“แพทองธาร” เยือนกัมพูชาชื่นมื่น เป็นสักขีพยานลงนามเอ็มโอยู 7 ฉบับ ร่วมมือด้านแรงงาน แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามแดน ร่วมกับ “ฮุน มาเนต” เปิดตราสัญลักษณ์ครบรอบ 75 ปีสัมพันธ์การทูตสองประเทศ ย้ำสัมพันธ์ใกล้ชิดเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าจาก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 หารือ “ฮุน เซน” ขอแรงหนุนขับเคลื่อนยกระดับชีวิตประชาชนทั้งสองประเทศ “ชูศักดิ์” โล่งนายกฯดับกระแสปรับ ครม.จูนพรรคร่วมฯเข้าใจกันดีขึ้น มั่นใจโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 ไร้ปัญหา “ณัฐพงษ์” ยัน ปชน.ไม่มีทางเสียบแทน ภท.ในรัฐบาลนี้ ดักคอ รบ.อย่าดื้อ เร่งดันร่างกฎหมายคอมเพล็กซ์เข้าสภาวิสามัญ 28-30 พ.ค.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยไทย-กัมพูชามีการลงนามความตกลง 7 ฉบับ ทั้งความร่วมมือด้านแรงงาน การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมข้ามแดน เน้นย้ำความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ กระชับความสัมพันธ์ 75 ปีของทั้งสองประเทศ“นายกฯอิ๊งค์” เยือนกัมพูชาชื่นมื่นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 เม.ย.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พร้อมนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ออกเดินทางไปเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงพนมเปญเวลา 09.50 น. มีนางจอม นิมล รมว.พาณิชย์กัมพูชา ต้อนรับ แล้วเดินทางต่อไปที่วิมานสันติภาพร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการจากสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกฯ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ก่อนร่วมหารือเต็มคณะเซ็นเอ็มโอยู 7 ฉบับ-ร่วมมือแรงงานต่อมาเวลา 11.50 น. ที่ห้องมะลิ ชั้น 2 วิมานสันติภาพ น.ส.แพทองธารและสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลง 7 ฉบับ อาทิ บันทึกความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหารและการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท) บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯของไทยกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือด้านมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมข้ามแดน หนังสือแลกเปลี่ยนเพื่อปรับเปลี่ยนสาระสำคัญความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานกัมพูชา-ไทย บันทึกความเข้าใจระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยความร่วมมือเรื่องแรงงานและการจัดทำข้อตกลงด้านการจ้างงานไทย-กัมพูชา ความตกลงระหว่างไทยกับกัมพูชาว่าด้วยการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรียืนยันเป็นหุ้นส่วนฉลองสัมพันธ์ 75 ปีจากนั้นนายกฯทั้งสองเป็นประธานพิธีเปิดตราสัญลักษณ์ครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชา และร่วมกันแถลงข่าว โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 75 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ได้หารืออย่างเป็นกันเองและสร้างสรรค์บนพื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจ ยืนยันถึงความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างกัน การเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือทางทหารให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นทุกระดับ ขอบคุณกัมพูชาสำหรับความร่วมมือปราบปรามแก๊งหลอกลวงออนไลน์ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุม ครม.ร่วมอย่างไม่เป็นทางการที่พื้นที่ชายแดนในโอกาสเปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาอย่างเป็นทางการ จะกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันจาก 1 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 15,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี ค.ศ.2027 จะจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ตลอดทั้งปีนี้ เพื่อสะท้อนมิติต่างๆ ของมิตรภาพอันยาวนาน จากนั้นนายกฯกัมพูชาเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารกลางวัน เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายกฯ ที่โถงลำดวล ชั้น 1 วิมานสันติภาพชื่นชม ปธ.สภาฯส่งเสริมบทบาทสตรีต่อมาเวลา 14.30 น. ที่วิมานเอกราช น.ส.แพทองธารและคณะไปวางพวงมาลาและถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ พระบรมรัตนโกศ มีผู้แทนกระทรวงพระราชวังแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาต้อนรับ จากนั้นไปที่สภาแห่งชาติราชอาณาจักรกัมพูชาพบหารือกับสมเด็จมหารัฐสภาธิการธิบดี ควน โซะดารี ประธานสภาแห่งชาติราชอาณาจักรกัมพูชา โดย น.ส.แพทองธารกล่าวชื่นชม สมเด็จมหารัฐสภาธิการธิบดี ควน โซะดารี สตรีคนแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญ และชื่นชมบทบาทการส่งเสริมสตรีและเด็กผู้หญิงในกัมพูชาให้ได้รับการศึกษา พร้อมริเริ่มสนับสนุนความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาประเด็นเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงและสตรีเต็มที่หารือ “ฮุน เซน” ยกระดับชีวิต ปชช.จากนั้นเวลา 16.00 น. ที่วุฒิสภาราชอาณาจักรกัมพูชา น.ส.แพทองธารเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ สรุปสาระสำคัญว่า น.ส.แพทองธารขอบคุณสมเด็จฮุน เซน ต่อการต้อนรับที่อบอุ่น ยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ไทยและกัมพูชามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมายาวนานได้หารือประเด็นความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน ย้ำความมุ่งมั่นจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองแก่ทั้งสองประเทศ ตลอดจนร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งด้านการค้าการลงทุน รับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ผันผวนในระยะต่อไปนายกฯขอรับการสนับสนุนจากสมเด็จฮุน เซน เสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อไป เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี ปลอดภัย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประชาชนทั้งสองประเทศ สมเด็จฮุน เซน พร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับไทยขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกันต่อไป ตอนท้ายทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอื่นๆ ต่อสถานการณ์ในภูมิภาค เน้นย้ำความสำคัญการกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนและกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆช่วงค่ำ นายกฯได้พบปะและรับประทานอาหารค่ำร่วมกับเอกอัครราชทูตและข้าราชการ ที่โรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โภคีธารา“ชูศักดิ์” โล่งพรรคร่วมฯ เข้าใจกันดีขึ้นเมื่อเวลา 09.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังนายกฯยืนยันยังไม่คิดปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะทำให้เหตุการณ์คลี่คลายเข้าใจกันดีขึ้น และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลต่างยืนยันยินดีสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ที่ผ่านมาแค่ผิดคิวว่ากันไป เมื่อนายกฯบอกยังไม่ปรับ ครม.ก็เป็นไปตามนั้น อนิจจังไปก่อน ส่วนสมาชิกพรรคพท.อยากให้ปรับ ครม.กระทรวงการค้าขาย เป็นเรื่องภายในต้องคุยกัน ต้องแก้ปัญหา ไม่ควรปล่อยให้เป็นอย่างนี้ ผู้มีหน้าที่ต้องช่วยกันเต็มที่ จะทำอย่างไรให้ราคาสินค้าดีขึ้นเชื่อไม่มีโหวตล้มร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69เมื่อถามว่าวิเคราะห์กันภายในหรือไม่ว่าหากปรับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจะทำให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ พรรคร่วมฯอื่นขี่คอพรรค พท. นายชูศักดิ์กล่าวว่า มีตัวเลขคณิตศาสตร์การเมืองที่เกี่ยวโยงกับสถานการณ์ความมั่นคงทางการเมือง คนทำงานการเมืองต้องเอาเรื่องนี้มาดู แต่สำคัญสุดไม่มีรัฐบาลไหนเสี่ยงจนถึงขั้นไปตายเอาดาบหน้า ทางการเมืองถือว่าเสี่ยงเกินไป ถ้าทำอะไรให้เรียบร้อย พอจะไปกันได้ต้องว่ากันไป เมื่อถามว่าต้องทนกันไปอย่างนี้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์หัวเราะกล่าวว่า พูดไม่ได้หรอกทางการเมือง การเมืองต้องดูกันเป็นช็อตๆไป ส่วนการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 วันที่ 28-30 พ.ค.และจะพิจารณา พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะสถานการณ์การเมืองคลี่คลายแล้ว การโหวตล้มไม่น่าเกิดขึ้น เมื่อถามว่า คิดว่าจะมีการโหวตล้มร่าง พ.ร.บ.งบประมาณหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าไม่มี“อ้วน” ย้ำสัมพันธ์แนบแน่น “เสี่ยหนู”นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม แกนนำพรรค พท.กล่าวถึงการจับมือควงแขนโชว์สื่อเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ว่า เราทำงานร่วมกันมาอย่างดี วันที่ 22 เม.ย.ประชุมเร่งรัดใช้จ่ายงบฯปี 68 ร่วมกับนายกฯ ปกติเราจะเดินคุยกันจับไม้จับมือกันอยู่แล้วเป็นธรรมดา เป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เรื่องอื่นเป็นแต่ละเรื่องไป การปรับ ครม.นายกฯบอกว่าจะกลับไปคิดถือเป็นข้อมูลหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าท่านจะปรับ แต่เท่าที่ทราบในหมู่รัฐมนตรียังไม่มีการพูดคุยกันว่าต้องถูกปรับ เมื่อถามว่าประชาชนไม่พอใจปัญหาราคาสินค้า หากไม่ปรับ ครม.จะฉุดคะแนนของพรรค พท.ลงไปหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องดู ข้อเท็จจริงว่ามีเหตุผลอย่างไรอยู่ที่ดุลพินิจนายกฯปชน.ย้ำไม่เสียบแทน ภท.ในรัฐบาลนี้ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลจะผลักพรรค ภท.ออกเอาพรรค พปชร.เข้าไปแทนว่า ไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้ว ยืนกรานไปหลายครั้งว่าในสภาฯชุดนี้พรรค ปชน.จะไม่เข้าร่วมรัฐบาล ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยถึงการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใดทั้งสิ้น ช่วงใกล้เลือกตั้งครั้งหน้าถึงจะต้องหารือเรื่องจุดยืนอุดมการณ์การเมืองและจุดยืนการดำเนินนโยบายต่างๆ ตอนนี้ยืนยันไม่มีทาง ไม่เคยมีโอกาสเข้าไปคุย ไม่คิดจะเข้าไปคุยติงอย่ารีบดัน ก.ม.คอมเพล็กซ์เข้าสภาฯนายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ส่วนการเตรียมเปิดสภาฯสมัยวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 พรรค ปชน.เตรียมพร้อมเต็มที่แล้ว มี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปชน. เตรียมเนื้อหาให้สมาชิก ปัญหาคือจัดสรรงบฯไม่ตอบโจทย์ประเทศ ในอนาคต บริบทโลกและสถานการณ์ประเทศที่ เปลี่ยนแปลงไป ที่ประธานสภาฯ ระบุว่าหากพิจารณางบฯปี 69 และร่าง พ.ร.ก. 2 ฉบับเสร็จ ยังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อได้ น่าจะยังเร็วเกินไป ต้องใช้เวลาศึกษาความเสี่ยง การฟอกเงิน ทุจริตคอร์รัปชัน รัฐบาลไม่ควรหยิบขึ้นพิจารณา แม้ถือเสียงข้างมาก พรรค พท.น่าจะมีบทเรียนที่พยายามผลักดันเข้าสภาฯ แต่สุดท้ายพรรคร่วมฯไม่เห็นด้วยไม่ควรรีบเร่งเกินไปซัดสื่อสารไม่ชัดเจรจาภาษีทรัมป์นายณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงการเจรจาต่อรองกำแพงภาษีกับสหรัฐฯว่า น่าจะยังสื่อสารไม่ตรงกัน สรุปแล้วสหรัฐฯเลื่อนหรือไทยเป็นคนเลื่อน ไม่อยากให้เข้าใจผิดหรือสื่อสารไม่ตรงกัน เมื่อถามว่าวีซ่าที่สหรัฐฯแบนนายกฯและรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับการส่งชาวอุยกูร์กลับจีนมีผลต่อการเจรจาหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิ่งหนึ่งที่เราสื่อสารมาตลอดว่าต้องพิจารณาให้รอบคอบ รัฐบาลควรแสดงความชัดเจนให้มากขึ้นว่าตกลงแล้วการเจรจา รวมถึงวันเจรจาเรามีความพร้อมมากแค่ไหน อย่างไร“วีระพันธุ์” นั่ง ปธ.ศึกษาคอมเพล็กซ์เมื่อเวลา 10.40 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เลือกประธาน กมธ. ที่ประชุมเลือกนายวีระพันธุ์ สุวรรณนามัย สว. เป็นประธาน กมธ. นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. เป็นรองประธานคนที่ 1 นายนิพนธ์ เอกวานิช สว. เป็นรองประธานคนที่ 2 นายประเทือง มนตรี สว. เป็นรองประธานคนที่ 3 น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. เป็นรองประธานคนที่ 4 น.ส.อัจฉาพรรณ หอมรส สว. เป็นเลขานุการกมธ. นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว. เป็นโฆษกกมธ. ประชุมทุกวันพฤหัสบดีเวลา 10.00 น. ทั้งนี้นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว.ประธาน กมธ.กล่าวว่า ที่ประชุมหารือจะเชิญ ครม.มาให้ข้อมูล ยืนยันตั้งกมธ.ขึ้นมาไม่ใช่เกมการเมืองต่อรองกับรัฐบาล เป็นเรื่องผลประโยชน์ประเทศ สังคม เศรษฐกิจ ขอให้มั่นใจ กมธ.เป็นกลาง ทำงานเพื่อผลประโยชน์ประเทศ ไม่ใช่เรื่องการเมือง“จรัญ” แจ้งติดสอนไม่ขอรับเก้าอี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม กมธ.นัดแรกเลือกประธาน กมธ. นายแล กมธ.อาวุโสสูงสุดทำหน้าที่ประธานที่ประชุมชั่วคราว มี กมธ.เข้าประชุม 22 คน จาก 34 คน มี สว.ลาประชุม 6 คน ระบุเดินทางไปต่างประเทศช่วงปิดสมัยประชุม มีแคนดิเดตชิงประธาน กมธ. 3 คน คือนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. และนายจรัญ ภักดีธนากุล โดยนายจรัญปฏิเสธไม่ขอรับตำแหน่งเพราะติดงานสอนจำนวนมาก“แล” ขอ กมธ.เป็นกลาง–อิงวิชาการนายแล ดิลกวิทยรัตน์ สว. กมธ.พิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ วุฒิสภาประชุม กล่าวว่า ต้องเน้นย้ำเรื่องความเป็นกลางและต้องอิงหลักวิชาการที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเลี่ยงครหามีเหตุผลการเมืองอยู่เบื้องหลัง และต้องขยายการศึกษาไปถึงการพนันออนไลน์ด้วย เพราะเป็นปัญหาใหญ่ แต่ไม่แน่ใจว่าการศึกษาทัน 180 วันหรือไม่ ต้องดูหน้างานและตามเนื้อผ้าอีกครั้ง ที่ผ่านมาเคยมีการศึกษาวิจัยมาแล้ว เช่น การศึกษาของคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหากนำประโยชน์จากงานวิจัยมาพิจารณา กมธ.คงไม่ใช่เริ่มนับหนึ่งใหม่ทสท.ชี้งบภัยแล้ง 7.4 พัน ล.ส่อทุจริตนายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เปิดเผยถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลาง งบฯปี 68 รวม 7,404 ล้านบาท ดำเนินโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 2,748 รายการว่า ขอตั้งข้อสังเกตโครงการจำนวนมากในงบกลางชุดนี้เป็นโครงการขนาดเล็กมูลค่าไม่เกิน 5 แสนบาทต่อรายการ มีเจตนาหลีกเลี่ยงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างแบบประกวดราคา ทำให้ตรวจสอบได้ยากยิ่งขึ้น หนึ่งในตัวอย่างคือโครงการขุดลอกคูคลอง พบว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เคยรายงานว่ามีการทุจริตและใช้งบฯไร้ประสิทธิภาพมากกว่า 1,000 ล้านบาทในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรณีขุดลอกซ้ำซ้อนในพื้นที่เดิม ขุดไม่ตรงตามแบบ หรือเบิกงบฯทั้งที่ไม่ได้ดำเนินการจริง กลายเป็นแหล่งผลาญงบแผ่นดิน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยรายละเอียดโครงการทั้งหมดอย่างโปร่งใส พร้อมตั้งคณะกรรมการอิสระที่มีตัวแทนจากภาคประชาชนและองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเข้าร่วมตรวจสอบการใช้งบฯ ต้องจัดลำดับความเร่งด่วนตามพื้นที่ประสบภัยจริง ไม่ใช่ใช้อำนาจบริหารกระจายงบฯไปยังฐานเสียงหรือกลุ่มใกล้ชิดรัฐบาล“สนธิญา” ยื่น ป.ป.ช.สอย “พีระพันธุ์”เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ ยื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยนายสนธิญากล่าวว่า ได้รับเอกสารจากประชาชนให้ตรวจสอบกรณีนายพีระพันธุ์กล่าวอ้างพรรค รทสช.มีดีเอ็นเอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ที่ไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้ อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญและกรณีนายพีระพันธุ์ถูกกล่าวหาเป็นกรรมการบริหารบริษัท 3 แห่ง มีส่วนพิจารณาหรือตัดสินใจ มีหุ้นส่วนในบริษัทตั้งแต่ 10%-77% ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา170(4) มาตรา179(9) กรณีเป็นกรรมการบริหารบริษัทเอกชนที่ผู้ดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารต้องลาออกก่อนดำรงตำแหน่งนั้นๆ รวมทั้งฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปคปท.จี้แพทยสภาสรุปผลสอบปมชั้น 14ที่อาคารมหิตลาธิเบศร กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เครือข่ายกองทัพธรรม นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.ยื่นหนังสือถึงแพทยสภา เรียกร้องให้เร่งสรุปข้อเท็จจริงการเจ็บป่วยและการรักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ป่วยหรือไม่ หรืออาการวิกฤติหรือไม่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์อยู่แล้ว ขอให้รีบสรุปและยืนอยู่บนหลักการจริยธรรม จรรยาบรรณแพทย์ และขอเรียกร้องให้อนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่มี ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี เป็นประธานทำหนังสือเชิญนายทักษิณมาให้ข้อมูลปชน.จี้ล่า “บอส กระทิงแดง” มารับโทษเมื่อเวลา 12.30 น. ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม.และนายนพดล ทิพยชล สส.นนทบุรี พรรค ปชน. แถลงขอให้รัฐบาลติดตามตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส อยู่วิทยา กลับมาดำเนินคดีกรณีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ก.ย.55 ว่า ในฐานะ กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาฯ และเคยอภิปรายคดีนี้ ขอเรียกร้องถึงนายกฯให้ติดตามตัวนายวรยุทธมารับโทษ หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้ไปเมื่อปี 64 แต่ไม่เคยมีความชัดเจน ปีที่ผ่านมาได้ไปประเทศฟิจิ มีเบาะแสว่าช่วงปี 63-64 นายวรยุทธเดินทางไปยังรีสอร์ตแห่งหนึ่งในฟิจิบ่อยครั้ง ที่พักแห่งนี้เคยเป็นของกระทิงแดง แต่ขายหุ้นให้ต่างชาติไปแล้ว อยากให้นายกฯที่เป็นลูกหลานตำรวจเช่นกัน เร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดี รัฐบาลไม่ควรนิ่งดูดาย ควรประสานตำรวจสากล ลองตรวจดูธุรกิจในเครือกระทิงแดงมีอยู่ในประเทศใดบ้าง ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้สิ้นกระแสความอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่