กลไกสื่อสารผมยังโบราณ...ได้ยินข่าวทองแถม นาถจำนง ตายจากปากจี๊ด จิระนันท์ วันต่อมาไปงานแถลงข่าวรางวัลนาฏราช ของคุณอ๊อด ทิฟฟี่ ก็ได้ยินข่าวศาสตราภิชาน ล้อม เพ็งแก้ว ตาย จากอัจฉรา เพื่อนเอียด นิพัทธ์พรกำลังละล้าละลังก็ได้ฟังข่าวต่อในงานเลี้ยงเพื่อนร่วมรุ่น บสส.1 ศักดิ์สิทธิ์ วิบูลย์ศิลป์โสภณ บอกไปงานเก็บศพครูล้อมมาแล้วจึงยังมีความหวังจะได้โอกาสไปในงานเผาช่วงเวลานี้ไม่มีอะไรดีกว่า ค้นหนังสือที่ครูล้อมเขียน หาเรื่องสักเรื่อง เอามาเขียนแสดงความคารวะและระลึกถึง เจอหนังสือเสนาะเสน่ห์สำนวนไทย(มติชน พิมพ์ พ.ศ.2548) ใกล้มือผมตั้งใจเลือกเรื่องบ่างช่างยุ...ครับ สำหรับผมนี่คือเรื่องที่ยืนยัน ความรู้ รู้ลึก รู้จริง รู้แบบครูล้อมครูจับประเด็นที่คุณเสนาะ เทียนทอง ตอนนั้น (เม.ย.2545 เป็นประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย) พูดถึงกรณีคุณอลงกรณ์ พลบุตร สส.เพชรบุรี ประชาธิปัตย์ จะรวบรวมรายชื่อประชาชนถอดถอนนายกฯทักษิณและมีความอีกตอนหนึ่ง “จะไปฟังอะไร เวลานี้บ่างอยู่ที่เพชรบุรี เหลืออยู่ตัวเดียว ตัวอื่นเขาเอาไปแกงหมดแล้ว” (ครูล้อม เขียนลง นสพ.เพชรภูมิ นสพ.ท้องถิ่นเพชรบุรี คนเพชรเขียนถึงคนเพชรด้วยกัน)ครูล้อมบอก นักการเมืองนักเลงเก่าอย่างคุณเสนาะ ให้สัมภาษณ์ทุกครั้ง จะมีสำนวนไทยประกอบครูเก่าทันเหลี่ยมนักเลงเก่า ถือเป็นโอกาสเล่าที่มาสำนวน บ่างช่างยุ ออกมาให้เด็กรุ่นหลังได้รู้ยืนยันความโง่ของเด็กรุ่นผมครับ...ท่องอาขยาน บทดอกสร้อย “ตุ๊ดเอ๋ย ตุ๊ดตู่ ในเรี่ยวในรูก็อยู่ได้...” มาตั้งแต่เด็กจนแก่ยังไม่รู้เลย เจ้าตุ๊ดตู่ที่ฟังชื่อแสนจะคุ้นๆนั้น มันเป็นตัวอะไรแน่ตอนประเทศไทยได้นายกฯชื่อเล่นตู่ ผมอ่านหนังสือ จึงเพิ่งรู้ว่า ตุ๊ดตู่เป็น “วรนุช” พันธุ์ที่สาม ต่อจากเหี้ยตะกวดถิ่นพำนักอยู่แถวๆภาคใต้พอมาถึง บ่างช่างยุ นี่ก็ยิ่งแย่...พูดกัน เขียนกันไปมากมาย เอาจริงๆยังไม่รู้เจ้าบ่างที่ว่า เนื้อตัวหน้าตาเป็นไง?ครูล้อมอธิบายว่า แบบเรียนเรื่องนิทานสุภาษิต เกิดขึ้นจากกรมศึกษาธิการ ครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ให้หัวข้อจรรยาเป็นกระทู้สำหรับแต่งและขอแรงให้สมาชิกสามัคยาจารยสมาคม แต่งประกวดกันกล่าวจำเพาะนิทานเรื่องบ่างช่างยุ ผู้แต่งคือคุณพระจรูญชวนพัฒน์ (ทองสุก อินทรรัศมี) ได้ผูกเป็นเรื่องตัวบ่างบ่างเป็นสัตว์คล้ายกระรอก มีแผ่นหนังข้างตัวผ่ายืดขาหน้าขาหลังจนถึงหาง สามารถร่อนถาไปได้ไกลๆบ่างอิจฉาค้างคาวที่หากินรวมอยู่กับฝูงนกฝูงลิงค่าง จึงไปยุยงฝูงนกฝูงลิงค่างว่าเป็นสัตว์ต่างชนิดกัน นกควรอยู่กับฝูงนก ลิงค่างควรอยู่กับฝูงลิงค่าง ไม่ควรให้ค้างคาวเข้าไปอยู่ด้วยเมื่อนกและลิงไล่ค้างคาวไปไกล เจ้าบ่างออกหากินบ้าง ก็ถูกนกเค้าแมวไล่จิกตี หนีเข้าพุ่มไม้ก็ถูกลิงค่างรุมกัดจนตาย เรื่องบ่างช่างยุจึงกลายเป็นสำนวนที่มีความหมาย ชอบส่อเสียดยุยงให้คนเขาแตกแยกกันความรู้แบบครูล้อม รู้แบบครูเหนือครู รู้แบบเพชรเหนือเพชร นี่แหละครับครูล้อมจึงเป็นเสาหลักความรู้สำคัญให้คนรุ่นต่อมาได้ยึดไว้กราบไหว้ เมื่อท่านเปลี่ยนคำนำหน้าจากอาจารย์เป็นศาสตราภิชาน ผมก็ยังขอสมัครใจเรียกท่านเป็นครูต่อไปทวนอีกครั้งก็ยังได้ รู้แบบครูล้อม สำหรับคนอื่นไม่รู้ สำหรับผมได้ความรู้สึกมั่นคงตรงใจแบบเต็มๆ.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม