ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้วังวนของผู้นำทางการเมืองไม่ว่าใคร ประเทศไหนย่อมมีขึ้นมีลงและดับสูญอันเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งที่อังกฤษประเทศต้นแบบประชาธิปไตย “บอริส จอห์นสัน” นายกรัฐมนตรี เพิ่งลาออกตำแหน่งสดๆร้อนๆเพราะยื้อไม่ไหวเพราะบรรดารัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ได้ยื่นใบลาออกกว่า 50 คน เพื่อกดดันให้นายบอริสลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากบริหารงานผิดพลาด ทำตัวไม่เหมาะสมจนทนกันไม่ได้ไม่ไกลจากประเทศไทยนัก ที่ญี่ปุ่นอดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดเกือบ 8 ปี ได้ถูกลอบยิงขณะกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองนารา ทางตะวันตกของประเทศ“ชินโสะ อาเบะ” ถือว่าเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศและชาวญี่ปุ่นทำให้เศรษฐกิจของประเทศไปได้ดีเป็นคนสั่งให้ยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวประสบผลสำเร็จ คนไทยได้อานิสงส์ไปด้วยพูดง่ายๆ ญี่ปุ่นฟาดเงินจากนักท่องเที่ยวไทยไปเพียบด้วยมีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นฟื้นตัวด้วยนโยบายผ่อนปรนแบบสามลูกศร ลดค่าเงินเยน และปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติตามแนวทางของเขาแต่เขาได้ลาออกจากตำแหน่งเนื่อง จากมีปัญหาด้านสุขภาพ แต่ยังมีอิทธิพลในเวทีการเมืองจนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าสาเหตุที่เขาถูกลอบยิงขึ้นนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองแน่!มือปืนที่ถูกจับกุมได้เป็นอดีตกองกำลังป้องกันตนเองที่ลาออกจากราชการไปแล้ว อ้างว่าไม่พอใจอดีตนายกฯเรื่องนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงมาก เนื่องจากญี่ปุ่นจะควบคุมและเข้มงวดในการใช้อาวุธปืนและไม่เคยปรากฏเหตุอย่างนี้มาก่อนว่ากันถึงการเมืองไทยที่ผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งจะอยู่ในตำแหน่งครบเทอม 4 ปี บวกกับการเป็นนายกฯ คสช.อีก 4 ปีคือจะครบ 8 ปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ที่แน่ๆก็คือ จะถูกยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า จะต้องพ้นจากตำแหน่งหรือไม่เมื่อครองตำแหน่งมา 8 ปีแล้วท้าให้ใครก็ได้ไปฟ้องศาลได้เลย...แต่ดูจากความเป็นไปแล้วยังไม่คิดจะวางมือจากเก้าอี้แต่จะต่อท่ออำนาจยาวออกไปอย่างน้อยก็อีก 1 สมัยล่าสุดก็มีปัญหาในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยกฎหมายลูก 2 ฉบับ ที่สะท้านแวดวงการเมืองก็คือ การคิดคำนวณคะแนนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อก่อนหน้านี้รัฐบาลเสนอให้ใช้ 100 หาร แต่มาเปลี่ยนเป็น 500 หาร หวังจะดับฝันพรรคเพื่อไทยที่ต้องการแลนด์สไลด์จากการเลือกตั้งแม้จะชนะในเกมแรกแต่ก็ต้องรอให้ผ่านวาระ 3 และให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่แต่เบื้องต้นทำให้ “เพื่อไทย” เกิดปั่นป่วนไปเหมือนกันเพราะไม่เป็นไปตามแผนและทำท่าจะหมดลุ้นแลนด์สไลด์ เนื่องจากกติกาบังคับไว้ทำท่าว่าจะต้องแตกแบงก์พันเพื่อหวังคะแนนจากปาร์ตี้ลิสต์การเมืองไทยก็เข้ามาสู่ปม 2 ขั้วเหมือนเดิมก่อนที่จะไปถึงวันเลือกตั้งในปีหน้าคงจะมีต่อสู้กันอีกหลายยกและหลายกระบวนท่าระหว่าง “3 ป.” กับพรรคร่วมรัฐบาลและ “คนแดนไกล”เป็นเส้นขนานที่พร้อมจะแตกหักกันทุกเวลา!“ลิขิต จงสกุล”