ผ่านมาหลายวัน จนถึงวันนี้ ผมยังหอมกลิ่นบุญ งานเทศน์มหาชาติ ที่อัมพวาอยู่เลย น้องร่วมคณะเจ้าภาพกัณฑ์สักกบรรพ เย็นย่ำวันที่สองเล่าว่า ได้ฟังกัณฑ์มัทรีแถม...ก่อนหน้า...หลวงพ่อจากเมืองเพชร ท่านแหล่ได้โหยไห้โหยหานักหนา...ทำเอาญาติโยมหลายคนน้ำหูน้ำตาไหลบุญหูแล้วยังมีบุญตา ได้ดูระบำรำฟ้อน ประกอบเทศน์ ฝีมือศิลปินระดับกรมศิลป์สมัยเป็นเด็ก หกสิบปีที่แล้ว โน่น! ผมรู้สึกเองได้ อยู่ใกล้งานเทศน์ มหาชาติมากกว่าสมัยนี้หลวงพ่อเยื่อ วัดบางกุ้ง ขึ้นชื่อเทศน์กัณฑ์มหาราช...งานไหน ที่ได้ไมโครโฟนดี...แค่เริ่ม นะ...ไปถึง โม...พลังเสียงท่านก้องกังวาน ขนาดกระเบื้องหลังคาศาลาสะเทือน นั่นเทียวแต่ความคุ้นหูแหล่มหาชาติ ...ตอนนั้นยังไม่มากเท่า คุ้นตาภาพ 12 กัณฑ์มหาชาติ ที่สมัยนั้น มีให้เห็นแทบทุกวัด ดูบ่อย จนจำลำดับกัณฑ์ เริ่มแต่ ทศพร หิมพานต์ ทานกัณฑ์...ไปจนถึงกัณฑ์ที่สิบสองภาพพิมพ์สีเหล่านี้ ผมจำไม่ได้แล้ว ฝีมือเขียนต้นแบบ จิตรกรคนไหน...ยังมโนภาพ กัณฑ์มหาพน ชูชก ปีนหนีพรานเฝ้าป่าขึ้นต้นไม้ ยื่นกลักเสบียง หลอกพรานว่าเป็นสาร...จากพระเจ้าสญชัย ส่งถึงพระเวสสันดร ได้ติดตาช่วงปี พ.ศ.เฉียดกึ่งพุทธกาลนั้น กระแสทำบุญด้วยการถวายภาพมหาชาติ หรือพุทธประวัติ ใส่กรอบหนาให้วัดคึกคักมาก วิทยุก็โฆษณาเข้าหูไม่ขาดใครไหนเลย จะไม่รู้จัก สำนักงาน ส.ธรรมภักดี...ถนนข้าวสาร คงไม่มีเพราะนอกจากผลิตภาพทางพุทธศาสนา ส.ธรรมภักดี ยังผลิต คัมภีร์เทศน์ ที่พับซับซ้อนเหมือนคัมภีร์ใบลาน...ออกจำหน่ายแพร่หลายทั่วประเทศด้วยพระเจ้าของสำนวนเทศน์ ที่โด่งดังรู้จักกันดี มหาปุ้ย แสงฉาย ผมยังมีหนังสือท่านเล่มหนึ่ง พระเจ้าห้าร้อยชาติคัมภีร์เทศน์ ส.ธรรมภักดีขายดี...ฉบับที่พิมพ์หลังๆ ตัวพิมพ์ตกๆหล่นๆ จนเกิดเป็น “มุกตลก” ที่ชาววัดเล่าสู่กันฟังการอ่านคัมภีร์ สำหรับพระนักเทศน์ทั่วไป ก็ต้องใช้ลีลา...เหมือน รัฐมนตรีหรือนายกฯปราศรัยออกทีวี คืออ่านๆไปบ้าง ถึงบางตอน ก็เงยหน้าสบตาคนฟังบ้าง ให้ดูเหมือนคุยกันแต่พระนักเทศน์น้องใหม่...ท่านตื่นธรรมาสน์ ก้มหน้าก้มตาอ่านตะลุยไป จนถึงบรรทัดสุดท้ายคัมภีร์เทศน์ปกติ ก็จะจบว่า “เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้”พระเทศน์ชำนาญ ท่านก็ลากเสียงหนักเบา ยืดยาว ญาติโยมฟัง เป็นสัญญาณว่า ได้เวลาจบ แล้วจะได้ลุกขึ้นกราบพระกลับบ้านช่องซะทีแต่พระน้องใหม่องค์นี้ ท่านยังมีตัวหนังสือให้อ่านต่อ ก็อย่างที่ผมว่า คัมภีร์เทศน์ขายดี พิมพ์มากๆก็ตกหล่นพระอ่านเรื่อยเจื้อยต่อ “เอวังกิ่ม...แม่อิ่มสร้าง ส.ธรรมภักดี พิมพ์จำหน่าย มหาปุ้ย แสงฉายรจนา”เรื่องเล่าชาววัดเรื่องนี้ ชี้ให้เห็นความแพร่หลาย ของงานขายคัมภีร์ ขายภาพพระพุทธศาสนา ของสำนักงาน ส.ธรรมภักดี ซึ่งเป็นตึกแถวหลายคูหา ตั้งเด่นเป็นสง่า จนเป็นสัญลักษณ์ของถนนข้าวสารครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว ถนนข้าวสาร ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางจำหน่ายสินค้าบุญ ซึ่งจะว่าไป ก็ต้องนับถือในความสามารถ มหาสม พ่วงภักดี ความสำเร็จของเจ้าของ คนรุ่นเก่ายังคงไม่ลืมแต่ก็นั่นล่ะครับ ตามคำสอนพุทธศาสนา ทุกสิ่งในโลกนี้ เป็นอนิจจัง เปลี่ยนแปลงได้ถ้าแม่ผมยังอยู่รู้ข่าว ถนนข้าวสารวันนี้ กำลังจะเป็นฮับ... ศูนย์กลางการขายกัญชา...ท่านก็คงตกใจ ยกมือพนมอุทาน “พุทโธ โธ่ถัง อนิจจังเอ๋ย!”ถนนข้าวสารที่เคยเป็นถนนบุญ เปลี่ยนเป็นถนนบาปไปได้ถึงปานนี้เลยทีเดียว.กิเลน ประลองเชิง