ช่วงเวลาเพลง พ.ศ.2504 ผู้ใหญ่ลีตีกลองประชุมนั้น เป็นเวลาที่ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม ชื่อประสิทธิ์ อุไรรัตน์ งานหนักของท่าน เที่ยวไป (ตีกลอง) ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นิมนต์พระหัววัด...พูดจาหว่านล้อม ให้สร้างบ้านแปลงเมืองแบบใหม่แม่กลองอัมพวาบางคนที มีลำคลองสี่ร้อยสาย อยู่ในวิถีสวนนอกบางช้าง สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ทุกสิ่งปลูกสร้าง บ้าน วัด โรงพัก ศาลากลาง โรงหนัง หันหน้าเข้าหาลำน้ำ ทุกตลาด ก็เป็นตลาดน้ำครั้งหนึ่ง ในการประชุมที่วัดบ้านแหลม...ภาพจำผมชัดมาก พระปลัดเลียด วัดบางจะเกร็ง ยืนโต้แข็งขันสุ้มเสียงสำเนียง ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ เอ็นจีโอตัวกลั่นสมัยนี้ ท่านไม่เอาด้วยกับผู้ว่าฯ ท่านรักวิถีบ้านเมืองแบบเดิมๆของท่านนับแต่นั้น บ้านเมืองก็เปลี่ยนไป ถนนสายแม่กลองปากท่อ เริ่มสร้าง บนถนนมีรถยนต์วิ่ง...เรือจ้างเรือแจวในแม่น้ำ...หายไป เรือยนต์ เรือหางยาวมาแทนราวสิบปีที่แล้ว สุรจิต ชิรเวทย์ สว.บ่นกับผม...ถ้าถนนไม่ปิดคลอง ให้เรือแจวพายผ่านได้ ลิ้นจี่ ส้มโอ มะพร้าวยังงาม “สวนนอกบางช้าง” จะเรียกคนทั้งโลกให้แตกตื่นกันมาชื่นชมสิ้นเสียงสุรจิต ผมมีภาพ ผู้ว่าฯประสิทธิ์ในใจ...เออหนา! ถ้าท่านยังอยู่...ท่านจะภูมิใจนโยบาย “แปลงเมืองแม่กลอง” อยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า?อีกเรื่อง...สมัยผู้ว่าฯท่านนี้แหล่ะ...มีวารสารสมุทรสงคราม ขึ้นปกภาพนาเกลือ...สารพันเรื่องในเล่ม มีกลอนบทหนึ่ง “ฉันบอกเขาควรหรือถือโทษฟ้า มัวรอราชรถเกยโธ่เอ๋ยขำ ทุกสิ่งอย่างชั่วดีอยู่ที่ทำ นี่แหล่ะกรรมนำวิถีชีวิตคน...”ย้อนมานึกให้ลึกๆ คราวนี้แน่ใจ...นี่คือ งานกลอนชิ้นแรกที่ตีพิมพ์ ก่อนเขียนไปลง “ประกายเพชร” ในไทยรัฐ “เล็บเดือน” ในวารสารเสรีภาพจำต่อๆมา...ในงานประจำเคยสัมภาษณ์ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ข่าวคนไข้โรงพยาบาลพญาไท ในบรรยากาศการเมืองหลัง 6 ตุลาฯ 19 นักศึกษาเข้าป่าดร.อาทิตย์ ปรารภถึง นักเรียนกว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็ยาก กว่าจะแหวกเพื่อนขึ้นเป็นแกนนำนักศึกษา ก็ยากเข้าไปอีก... ทำไมประเทศไทย จึงไม่ใช้ทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่า...ให้เป็นประโยชน์ไม่นานเมื่อพลเอกเกรียงศักดิ์ เป็นนายกฯ มีนโยบายรับนักศึกษาออกจากป่า...ผมก็นึกถึง ดร.อาทิตย์ ขึ้นมาอีกไม่รวมครั้ง ดร.อาทิตย์ เป็นประธานสภา...ไม่เสนอตั้งนายพลทหาร แต่เสนอพลเรือน คุณอานันท์ ปันยารชุน...เป็นนายกฯ ถูกใจชาวบ้าน เรียกเสียงปรบมือ...เสียงชื่นชมถล่มทลาย นักการเมืองวิญญาณประชาธิปไตยตอนนั้นผมยังงงๆ...ก็พลเอกทหาร เขามากับเสียง สส.ส่วนใหญ่ คุณอานันท์นั้น ท่านมาแบบชาวบ้าน ไม่มีฐานการเมืองเลย!ตลอดชีวิตการเรียนรู้แบบกะริบกะร่อยของผม...ทุกเรื่อง...ในโลกนี้...เป็นเช่นนี้ บางเรื่องไม่มีเหตุผลผู้ว่าฯประสิทธิ์ แปลงเมืองแม่น้ำเป็นเมืองถนน นั่นความเป็นไปตอนนั้น สว.สุรจิต เพื่อนผม เสียดายความหลังครั้งบางช้างสวนนอกเมืองน้ำ ก็ความเป็นไปต่อมาผมเคย...สงสัย ประโยคที่...โสกราตีสพูด ไม่มีสิ่งใดดีหรือเลว ความคิด ทำให้เป็นเช่นนั้น? พอสงครามฮามาส-อิสราเอล ระเบิด...ผมก็เข้าใจ...ถูกของอิสราเอล ถูกของฮามาส อยู่กันตรงข้ามสุดขั้วเรื่องเล่าเก่าๆ ไม่ว่าเรื่องผู้ว่าฯประสิทธิ์ ผู้พ่อ ดร.อาทิตย์ ผู้ลูก ผมเคยเล่าแล้วเล่าอีกหลายครั้งและครั้งนี้ผมอยากจะเล่าเพิ่มเติมว่า ความรู้ที่สองท่านให้...ไม่แค่จะเป็นส่วนก่อเกิดมหาวิทยาลัยรังสิต ผลิตทรัพยากรคนมีคุณค่ามากมายให้บ้านเมืองท่านคงไม่รู้ ครั้งหนึ่งที่คุณประสิทธิ์ เป็นผู้ว่าฯ ท่านให้พื้นที่ในวารสาร...ตีพิมพ์กลอนสั้นๆ กลอนชิ้นแรกในชีวิตผมชิ้นนั้นก่อแรงบันดาลใจสร้างนักข่าวคนหนึ่งค่อยๆเติบโต มีชีวิตมายืนอยู่ตรงหน้าทุกท่านได้ ที่นี่ ตรงนี้ ในวันนี้.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม