พรรคเพื่อไทยไล่เก็บสต๊อกพรรคร่วมรัฐบาลได้แล้ว 9 พรรคกวาดต้อน สส.เข้าเล้า ได้แล้ว 238 คนได้แก่ สส.พรรคเพื่อไทย 141 คน พรรคภูมิใจไทย 71 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 10 คน พรรคประชาชาติ 9 คน พรรคชาติพัฒนากล้า 2 คน พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 คน พรรคเสรีรวมไทย 1 คน พรรคพลังสังคมใหม่ 1 คน และพรรคท้องที่ไทยอีก 1 คนถือว่าการจัดตั้งรัฐบาลคืบหน้าไปแล้วค่อนทาง!!แต่ยังต้องเร่งหา สส.มาเติมอีก 13 คน เพื่อให้เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯคือ 251 คน“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ถ้าต้องการตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากที่มีความเข้มแข็งพอสมควรจะต้องมี สส.ไม่ต่ำกว่า 275 คน!!พรรคเพื่อไทยจะไปตอด สส.จากพรรคไหนมาเติมอีก 37 คน??ถ้าพรรคเพื่อไทยกล้าดึงพรรคพลังประชารัฐยกทั้งพรรค สส. 40 คน จะได้ สส.เพิ่มเป็น 278 คน เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ 28 คนแต่ถ้าจะให้รัฐบาลแข็งโป๊กจริงๆ พรรคเพื่อไทยต้องสอย “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งมี สส. 36 คนถ้าเหมายกหาบทั้ง 2 ลุง จะเติม สส.รัฐบาลได้ถึง 314 คน เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯไปถึง 63 คน!!ถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาลใจจะขาดตายก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องดึงพรรค 1 ลุง หรือดึง 2 พรรคลุงร่วมตอกเสาเข็มรัฐบาล“แม่ลูกจันทร์” จับสัญญาณชัดเป๊ะจากคำแถลงล่าสุดของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หน.พรรคเพื่อไทย ว่า ท่ามกลางวิกฤติรัฐธรรมนูญ วิกฤติเศรษฐกิจ และวิกฤติความขัดแย้งแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายในสังคม“การจะแก้วิกฤติครั้งนี้ได้ต้องสลายขั้วการเมือง เพื่อดึงความร่วมมือจากทุกพรรคทุกฝ่าย ร่วมตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ เป็นวาระสำคัญสูงสุดของประเทศชาติและประชาชน”เปิดไต๋จะดึงพรรคลุงร่วมรัฐ บาลแน่นอน!!“แม่ลูกจันทร์” นับถือสปิริต “พรรคไทยสร้างไทย” ของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งมี สส. 6 คน ประกาศจุดยืนเด็ดเดี่ยว จะไม่สลับขั้ว–ย้ายฝั่งไปร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยพรรคไทยสร้างไทยจะไม่ยอมเป็นพรรคนั่งร้านเผด็จการ เพื่อยุติการสืบทอดอำนาจ 2 ลุงอย่างถาวรพรรคไทยสร้างไทยจะยืนหยัด เป็นฝ่ายค้านเคียงข้างพรรคก้าวไกลไม่ปรารถนาจะไปร่วมรัฐบาลที่มีพรรคลุงผสมเป็นยาดำพรรคไทยสร้างไทยพูดคำไหนคำนั้น ไม่มีวันกลับคำ!!เมื่อประกาศกับพี่น้องประ ชาชนจะไม่เอาลุง พรรคไทยสร้างไทยต้องยึดมั่นสิ่งที่ได้ประกาศไว้คือไม่เอาลุงตลอดไปที่ไหนมีพรรคลุง ที่นั่นต้องไม่มีพรรคไทยสร้างไทย!!“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่า จุดยืนชัดเจนจะเป็นพลังบวกให้พรรคไทยสร้างไทยได้ สส.มากขึ้นอีกเท่าตัวครั้งนี้เป็นฝ่ายค้าน ครั้งหน้า เป็นรัฐบาลพันเปอร์เซ็นต์!!“แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม