.68 คะแนน และความสุขเมื่อนึกถึงเงินในกระเป๋าได้เพียง 3.89 คะแนน เมื่อนึกถึงนักการเมืองมีความสุขเพียง 3.41 คะแนน ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ความสุขต่ำสุดเมื่อเห็นความแตกแยกของคนในชาติได้เพียง 1.98 คะแนนเท่านั้นส่วนใหญ่สนใจเที่ยวคนละครึ่งด้านสวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,189 คน เรื่อง “คนไทยกับการท่องเที่ยวครึ่งปีหลัง 2568” (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 17-20 มิ.ย. พบว่าร้อยละ 73.68 สนใจโครงการเที่ยวคนละครึ่งที่เปิดให้ลงทะเบียน ร้อยละ 59.48 ระบุว่าในครึ่งปีหลังจะเที่ยวในประเทศ สนใจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ผจญภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มีร้อยละ 57.53 ที่รู้สึกไม่เชื่อมั่นต่อการจัดการและส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลปัจจุบันไม่เอา ก.ม.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯนิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “สถานบันเทิงครบวงจรจะได้เกิดไหม” ระหว่างวันที่ 16-18 มิ.ย. พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 56.72 ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน มีร้อยละ 24.12 เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน และส่วนใหญ่ร้อยละ 84.15 ระบุว่าไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน ร้อยละ 11.31 เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีกาสิโน และร้อยละ 3.26 เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนสำหรับความคิดเห็นต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ยังอยู่ในสภา ร้อยละ 37.10 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติไม่ผ่านร่างในวาระแรก รองลงมาเชื่อว่าจะมีการเลื่อนพิจารณาออกไป มีร้อยละ 19.85 ที่เชื่อว่า สภาจะลงมติผ่านในวาระแรก และส่วนใหญ่ร้อยละ 61.60 เห็นด้วยกับการทำประชามติต่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่