ท่าน ว.วชิรเมธี ตั้งชื่อเรื่อง “คุก ของคนดี” เรียกความสนใจ ในหนังสือ ชุบชูใจในยามวิกฤติแล้ว ท่านก็เริ่มต้น ข้อเขียนด้วยคำถามที่น่าสนใจยิ่งกว่า “ทำไม ทำดีแล้วยังไม่มีความสุข”การทำความดีมีหลายอย่าง ตั้งแต่ล้างห้องน้ำ รดน้ำต้นไม้ ตั้งใจทำงาน ออกไปวิ่งตอนเช้า ช่วยเหลือคนอื่น ฯลฯ ความดีเหล่านี้ ทำแล้วเกิดสิ่งดีๆ น่าจะมีความสุขทันทีหรือ...นั่งสมาธิ จิตสงบ ความสงบมาทันทีเพราะนี่คือการทำดีตามกฎธรรมชาติ เมื่อลงมือทำแล้ว หรือทำเสร็จแล้ว ก็จะได้รับผลดีตามกฎธรรมชาติทันตาเห็น สมกับหลักการ ทำดีได้ดี คือมีผลตรงตามเหตุที่สร้างและมีความสุขจากการทำทันที เหตุกับผลตามกฎธรรมชาติ ไม่มีอะไรซับซ้อนแต่สำหรับบางคนเมื่อล้างห้องน้ำแล้ว ไม่มีใครชมสักคน ทุกข์มาทันที รดน้ำต้นไม้แล้ว ไม่มีใครยิ้มให้ ทุกข์มาทันทีตั้งใจทำงาน ไม่มีใครเห็นคุณค่า ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ไม่เป็นข่าว หรือหลับตานั่งสมาธิ ไม่มีศิษย์เลื่อมใส ทุกข์ก็มาทันทีการทำดีเพื่อแสวงหาการยอมรับจากผู้อื่น เป็นการสร้างเงื่อนไขพิเศษขึ้นมา นอกเหนือจากกฎธรรมชาติพอเงื่อนไขพิเศษที่ต้องอิงกับค่านิยมของสังคม หรืออิงอยู่กับการถูกมองเห็นจากคนอื่น ไม่เป็นไปตามที่หวัง ก็จึงผิดหวังเมื่อผิดหวัง ก็ทุกข์ ท้อ เหนื่อยคนที่บ่น ทำดีแล้วเหนื่อย ทำดีแล้วท้อ ทำดีแล้วเปลืองตัวเสียเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะการทำดีนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่เป็นเพราะ เขาทำดีแล้ว อยากให้มีคนเห็น อยากให้มีคนชื่นชม อยากให้มีการยอมรับนับถือพอคนไม่เห็น หรือเห็นแล้ว แต่ยังตีความไปคนละทางกับที่อยากให้เกิดตรงนี้ท่าน ว.วชิรเมธี บอกว่า เลยเถิดออกไปไกลอีก เพราะถึงขั้นอยากควบคุมความรู้สึกของคนอื่นความผิดหวังจากการแสวงหาการยอมรับจากคนอื่น คือที่มาของการทำดีแล้วทุกข์ ทำดีแล้วเหนื่อย ทำดีแล้วท้อ ทำดีแล้วสิ้นหวัง กับความดี และบางทีอาจเลยไปถึงขั้นสิ้นหวังกับโลกจนบ่นออกมาดังๆ โลกนี้ช่างไม่มีความยุติธรรมที่จริง การทำดียังคงเป็นความดี ต่อให้เป็นการทำดีอยู่คนเดียว ในห้องนอน ก็ยังคงเป็นความดี การทำดีเพื่อดี เป็นการทำดีบริสุทธิ์ ตรงตามกฎธรรมชาติ จึงได้รับผลดีทันตาแต่การทำดีเพื่อให้คนเห็นว่าดี เป็นการทำดีผิดกฎธรรมชาติ เป็นการสร้างกฎของมนุษย์ซ้อนขึ้นมาใหม่ ซึ่งกฎอย่างนี้ไม่แน่นอน บางทีก็ได้ผล บางคราวก็ไร้ผลเขียนมาถึงตรงนี้ ผมนึกถึงนักการเมืองที่หลายคนผิดหวังจากผลการเลือกตั้ง แต่ท่าน ว.วชิรเมธี ยกตัวอย่าง เรื่องพระ...โยมถามพระวิปัสนาจารย์ท่านหนึ่ง “หลวงพ่ออยากเป็นพระอรหันต์ไหม?”“อย่าเป็นเลยพระอรหันต์ อย่าเลยเถิดไปถึงขั้นนั้น เพราะเป็นอะไรแล้ว ก็เหนื่อยเพราะอันนั้น!” หลวงพ่อว่าการทำดีไม่เหนื่อยมาก แต่การทำดีแล้วอยากเป็นคนดี นี่สิเหนื่อย ยิ่งยึดติดถือมั่นในความเป็นคนดีมากเท่าไหร่...ต่อให้เป็นคนดีแค่ไหน ก็โดนความดีกัดได้มากเท่านั้นอีกข้อของคนดีพวกนี้ เมื่อคิดว่าเป็นคนดีแล้ว ก็มักเผลอเหยียดคนไม่ดี บทสรุปของท่าน ว.วชิรเมธี “คุกของคนดี” อยู่ตรงนี้เอง.กิเลน ประลองเชิง