กลางๆสัปดาห์หนังสือฯ สำนักพิมพ์แสงดาว ของคุณจรัญ หอมเทียนทอง ฝากหนังสือมาให้ ชุดแรกหอบใหญ่ ยังกะแผ่นดินไหว แถมอาฟเตอร์ช็อก ด้วยชุดสามเกลอวัยหนุ่มฯ เล่มน้อยเออ! ผมประชดในใจ ถ้าอ่านจบทุกเล่ม คงต้องถึงงานหนังสือปีหน้าตั้งใจนะครับ...ชิมลางด้วยเล่ม การเมืองสเปนฯ (ชื่อหนังสือยาว) ที่มีคำนิยามเหมือนการเมืองไทย นึกถึงคำขู่ เซาะกร่อนบ่อนทำลาย เลยใจฝ่อ...เลี่ยงไปอ่านนิยายรางวัลโนเบล นายแพทย์ชิวาโก...เรื่องนี้ ดูหนังมาตั้งแต่ยังหนุ่ม...รัก โอมาร์ ชารีพ...ที่เล่นเป็นหมอชิวาโก มาตั้งแต่นั้นประโยคฝังใจ...ระหว่างเวลา ที่พวกบอลเชวิค โรมรันพันตู กับพวกเจ้า มีเสียงเศรษฐีเจ้าของคฤหาสน์บ่น...ดังๆ “เมื่อไหร่ ไอ้สองพวกนี้มันจะเลิกรบกัน!” จับความนัยได้ สำหรับพ่อค้าวานิชนั้น...เขาไม่แคร์ พวกไหนแพ้ชนะใครชนะ ขึ้นชื่อพ่อค้า เขาก็หาช่องทำมาค้าขายของเขาได้เสมอทั้งโลกเดือดร้อนเป็นฟอนไฟ ไอร้อนจากรัฐบาลทหารพม่าจะเสียเมืองเมียวดี แผ่มาถึงบ้านเรา ผมเลี่ยงจากการหาเรื่องหนักสมอง มาเป็นเรื่องอ่านแล้ว เบาสบาย ผ่อนคลายหนึ่งบุบผาคือหนึ่งวิมาน เรื่องหนึ่งในสายธารแห่งศรัทธา (สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2535) เริ่มต้นไว้ดังนี้ชายคนหนึ่ง ชอบสังเกตสรรพสิ่ง วันหนึ่งเขาเพ่งพิจารณาทรายเม็ดหนึ่ง...เขาพบว่าโลกในเม็ดทรายช่างกว้างใหญ่ไพศาลเสียจริงๆบนกองทรายต้นไม้งามมีดอกสีสวย สดใสอยู่บนช่อ ดอกไม้ดอกเดียวนั้น เขามองมันเหมือนดังวิมานแห่งหนึ่งก็ในเมื่อของเล็กๆ ยังสามารถค้นพบความวิเศษยิ่งใหญ่ได้ นับประสาอะไรกับสิ่งอื่นๆคนจีนโบราณ นิยมเล่นของใกล้ตัว...สระน้ำเล็กๆในบ้าน เลือกก้อนหินประดับไว้ไม่กี่ก้อน ปลูกต้นเล็กอีกสองสามต้น ก็อาจนั่งชื่นชมอยู่ได้ครึ่งค่อนวันจะดูมันให้เป็นอะไรดี...เป็นทิวทัศน์ เป็นธารน้ำพุ หรือเป็นป่าไม้เปลี่ยนแปลงไปได้ร้อยสีพันอย่างตามจินตนาการ จนเกินจะบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือในสมัยราชวงศ์ชิง มีหนอนหนังสือคนหนึ่ง ตอนหนุ่มๆ เขามีจินตนาการกว้างไกล คืนวันนั้น แสงสีเงินของดวงจันทร์สาดส่องไปทั่วพื้นดิน เขานอนไม่หลับ จึงออกไปในสวนเขานั่งข้างกองดินเล็กๆ มีหญ้าเขียวขึ้นเต็ม เอนร่างนอนหนุนต้นหญ้าเนินดิน คิดคำนึงไปเขาเดินเข้าไปในป่าใหญ่ มีนกฝูงใหญ่บินว่อน โผไปโผมาระหว่างต้นไม้ บ้างก็โฉบขึ้นโฉบลง บางตัวก็บินไปทางซ้าย บางตัวไปทางขวา (ที่แท้มันคือยุง)เขาสบายอกสบายใจ ปล่อยใจจนตกอยู่ในภวังค์ทันใดนั้น เกิดเรื่องไม่คาดฝัน สัตว์ประหลาดตัวใหญ่มโหฬารตัวหนึ่ง กระโดดโครมออกจากข้างเนินดิน อ้าปากงับเอานกพวกนั้นลงท้องไปทีละตัวๆเขาตกใจกระโดดขึ้น แต่ยั้งตัวไม่อยู่จึงหกล้มหงายหลัง ค่อยๆ ตั้งหลักพิจารณา...ที่แท้เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนั้นมันคือเขียดตัวเล็กๆตัวหนึ่งคนในโลกล้วนมีสมรรถภาพในจินตนาการ ลองดูดอกไม้ริมทาง ใบไม้แห้งที่ลอยในคูคลอง ก็สามารถพบสิ่งที่ที่น่าสนใจ...ที่ท่านไม่เคยเหลือบแลมาก่อนแม้อยู่ในบ้านเล็กๆซอมซ่อ ความซาบซึ้งธรรมชาติไม่จำเป็นต้องอยู่ไกล มองหน้าต่าง หญ้าคาใต้หลังคาบ้านไม้ไผ่ เดือนเต็มดวงสุกสว่าง สายลมเย็นพัดผ่านผิวกาย ก็เพียงแก่ความสุขใจหนักหนาเงินหมื่นสำหรับคนรวย ค่าอาหารมื้อเดียวแต่มีทางเลือกใช้...มากมาย เป็นความสุขยิ่งใหญ่ของคนจนอย่างพวกเราทุกคน.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม