น้ำมันแพงค่าไฟแพงเป็นปัญหามาหลายปี ในส่วนของค่าไฟนั้นปีนี้คนไทยน่าจะได้ใช้ไฟฟ้าราคาถูก หลังจากที่คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯผู้มากบารมี ประกาศอย่างมั่นใจหลายครั้งว่าจะทุบค่าไฟให้ถูกลงอยู่ที่หน่วยละ 3.70 บาท แต่สำหรับน้ำมันคงยากที่คนไทยจะได้บริโภคราคาถูก เพราะน้ำมันที่ใช้ส่วนใหญ่ต้องนำเข้า ยิ่งได้ฟังแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันของคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ยิ่งออกทะเลไปใหญ่ แสดงถึงความไม่เข้าใจกลไกลตลาดราคาน้ำมัน และโครงสร้างราคาน้ำมันของประเทศไทยรมต.พีระพันธุ์ทั้งโพสต์เฟซบุ๊กและกล่าวในเวทีสาธารณะว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างร่างกฎหมายกำกับการประกอบกิจการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง จะยกเลิกการอ้างอิงราคาน้ำมันจากราคาตลาดโลก เนื่องจากส่วนหนึ่งที่ราคาน้ำมันไทยแพงมาจากการไปอ้างอิงราคาต่างประเทศ ทั้งที่น้ำมันซื้อขายใช้กันอยู่ในประเทศ ถ้าทำให้ราคาน้ำมันไม่ต้องอ้างอิงราคาต่างประเทศ ก็จะทำให้ราคาน้ำมันถูกลงได้ และจะมีระบบพิสูจน์ต้นทุน ให้ผู้ค้าน้ำมันรายงานต้นทุนมายังคณะกรรมการก่อนที่จะปรับราคาน้ำมันฟังเผินๆดูดีมีความหวังจะได้ใช้น้ำมันราคาถูก แต่ถ้าถามผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ คนในแวดวงพลังงาน ต่างส่ายหัวกันเป็นแถว ไม่เพียงรัฐมนตรีไม่ได้ศึกษากลไกตลาดน้ำมันให้ถ่องแท้ ซ้ำยังดึงดันทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูก โดยไม่รับฟังเสียงทัดทานจากผู้รู้จริงการอ้างอิงราคาน้ำมันในตลาดโลก ไม่ใช่เรื่องที่ไทยกำหนดเองจากความอยากหรือไม่อยาก แต่เป็นเพราะไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศสูงมาก ปัจจุบันเราใช้น้ำมันเฉลี่ย 150 ล้านลิตรต่อวัน เป็นน้ำมันนำเข้าจากต่างประเทศกว่า 90% มีปริมาณน้ำมันที่เราผลิตเองและใช้ในประเทศแค่ 10% เมื่อเราซื้อน้ำมันจากต่างประเทศก็ต้องมีการโควตราคา ซึ่งไม่แตกต่างจากประเทศผู้นำเข้าน้ำมันอีกหลายสิบประเทศทั่วโลก และการกำหนดราคาน้ำมันในตลาดโลกก็มีการอ้างอิงราคากันอยู่ไม่กี่ตลาดเท่านั้นตลาดกลางซื้อขายน้ำมันดิบมี 3 แหล่ง ได้แก่ แหล่งน้ำมันดิบดับบลิวทีไอ (WTI: West Texas Intermediate) เป็นราคาอ้างอิงในแถบทวีปอเมริกา น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) แหล่งผลิตอยู่ในทะเลเหนือ เป็นราคาอ้างอิงในแถบยุโรป และน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) จากแหล่งตะวันออกกลาง ส่วนตลาดกลางซื้อขายน้ำมันสำเร็จรูป 3 แหล่งได้แก่ ตลาดนิวยอร์ก (NYMEX-New York Mercantile Exchange) ตลาดลอนดอน (IPE-International Petroleum Exchange) และตลาดสิงคโปร์ (SIMEX-Singapore Monetary Exchange)สำหรับราคาขายปลีกในประเทศไทยอ้างอิงตามราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่มีการซื้อขายกันใน ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งมีการเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เป็นตลาดที่มีบริษัทและผู้ค้าน้ำมันจำนวนมาก มีการตกลงซื้อขายน้ำมันปริมาณมาก ทำให้ไม่มีผู้แทรกแซงหรือมีอิทธิพลเหนือตลาด เป็นราคาที่สะท้อนภาวะอุปสงค์และอุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ ลองคิดภาพว่าถ้าไทยทำตามแนวทางคุณพีระพันธุ์ กำหนดราคาซื้อขายน้ำมันเองโดยไม่อ้างอิงตลาดโลก แล้วจะมีประเทศไหนมาขายน้ำมันให้เราต้นทุนนำเข้าเนื้อน้ำมันของแต่ละประเทศใกล้เคียงกัน ต่างกันก็ตรงภาษีของแต่ละประเทศ และนโยบายการช่วยเหลืออุดหนุนภาคส่วนต่างๆ ดังนั้น ถ้าจะแก้ปัญหาน้ำมันแพง ควรไปทบทวนเรื่องการเก็บภาษีในโครงสร้างราคาน้ำมัน ไม่ใช่อ้างมาเรื่องการอ้างอิงราคาตลาดโลกเป็นต้นเหตุทำให้ราคาน้ำมันแพงการยกเหตุผลแบบคิดเองเออเองอย่างนี้ ไม่เพียงสร้างความสับสนแก่ประชาชน ทั้งยังสร้างความอึดอัดให้กับข้าราชการในกระทรวงพลังงาน ที่ถูกบีบให้ร่างกฎหมายใหม่โดยไม่อยู่บนพื้นฐานความจริงของโครงสร้างราคาน้ำมันของประเทศระวังออกกฎหมายมาแล้วบังคับใช้ไม่ได้ จะโกลาหลทั้งประเทศ.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม