“อิ๊งค์” นำทีมรับฟังปัญหาชาวสวนผลไม้เมืองจันท์ ลองตัดทุเรียนกับมือ แซว “เบากว่าอุ้มลูกอีก” ชาวสวนเสนอ “ลิซ่า” ช่วยโปรโมตดันยอดส่งออก ชักชวนคนไทยช่วยกันกินผลไม้ไทย กำชับพ่อเมืองจันทบุรีแก้ปัญหาขนส่งล่าช้า อุดหนุนกระท้อนไปฝาก “แม่-พี่ชาย” “ณัฐพงษ์” เชื่อ สส.ปชน.ที่เหลือไม่มีงูเห่า เชื่อมั่นข้อมูล “ยอดชาย” 55 ล้านช็อปงูเห่า “นฤมล” ลั่นกล้าธรรมพร้อมเลือกตั้งทุกเวลา ยันไม่ใช่สาขาพรรคไหน “หญิงหน่อย” อ่านแถลงการณ์ยอมรับ ทสท.มีปัญหาภายใน ยินดี “อนุดิษฐ์-การุณ” พบพรรคที่ใช่ “แสวง” แจงทำคดีฮั้ว สว.ทันกำหนดแม้เสถียรภาพรัฐบาลจะง่อนแง่น อันเป็นผลจากการกระทบกระทั่งกันของ 2 พรรคร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงเดินหน้าทำงานต่อ นำคณะลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาจากเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ภาคตะวันออก ที่ จ.จันทบุรี“อิ๊งค์” รับฟังปัญหาชาวสวนผลไม้เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 พ.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ อาทิ น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ออกเดินทางจากกองบินตำรวจท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ไปยังสนามบินหมวดบิน 31 ฝูงบินทหารเรือ 3141 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และเดินทางต่อไปยังสวนรักตะวัน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ รับฟังปัญหาต้นทุนการผลิตและผลผลิต จากเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ในพื้นที่ภาคตะวันออก และแนวทางการให้ความช่วยเหลือ มีนายวรายุทธ ทองสุข สส.จันทบุรี เขต 1 นายปรัชญาวรรณ ไชยสืบ สส.จันทบุรี เขต 2 และ น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี เขต 3 จากพรรคประชาชน (ปชน.) ร่วมรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาด้วยเกษตรกรชง “ลิซ่า” อินฟลูฯ เพิ่มยอดส่งออกทั้งนี้ น.ส.แพทองธารรับฟังรายงานและข้อเสนอจากตัวแทนเกษตรกร ที่ขอให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งชาวไทย ชาวจีน ส่งออกทุเรียนด้วยการอำนวยความสะดวกให้ราบรื่น เช่น มีแล็บตรวจทุเรียนในพื้นที่หลักที่มีการผลิตทุเรียน ให้รัฐบาลใช้ซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทย เช่น ลิซ่า Blackpink โปรโมตผลไม้ไทยเพื่อรักษากลุ่มลูกค้าเดิม และช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายผลไม้ไทยสูงกว่าเดิม จากปีละ 2-3 แสนล้านบาท เป็น 5 แสนล้านบาทได้ รวมถึงให้เร่งช่วยแก้ปัญหาการส่งออกล่าช้าเนื่องจากมีตู้คอนเทนเนอร์ค้างหน้าด่าน 700-1,000 ตู้ ทำให้ล่าช้า เดิมใช้เวลา 14 วัน แม้รัฐบาลจะช่วยแก้ปัญหาแล้ว แต่ยังคงใช้เวลา 8-12 วัน อยากให้เร็วขึ้น พร้อมขอให้อนุมัติงบกลางประมาณ 100 ล้านบาท เป็นเงินเยียวยาความเสียหายทดลองตัดทุเรียนในสวนกับมือน.ส.แพทองธารกล่าวว่า ตั้งใจมาพูดคุยกับชาวสวนว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง ภาพรวมมีผลไม้ล้นตลาด รัฐบาลนำเอกชนเข้ามาช่วยซื้อไม่ให้ราคาลดลงเยอะ เราอยากสนับสนุนเรื่องการวิจัยเพิ่มเติม ไปมาทุกจังหวัดทั่วประเทศเน้นเรื่องการวิจัย และพัฒนาโปรดักส์ให้ดียิ่งขึ้น สั่งการในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว และจะย้ำเรื่องความเร็วของด่านในการส่งทุเรียนให้ใช้เวลาน้อยที่สุด ทั้งนี้ ขอให้ ผวจ.จันทบุรี ตั้งทีมทำงานพูดคุยกันว่าในพื้นที่อยากได้แบบไหน รวมถึงให้กำหนดราคาสินค้าให้ชัดเจน สำหรับเรื่องแรงงานมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยไปดูในกฎระเบียบว่าทำอย่างไรได้บ้าง ส่วนเรื่องของช้างป่าจะดูให้เป็นกรณีพิเศษ เพราะมีอันตรายถึงชีวิตคน เรื่องนี้สำคัญที่สุดโลกเราเปลี่ยนไป ถ้าเรายังมีลมหายใจเราก็สู้ได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มาถึงชีวิต ถ้าคิดไม่ออกอาจส่งคำถามมาที่ผู้ว่าฯ ว่ามีข้อแนะนำอะไรบ้าง ขอฝากผู้ว่าฯไว้ก่อน เพื่อเป็นช่องทางที่สามารถพูดคุยกันได้ จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมจุดไลฟ์สดขายทุเรียนของกลุ่ม Young Smart Farmer และรับฟังการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 ดูระบบการบริหารจัดการและควบคุมการปนเปื้อนสารเคมีตกค้างในทุเรียนเพื่อการส่งออก จากนั้นได้ปลูกต้นทุเรียนและรับมอบทุเรียนหมอนทองเป็นที่ระลึกจากสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี เดินดูต้นทุเรียนร้อยปี พร้อมกับทดลองตัดทุเรียนในสวน ก่อนจะกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ยังเบากว่าอุ้มลูกอีก”ชวนคนไทยช่วยกันกินผลไม้ไทยต่อมา เวลา 12.30 น. ที่โรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท น.ส.แพทองธารเยี่ยมชมบูธร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT ร่วมรณรงค์รับประทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล โดยมีมวลชนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งรอต้อนรับและมอบดอกกุหลาบสีแดงให้กำลังใจ นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเจอพี่น้องเกษตรกรชาวสวนได้พูดคุยเรื่องการส่งออก ผลไม้ไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก อยากให้คนไทยทานผลไม้ไทยกันเยอะๆ เพราะทั่วโลก ยกให้ผลไม้ไทยเป็นผลไม้ที่มีชื่อเป็น Kings of Fruit และ Queen of Fruit ขอให้ช่วยกัน ปีนี้ ฝนตกเยอะหน่อย ผลผลิตออกค่อนข้างเยอะ ขอเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและชาวสวนทุกคน จากนั้นเยี่ยมชม บูธร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT ที่มีการนำผลไม้มาทำเมนูสร้างสรรค์ต่างๆ และมอบป้ายเครื่องหมาย Thai SELECT ให้แก่ผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมเตรียมมาตรการระบายผลไม้ไว้แล้วจากนั้นเวลา 13.35 น. ที่บริษัท ดรากอน เฟรช ฟรุท จำกัด น.ส.แพทองธารเยี่ยมชมขั้นตอนกระบวนการคัดแยกและบรรจุมังคุดส่งออกไปตลาดต่างประเทศ และเยี่ยมชมบูธกิจกรรมแปรรูปผลไม้ (เต่าบิน) และโมเดลความร่วมมือนำเมนูผลไม้เสิร์ฟบนเครื่องบิน ของสายการบินเอกชน พร้อมรับฟังปัญหาจากเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย มีตัวแทนผู้ประกอบการรายย่อยสะท้อนปัญหาความล่าช้าการขนส่งทุเรียน น.ส.แพทองธารกล่าวตอบว่า เราเตรียมมาตรการไว้ หมดแล้ว ที่บอกว่าเดือน มิ.ย. มังคุดจะออกเป็นเนื้อแก้ว เราจะช่วยระบายสินค้า ให้กระทรวงพาณิชย์ดูต่อเรื่องนี้จนจบทั้งฤดูที่ผลไม้ออกทั้งหมด วันนี้ตู้ที่ติดด่านจำนวนเริ่มสั้นลง ถ้าทำให้มีคุณภาพดีก็ไม่ต้อง ตรวจมาก วันนี้มาดูกระบวนการทั้งหมดอย่างเป็น ระบบ รับฟังความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับ บางเรื่องจะรับ ไปดูเอง จากนั้นตรวจการคัดบรรจุทุเรียนคุณภาพเพื่อการส่งออก การแปรรูปทุเรียน และวิธีวัดความ อ่อนแก่ทุเรียนอุดหนุนกระท้อนฝาก “แม่–พี่ชาย”กระทั่งเวลา 14.45 น. น.ส.แพทองธารแวะเดินตลาดผลไม้เนินสูง ทักทายพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของ อยู่ในตลาด พร้อมอุดหนุนซื้อผลไม้ไปฝากคนในครอบครัว อาทิ กระท้อน 3 กิโลกรัม ไปฝากคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ คุณแม่ และนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย เพราะชื่นชอบ ซื้อขนมไปฝากลูกๆ นอกจากนี้ยังซื้อมังคุด 1 ลัง และอุดหนุนทุเรียนกวน พร้อมชิมและแจกจ่ายทีมงาน บอกว่าจะซื้อกลับไปกินเอง ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ“ณัฐพงษ์” เชื่อ สส.ที่เหลือไม่มีงูเห่าเวลา 09.00 น. ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้พรรค ปชน. เดินหน้าร่างหนังสือส่งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตีความหนังสือที่น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรค ปชน. ยื่นแสดงความประสงค์ไม่ร่วมงานกับพรรคก่อนหน้านี้ ถือเป็นหนังสือลาออกหรือไม่ ส่วนกรณีพรรคกล้าธรรมระบุว่าน.ส.กฤษฎิ์ ไม่ใช่งูเห่า แต่เป็นสนิมที่เกิดขึ้นภายในพรรค ปชน.เอง สังคมน่าจะเห็นว่าเหตุผล น.ส.กฤษฎิ์ฟังไม่ขึ้น ไม่เกี่ยวกับปัญหาภายในพรรค แต่ปัญหาน่าจะเป็นพรรคปลายทาง ยังเชื่อมั่นเพื่อน สส.ทุกคนในตอนนี้ ว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว ส่วนที่พรรคกล้าธรรมบอกจะมีหลายคนเตรียมย้าย หากมั่นใจในข้อมูลก็เปิดชื่อมาเลยปัดลงพื้นที่ชลบุรีวัวหายล้อมคอกผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ยื่นตรวจสอบจริยธรรมนายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรค ปชน. กรณีเปิดเผยข้อมูลตัวเลขการซื้องูเห่า 55 ล้านบาท นายณัฐพงษ์ตอบว่า ปล่อยไปตามกระบวนการ เชื่อมั่นในตัวนายยอดชาย เชื่อมั่นในข้อมูล เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เป็นการเช็กเสียงสนับสนุนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่ใช่การเช็กเสียงโดยตรง แต่ไปฟังสมาชิกพรรคว่าต้องการให้ขับเคลื่อนไปในแนวทางใด ยืนยันการลงพื้นที่ไม่ใช่วัวหายแล้วล้อมคอก การที่ สส.ของพรรคจะย้ายพรรคออกไป เป็นการขัดอุดมการณ์พรรค ต้องส่งตัวแทนของพรรคไปดูแลในพื้นที่ที่ประชาชนมอบความไว้วางใจมาให้เราขอทุกฝ่ายใช้อำนาจตรงไปตรงมาเมื่อถามว่าการตรวจสอบคดีฮั้ว สว. ถูกมองเป็นศึกระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน นายณัฐพงษ์ตอบว่า อยากให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจรัฐดำเนินการตรงไปตรงมา ตรวจสอบที่มา สว.ตามหลักฐาน และพยาน ไม่อยากให้เร่งเครื่อง หรือไปดำเนินการใดๆ ด้วยเหตุผลทางการเมืองทั้งหมด เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะที่คุมดีเอสไอ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ส่วนตัวก็ตั้งข้อสังเกตในบางอย่าง มีการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ที่ค่อนข้างพิเศษ คือไม่ให้คุมแค่เฉพาะดีเอสไอ ตั้งคำถามมาตลอดอยู่แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญในฐานะองค์กรอิสระ เราไม่อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญเขียนคำวินิจฉัยใดๆ เพื่อสร้างส่วนต่อขยายของรัฐธรรมนูญ เราเองก็ต้องเดินหน้าออกแบบแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำอย่างไรให้องค์กรอิสระดำเนินไปได้ตามหลักสากลมากขึ้น เมื่อถามถึงสถานภาพของรัฐบาล นายณัฐพงษ์ตอบว่า สิ่งที่เราตั้งสมมติฐานว่าเป็นเกมการเมือง ที่พรรคร่วมรัฐบาลใช้อำนาจรัฐห้ำหั่นกันเอง ถ้าเป็นเช่นนั้นเสถียรภาพของรัฐบาลอาจมีปัญหา แต่สิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากรัฐบาลคืออยากให้มุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชน และใช้อำนาจรัฐตรงไปตรงมามากกว่า“นฤมล” ลั่น ลต.เมื่อไหร่พร้อมเสมอที่โรงแรมมารวย การ์เด้น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวเปิดการสัมมนาขับเคลื่อนร่างนโยบายด้านการศึกษา พรรค กธ. ร่วมกับคณะทำงานพรรคว่า การศึกษาถือเป็นหัวใจสำคัญ นอกเหนือจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราจะลงพื้นที่ไปขยายผลในแต่ละภูมิภาคต่อไป เราอยากได้นโยบายที่เข้ากับบริบทของแต่ละพื้นที่ ต้องอาศัยทุกคนมาร่วมพัฒนาการศึกษาด้วยกัน ขณะนี้พรรคเรามีหลายคนทยอยเข้ามาร่วม และจะมีเพิ่มอีกเรื่อยๆ ต่อมานางนฤมลให้สัมภาษณ์ว่า พรรค กธ.กำลังขยับขับเคลื่อนนโยบายพรรค เราไม่ได้ให้ความสำคัญเฉพาะภาคการเกษตรเท่านั้น แต่ภาคการศึกษาก็ให้ความสำคัญเพื่อนำไปสู่ในการพัฒนาประเทศ ถือเป็นการเตรียมพร้อมของพรรค ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เราพร้อมเสมอยันกล้าธรรมไม่ใช่สาขาพรรคใครเมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคประชาชนท้าให้เปิดรายชื่อ สส.ที่จะย้ายไปสมทบพรรค กธ. นางนฤมลตอบว่า เป็นความเห็นส่วนตัวของนายณัฐพงษ์ ส่วนของพรรค กธ.เราต้องให้เกียรติทุกคนที่จะเข้ามาร่วมงานกับเรา ไม่ได้คิดเล่นเกมอย่างที่ฝ่ายค้านมองเรา พร้อมเปิดกว้างรับผู้มีอุดมการณ์ตรงกับเรา ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีพวกใดๆทั้งสิ้น เป้าหมายเราไม่ได้คิดทำเพื่อประโยชน์พรรค แต่ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง เราไม่ได้สร้างคำพูดสวยหรูแต่เป็นแบบนั้นจริงๆ วันนี้ตนกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯหากมีความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราพร้อมลงไปช่วยแก้ไข และประชาชนได้ประโยชน์ เมื่อถามว่าการที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ระบุว่าพูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถึงการย้ายพรรคของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ถูกมองว่าเป็นสาขาพรรคอื่นหรือไม่ นางนฤมลตอบว่า พรรค กธ.คือพรรค กธ. ไม่ใช่สาขาพรรคใด ทั้ง 2 คนมาร่วมงานกับเราเพราะมีอุดมการณ์ตรงกัน ไม่ใช่ต้องวิ่งไปหาฝ่ายเดียวกัน ส่วนการพูดคุยกับนายทักษิณ เพราะทั้ง 2 คนเคยสังกัดพรรค พท. วัฒนธรรมคนไทยต้องไปลามาไหว้“ผู้พันปุ่น” ยังสังกัด “พักการเมือง”วันเดียวกัน น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โพสต์ภาพและข้อความลงเฟซบุ๊ก หลังถูกจับตากรณี น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณย้ายไปร่วมงานกับพรรค กธ.ว่า แก่แล้วครับ ช่วงนี้พักผ่อน เลี่ยงการเมือง หันมาดูแลตัวเองหน่อย ออกกำลังกาย เที่ยวต่างจังหวัด ขึ้นเขาลงห้วย ฟังธรรม บินไปแข่ง Poker ต่างประเทศ ไม่ได้ย้ายไปไหน ยังยืนยันสังกัดเดิม “พักการเมือง” ครับทสท.แถลงยอมรับมีปัญหาภายในช่วงสายที่โรงแรม Renaissance ราชประสงค์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) อ่านแถลงการณ์พรรคกรณีมีสมาชิกพรรค ทสท.บางส่วนลาออก หรือไม่ปฏิบัติตามมติพรรคว่า พรรคยอมรับว่าเกิดความแตกต่างทางแนวคิดตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง สมาชิกส่วนหนึ่งต้องการไปร่วมรัฐบาล อีกส่วนหนึ่งต้องการรักษาจุดยืนและคำมั่นสัญญาที่ให้กับประชาชน ขอทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เราประชุมกันหลายครั้ง เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าพรรค ทสท.ต้องรักษาจุดยืนอุดมการณ์ของพรรค มุ่งสร้างการเมืองสุจริต ขอยืนหยัดทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน จากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ สส.บางส่วนไม่ปฏิบัติตามมติพรรค แสดงตัวไปร่วมรัฐบาล คณะกรรมการจริยธรรมของพรรค ที่มีนายโภคิน พลกุล เป็นประธาน กำลังดำเนินการตามกฎหมายต่อการกระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง พรรคต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนในความผิดพลาดนี้ เพราะเรามีเวลาน้อยมากในการหล่อหลอมอุดมการณ์ความคิดยินดี “อนุดิษฐ์-การุณ” พบพรรคที่ใช่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และนายการุณ โหสกุล ที่แสดงความจำนงไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการทำงานของพรรค เราขอแสดงความยินดีที่ทั้งสองตัดสินใจไปอยู่ในที่ที่คิดว่าเหมาะสมกับตนเอง ได้มาแจ้งหลายเดือนแล้ว เราไม่ขัดข้องเข้าใจในความจำเป็น ยืนยันว่ากรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่กระทบต่อความมุ่งมั่นของพรรค ประเทศไทยในวันนี้กำลังยืนอยู่บนรอยร้าวลึกในหัวใจของคนไทยที่หมดศรัทธากับการเมืองไทย เพราะบ้านเมืองนี้ถูกกัดกร่อนจากนักการเมืองสกปรก และระบบสีเทา นักการเมืองที่ไม่เคยยึดประโยชน์ประชาชน เป็นประเทศที่เสมือนไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เราเข้าใกล้การเป็น “รัฐล้มเหลว” เต็มที ประเทศไทยไม่ควรอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทั้งที่เต็มไปด้วยทรัพยากร เรามีคนเก่งและคนดีมากมาย แต่กลับติดหล่มเพราะระบบการเมืองที่เน่าเฟะ ใช้เงินซื้อเสียง ซื้อ สส. แล้วเข้าไปโกงมโหฬาร ถึงเวลาแล้วที่เราต้องรื้อระบบสีเทาที่เต็มไปด้วยการทุจริต พรรคขอยืนยันว่าเราจะไม่มีวันยอมจำนนไม่ขับงูเห่าดองเค็มเอาไว้อย่างนี้คุณหญิงสุดารัตน์ให้สัมภาษณ์ว่า นอกจาก น.อ.อนุดิษฐ์และนายการุณแล้ว ไม่มีใครในพรรคไปร่วมงานกับพรรคอื่น พร้อมหันไปถามแกนนำและสมาชิกพรรคที่ยืนอยู่ข้างๆ ทุกคนตอบว่าไม่มีและหัวเราะกัน เมื่อถามว่ายังคงเดินหน้าทำการเมืองต่อ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ทำ แต่คนในครอบครัวบอกควรหยุดได้แล้ว แต่พอเห็นปัญหาของประเทศเช่นนี้ ครอบครัวก็อยากให้ทำพรรคนี้ต่อ เมื่อถามว่าหากมีการโหวตพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 แล้วมี สส.พรรคโหวตสวนมติฝ่ายค้านอีก จะมีมาตรการอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ได้พูดไปแล้วแต่เขาจะโหวตอย่างไรต้องไปถามเขา ส่วนจะมีมาตรการขับพ้นพรรคหรือไม่ ขอย้ำว่าไม่ขับออกจากพรรค ทั้ง 6 คนยังเป็นสมาชิกพรรค ทสท.“แสวง” แจงทำคดีฮั้ว สว.ทันกำหนดที่ศูนย์กีฬาบางกอกอารีนา เขตหนองจอก นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาคำร้องคดีฮั้วเลือก สว.ว่า ชั้นนี้อยู่ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ ยังอยู่ในขั้นแรก เมื่อถามว่าจะเสร็จทันภายใน 1 ปีตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ นายแสวงตอบว่า ยังมีเวลาเหลืออยู่อีก 1 เดือน 20 วัน เป็นมาตรการเร่งรัดในส่วนของสำนักงานให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่าขั้นตอนอยู่ในชั้นไหน แต่ในกฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายเลือก สว. ไม่ได้กำหนดเวลาว่าต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายในเวลาเท่าใด เรากำหนดเวลาตัวเองว่าเราจะทำให้เสร็จภายใน 1 ปี เป็นมาตรการเร่งรัด หมายความว่าเราต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ย้ำว่าเท่าที่ดูจากแผนของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ จะดำเนินการแล้วเสร็จตามกรอบเวลานี้ แต่ในส่วนของ กกต. เป็นอีกกรอบเวลาหนึ่งเรื่องที่ถูกร้องไม่ต้องชี้แจงผ่านสื่อเมื่อถามว่ากรณีการร้องเรียนเรื่อง สว. มีส่วนเกี่ยวพันถึงเลขาธิการ กกต. นายแสวงตอบว่า คงไม่ต้องมาชี้แจงทางสื่อฯ เพราะเป็นเรื่องของคดี ไม่ว่าใครถูกร้องเรียนไม่มีความซับซ้อน เราทำงานตามกฎหมายและข้อเท็จจริง แค่ระบบการเลือก สว.อาจซับซ้อนในการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ยืนยันว่าในส่วนของสำนักงาน ดำเนินการตามระเบียบตั้งแต่เริ่ม ทั้งนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าเสร็จไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ ต้องรอดูว่าคณะกรรมการสอบสวนจะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อใด เชื่อว่าเขาเร่งอยู่ในขณะนี้กมธ.ไม่เรียกหัวหน้าพรรคต้นขั้วฮั้วด้านนายฉลาด ขามช่วง ประธานคณะกรรมา ธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาเรียกหัวหน้าพรรคการเมืองที่ถูกกลุ่ม สว.สำรอง พาดพิงมีส่วนรู้เห็นในคดีฮั้วเลือก สว. มาให้ข้อมูลต่อ กมธ.ว่า กมธ.คงไม่เชิญหัวหน้าพรรคที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เพราะเรื่องอยู่ในสำนวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว น.ส.กุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง ยืนยันต่อที่ประชุม กมธ. เมื่อวันที่ 15 พ.ค. กรณีหัวหน้าพรรคการเมืองเกี่ยวข้องกับการฮั้ว สว. เป็นเรื่องจริง และให้การกับดีเอสไอไปหมดแล้ว หาก กมธ.เอามาพิจารณาอีก ความลับในสำนวนดีเอสไออาจเสียหายได้ ส่วนเรื่องที่ น.ส.กุสุมาลวตี ระบุมีการโทรศัพท์ไปหานางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย ที่เป็น กมธ. ป.ป.ช. เพื่อพูดคุยเรื่องเลือก สว.นั้น นางสุขสมรวยยอมรับว่ามีการโทร.ไปจริง แต่ไม่ใช่เรื่องเลือก สว. เป็นเรื่องทั่วไป ทั้งนี้ กมธ.ให้เจ้าหน้าที่สรุปเบื้องต้นก่อนว่าการเลือก สว.บกพร่องตรงไหน หากพบข้อบกพร่องก็อาจมีการพิจารณาอีกครั้งอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่