ผมพยายามหาเหตุผลตั้งมากมาย ที่จะไปงานพระราชทานเพลิงศพ คุณประยอม ซองทอง ที่วัดธาตุทอง เมื่อบ่ายแก่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมาเหตุผลแรก รู้จักพี่ยอมดี ระดับท่องกลอนชื่อ ถึงเทวาลัย...วรรคทองได้ขึ้นใจ“ถึงที่นี่จะมีหางนกยูงอยู่ ไหนจะสู้ชงโคบานลานอักษร ถึงริมโขงนี้เป็นบ้านเมืองมารดร ให้อาวรณ์หรือจะเท่าเจ้าพระยา”กลอนบทนี้ ขึ้นชื่อนักกลอนสถาบัน เน้น จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เขารู้กันทั้งนั้นประยอม ซองทอง กับ ม.ร.ว.อรฉัตร ซองทอง เป็นคู่รักนักกลอนคู่แรกๆที่ได้แต่งงานกัน หากจะนับคู่ อำพล สุวรรณธาดา นภาลัย ฤกษ์ชนะ หรือคู่ ทวีสุข ทองถาวร นิภา บางยี่ขัน เป็นคู่ต่อๆมาช่วงเวลานั้น ผมยังร่อนเร่เป็นพรานทะเล อยู่ในเรืออวน เคยเขียนกลอนลงคอลัมน์กลอนดังๆได้บ้างบางชิ้นในงานประกาศรางวัล ม.ร.ว.อายุมงคล โสณกุล ในวังสวนผักกาด หลายครั้งผมตั้งใจฟังสักวากลอนสด ที่นักเลงสักวารุ่นตำนานร่วมขับขานชื่อแรกแน่ล่ะ ก็เริ่มจาก ประยอม ซองทอง อดุล จันทรศักดิ์ ปิยะพันธ์ จัมปาสุต นภาลัย สุวรรณธาดา ญาดา อารัมภีร ฯลฯ ขออภัย อีกหลายชื่อที่จำไม่ได้ เหตุเพราะไม่รู้จักตัวครั้งหนึ่ง ผมมีโอกาสได้แนะนำตัว แน่ละ ตั๋วเด็กในชายคา โกวิท สีตลายัน ผมได้รอยยิ้มตอบรับสนิทใจเคยฟังจากปาก “พี่โก” บ้าง อ่านจากหนังสือบ้าง ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ก็นานแค่ตอนเรียนจุฬาฯกลอน...วรรคทอง ใน ถึงเทวาลัย ของพี่ยอมที่หลายคนจำ ผมเองก็เคยฟังกลอนชื่อเทวาลัย คล้ายกันจากปากพี่โกเอง ดูเหมือนนักกลอนจุฬาฯเขา มี “เทวาลัย” เป็นจุดยึดโยงใจหรือนักกลอนหนุ่มสาว เขาจะมีเทวาลัยไว้นัดทบทวนฝีปากกลอนให้กันเรื่องประทับใจมากๆได้จากหนังสือเล่ม...ก็เล่มที่ “พี่ยอม” ส่งมาให้อ่าน...เพื่อนๆจุฬาฯไปซุกสุมหัวนอน ในห้องเช่าเล็กแคบ ขนาดตะแคงตัวนอนเบียดได้สามคนราวตีสองเพื่อนชื่อโกวิท ลุกไปห้องน้ำ กลับเข้ามาเพื่อนสองคนพลิกตัวนอนราบ...ไม่เหลือที่ให้คนที่สาม โบราณบอกว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก เพื่อนโกวิทไม่ยอม ตะโกนปลุกให้อีกสองคนตื่น มาสุมหัวคุยกันจนถึงเวลา ก็ค่อยๆตะแคงตัวนอนเรียงสามต่ออีกเรื่อง...พี่ยอม คุยเอง...ยามใดที่ไปแวะนอนบ้านเพื่อนโกวิท ในซอยสว่าง ย่านสะพานเหลือง...ตื่นเช้าขึ้นมา เสื้อผ้า ถุงเท้า ถูกซักรีดเรียบร้อย...ล้วงกระเป๋าที่ว่างเปล่า ก็จะมีเงินเหรียญอย่างน้อย ก็พอค่ารถที่จะไปต่ออ่านถึงตอนนี้ ผมยิ่งมีเหตุผล ที่จะตีซี้กับพี่ยอม ด้วยว่าเป็นรุ่นน้องที่เติบโตมาได้ ด้วยการผลักดัน ดุน หนุนของพี่โกเต็มเนื้อเต็มตัววันมังกร ห้าเล็บ จาก ผมเขียนถึงกลุ่มดาวมังกรบนฟ้าเวลาเช้า มองตาเปล่าไม่เห็น ผมร้องไห้ ชื่อคอลัมน์ ชักธงรบ ที่พี่โกตั้งไว้ ให้ก่อนตาย กิเลน ประลองเชิง อยู่ทุกวัน...ก็คงไม่มีเหตุผลสุดท้าย...หลายปีเต็มที ในงานเปิดหอศิลป์ แบงก์กรุงไทยสาขาเยาวราช โดยแรงหนุนของคุณชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการบริหารฯ ในบรรยากาศมวลมหากวีรุ่นใหญ่...บนเวที ประยอม ซองทอง กำลังอ่านบทกวีผมเผลอโม้ให้คนข้างตัวฟัง ครั้งหนึ่ง สองคำกลอนใน นาฏกรรมในเกลียวคลื่น ลงในคอลัมน์กวีศรีสยาม นิตยสารศรียาม ถูกคัดมาเรียงข้าง...กลอนวรรคทอง ถึงเทวาลัย ของพี่ยอม ในนิตยสารขวัญเรือนเป็นความภาคภูมิใจที่ไม่เคยลืมนี่คือเหตุผล...ที่ผมต้องไปถือช่อไม้จันทน์ คารวะ...ประยอม ซองทอง เป็นครั้งสุดท้าย แม้รู้อยู่ในใจไม่ได้เป็นแขกรับเชิญ.กิเลน ประลองเชิง