“สารคดี” ฉบับ พ.ค.2566 ขึ้นปกเรื่อง 100 ปีเสด็จเตี่ย ครับ คุณศรัณย์ ทองปาน เขียนเป็นหนังสือเล่มไปแล้ว คราวนี้เรียงลำดับเรื่องใหม่ เริ่มเรื่องที่ 1 นักเรียนสวนกุหลาบ จบเรื่องที่ 10 วันสิ้นพระชนม์แฟนพันธุ์แท้กรมหลวงชุมพร...อ่านครั้งนี้ สนุกกว่า ง่ายกว่าถึงเรื่องที่ 7 ประหารชีวิต บุญเพ็ง หีบเหล็ก...ผมสะดุดใจ...เอ๊ะ! เรื่องนี้ไปเกี่ยวกับกรมหลวงชุมพร...ตรงไหน?รวบรัดตัดตอนถึง...พ.ศ.2463 พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงรับภารกิจสำคัญ เป็นผู้บังคับการ ร.ล.พระร่วง สยามซื้อจากราชนาวีอังกฤษ กลับมาเทียบท่ากรุงเทพฯพฤศจิกายน 2463 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ มีพระบรมราชโองการให้เลื่อนพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหมื่นชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ขึ้นเป็นกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ช่วงเวลานี้ พระธิดา หม่อมเจ้าหญิงเริงจิตแจรง ทรงมีบันทึกว่า กรมหลวงชุมพรเคยพาพระองค์ (ชันษา 15 ปี) พร้อมด้วยพี่สาว หม่อมเจ้าหญิงจารุพัตรา (ชันษา 16 ปี) ไปดูการประหารชีวิตนักโทษสองคน“เราไปดูที่วัดอะไรจำไม่ได้ ต้องเตรียมตัวออกเดินทางกันตั้งแต่ตีสี่ เราไปยืนดูกันใกล้นักโทษมาก ห่างจากนักโทษประมาณ 2 เมตร ใกล้ขนาดศีรษะแทบจะหล่นลงมาโดนเท้าเพชฌฆาตแต่งตัวสีแดงมารำ 3 คน เป็นมือหนึ่ง มือสอง มือสาม นายบุญเพ็ง มันเก่ง ไม่สะทกสะท้านตอนเพชฌฆาตเอาดอกไม้ธูปเทียนมาใส่มือ ยังพูดคุยยิ้มได้ แถมยังตะโกนบอกเด็กๆที่ปีนต้นไม้ไปดู เดี๋ยวตกต้นไม้ตายก่อนมันหรอก...พอเพชฌฆาตฟัน ฟันผิดที่หมายไม่ตายทันที แกยกมือขึ้นเลือดพุ่ง อ้าปากจะร้อง พอดีดาบที่สองก็เข้าฟันเสด็จพ่อรับสั่งว่า แกทำเวรกรรมไว้มาก จึงเป็นเช่นนี้”หม่อมเจ้าหญิงเริงจิตแจรง ทรงบันทึกว่าเสด็จพ่อมีพระประสงค์จะทรงหัดให้พระธิดา มีจิตใจเข้มแข็ง มีประสาทดี ไม่สะทกสะท้านเมื่อได้พบเห็นสิ่งที่น่ากลัวหรืออันตราย จะได้ไม่เสียขวัญช่วยตัวเองได้ศรัณย์ ทองปาน เขียนว่า ความทรงจำของท่านหญิงแม่นมาก หนังสือพิมพ์รายวันบางกอกไตมส์ ฉบับ 22 มี.ค.2463 รายงาน เช้าวันที่ 21 มี.ค. เจ้าหน้าที่คุมตัวนายบุญเพ็งนักโทษ ซึ่งต้องหาฆ่านายล้อมและนางปริกตาย ไปประหารที่วัดภาษี นักโทษอีกคนที่โดนประหารวันเดียวกัน ชื่อนายเลี่ยมวัดภาษี ที่ประหารชีวิตนายบุญเพ็ง ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ ปัจจุบันอยู่ในซอยเอกมัย 23 (ซอยภาษี 1) ท้ายถนนเอกมัย (สุขุมวิท 63) ด้านติดถนนเพชรบุรีตัดใหม่หนังสือ 100 ปีวัดภาษี เล่าประวัตินายบุญเพ็งว่า เมื่ออายุ 27 ปี บวชเป็นพระ 2 พรรษา แล้วลาสิกขา ตั้งตนเป็นหมอดู หมอยา รับทำเสน่ห์ยาแฝด ชอบเล่นการพนัน ดื่มสุรายาเมา เป็นหนี้เป็นสินมากเมื่อผีพนันเข้าสิงจึงวางแผนฆ่าชิงทรัพย์ ด้วยการตัดศพเป็นท่อนๆแล้วยัดใส่หีบเหล็ก ใส่รถเจ๊ก (รถลาก) ไปทิ้งคลองหลายต่อหลายศพปี พ.ศ.2537 วัดภาษีสร้างศาล ปั้นรูปจำลองขนาดเท่าคนจริง นั่งขัดสมาธิ พนมมือ นุ่งผ้าเตี่ยวสีแดงไม่สวมเสื้อทาสีตัวดำมะเมื่อม ทุกวันนี้มีคนไปกราบไหว้บนบานด้วยพวงมาลัย เสื้อม่อฮ่อมและผ้าขาวม้า“ปู่บุญเพ็ง เป็นนักโทษประหารไม่ใช่หรือครับ” ศรัณย์ทองปาน เอ่ยถามคำตอบจากแม่ค้าลอตเตอรี่หน้าศาล น่าสนใจ “เราไม่รู้หรอก โลกวิญญาณเป็นอย่างไร บางทีมีคนมาทำบุญให้มากๆวิญญาณเขาอาจเป็นเทพไปแล้วก็ได้”คนไทยไม่น้อย ยังมีวิธีคิดอย่างนี้ จึงไม่แปลก...ที่จะเลือกผู้สมัคร ส.ส.โดยไม่สนใจที่มา คนกรุงเทพฯนินทา คนบ้านนอก เลือกโจร มหาโจรเข้าสภา...ขณะคนกรุงเองก็ เลือกสาวสวย โชว์สัดส่วน เรียกความสนใจเข้าสภาก็เมื่อบุญเพ็งหีบเหล็ก อาจกลายเป็นเทพได้ เราจะหวังอะไรนักหนา กับผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้.กิเลน ประลองเชิง