คนรุ่นเก่าถูกสอนให้รู้จักนกกาเหว่า ร้องเสียงไพเราะ บทเห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์บทหนึ่ง “ดุเหว่าเจ่าจับร้อง สนั่นก้องซ้องเสียงหวาน” และก็ถูกสอนให้รู้จักในเชิงเจ้าเล่ห์เพทุบายเพลงยาวของกรมหลวงภูวเนตรนรินทรฤทธิ์มีคำกลอนหนึ่ง“นี่ถือเยี่ยงดุเหว่าหรือเยาวลักษณ์ จะไข่ให้กาฟักอย่าพักหมาย...”เด็กรุ่นผมโตมาในเปลกับเสียงเพลง ที่แม่กล่อม “กาเหว่าเอย ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก แม่กาก็หลงรัก คิดว่าลูกในอุทร คาบเอาข้าวมาเผื่อ ไปคาบเอาเหยื่อมาป้อน ถนอมไว้ในรังนอน ซ่อนเหยื่อมาให้กินปีกเจ้ายังอ่อนคลอแคล ท้อแท้จะสอนบิน แม่กาพาไปกิน ที่ปากน้ำพระคงคา ตีนเจ้าเหยียบสาหร่าย ปากก็ไซ้หาปลา กินกุ้งและกินกั้ง กินหอยกระพั้งแมงดา กินแล้วก็โผมา จับที่ต้นหว้าโพธิ์ทองยังมีนายพราน เที่ยวเยี่ยมๆมองๆ ยกเอาปืนขึ้นส่อง จ้องเอาแม่กาดำ ตัวหนึ่งว่าจะต้ม อีกตัวหนึ่งว่าจะยำ กินนางแม่กาดำ ค่ำวันนี้อุแม่นา”ตอนยังเล็กไร้เดียงสาก็คงได้แต่จำไว้ ไม่มีสติปัญญาจะถามแม่ต่อ แม่กาดำตายแล้วนกกาเหล่ารอดหรือไม่...เพราะในเพลงนายพรานตั้งใจจะต้มตัวหนึ่งจะยำอีกตัวหนึ่งเข้าโรงเรียน ราว ป.2-3 อ่านหนังสือเล่มชื่อ “ธรรมชาติวิทยา” หน้าแรกที่มีภาพเขียนมนุษย์หิน มีคำบรรยายว่า “แต่ก่อนคนเรายังโง่...” ไม่มีเรื่องกาเหว่ามาเล่าต่อ ก็ยังไม่รู้อยู่ดี เรื่องนี้มีสายสนกลในยังไงเพิ่งมารู้เอาตอนแก่ อ่าน “สัตวนิยาย” (สำนักพิมพ์รวมสาส์น พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ.2541) ส.พลายน้อย เล่าธรรมชาติของนกกาเหว่าไว้ว่า เมื่อกาเหว่าตัวเมียจะวางไข่ก็ต้องสมรู้ร่วมคิดกับกาเหว่าตัวผัวตัวผัวแกล้งบินไปก่อกวนรังนกกา ทำท่ามิดีมิร้าย แม่นกกาหวงไข่ก็ออกมาบินไล่ กาเหว่าตัวผัวทำทีบินหนี คราวนี้กาเหว่าเมียก็ได้โอกาสบินเอาไข่ไปวางปนกับไข่นกกาในรังกาคนโบราณท่านรู้เล่ห์กระเท่ห์นี้ดี จึงเอาไปเขียนตัดพ้อหญิงไว้ในเพลงยาว “จะไข่ให้กาฟักอย่าพักหมาย”คนรู้แต่แม่กาไม่รู้ ด้วยไข่นกกาเหว่ามีสีเทาแกมเขียวแต้มจุดน้ำตาลเหมือนไข่นกกา แต่ขนาดเล็กกว่าหน่อย หลงว่าเป็นไข่ลูกตัวเอง จึงฟูมฟักดูแลตั้งแต่กกให้โตจนบินได้จะมารู้ว่าเป็นนกกาเหว่าเอาก็เมื่อได้ยินเสียงกาเหว่า ร้อง กาเว้าๆ ดุเว้าๆ หรือบางคนฟังเป็น “กระตู้วู้” กวีมักเปรียบเหมือนเสียงนกสวรรค์ ส่วนกานั้น อ้าปากร้องแต่ กา กา กา ฟังกระด้างหูในนิบาตชาดกเรื่องหนึ่งเล่าว่า แม่กาฟักไข่กาเหว่าจนโต จนวันที่ได้ยินเสียงกาเหว่าร้อง กาเว้าๆ จึงรู้ว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง จึงฆ่าเสีย...เรื่องในนิบาตชาดกจบแบบโหดร้าย ไม่จบแบบเศร้าๆเหมือน เรื่องในเพลงกล่อมลูก ที่แม่กาพาไปสอนบิน สอนกิน แล้วถูกพรานยิงตายไปด้วยกันคราวนี้มาถึงคำถาม ทำไม...นกกาเหว่าจึงต้องเอาเปรียบนกกา...คำตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า เพราะนกกาเหว่าทำรังเองไม่เป็นลูกก็จะออก แต่ไม่รู้จักทำรังไว้กกปล่อยทิ้งไว้ลูกก็ตาย ธรรมชาติสัตว์โลก สอนให้ดิ้นรน ใช้เล่ห์กระเท่ห์เอาไปฝากให้แม่กาเลี้ยงแทนรู้เรื่องกาเหว่า...มาถึงตอนนี้ผมก็ยิ้ม เมื่อนึกไปถึงนายกฯประยุทธ์ สถานการณ์ท่านเหมือนไข่กาเหว่าในรังแม่กา ไม่มีรัง เอ๊ย! พรรคของตัวเอง...ตอนนี้มีเค้า เจ้าของรังเขาจะผลักไส ต้องดิ้นรนออกไปหารังของตัวเองแต่ธรรมชาติของท่าน บังเอิญเหมือนนกกาเหว่า ทำรังเองไม่เป็น จนป่านนี้มีแต่ข่าว น้ำที่คุยว่าจะปั้นๆ ก็ยังไม่เป็นตัวสักที กาเหว่าตัวนี้จะเอาตัวรอดได้ยังไง?จะถูกแม่กาฆ่าตาย หรือถูกนายพรานยิงตายพร้อมแม่กา แฟนๆเขาลุ้นกันใจหายใจคว่ำทีเดียว.กิเลน ประลองเชิง