เมื่อผู้ใหญ่ระดับผู้นำออกมาตีโพยตีพาย ผลงานที่ทำต่อเนื่องมาห้าหกปี มีมากหลายกระบุงโกย แต่เหตุไฉน “สื่อ” ไม่ค่อยพูดถึง ผมก็นึกว่านี่ถ้าเป็นน้องชายพ่อแม่เดียวกัน ด่าได้เตือนได้ ก็จะเตะก้นสั่งสอน แล้วก็จะตะโกนกรอกเข้าหู “ไอ้บ้า ทำไมมึงโง่ได้ขนาดนี้” ที่ใช้คำ “โง่” ก็เพราะผมเข้าใจดี พื้นฐานของงาน “สื่อ” มีหลักประจำใจ ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียเงินอย่าเพิ่งเหมา...สื่อไม่ว่าสมัยรุ่งเรืองหรือร่วงโรย เอะอะ ก็จะเอาเงิน ไม่ใช่ ความจริงก็คือ สื่อที่ดำรงคงฐานะ ขายได้มียอดขายดี มีโฆษณา จุนเจือ เขารู้จัก “ขายข่าวที่น่าสนใจ”และข่าวที่น่าสนใจ กระทบใจ เร้าใจ ขายได้มากกว่า ก็คือ ข่าวร้ายตอนปกติ ผู้ใหญ่อยากโฆษณาตัวเอง ใช้วิธีสารพันเพื่อเป็นข่าว ทำไมสื่อมันเฉยๆ ไม่สนอง หรือสนองก็สนองอย่างจำใจไม่หวือหวา แต่ถ้ามีเรื่องร้ายๆ นอนหลับอยู่กับบ้าน พวกสื่อก็แห่กันไปปลุกถึงหน้าบ้านหลักพื้นฐานสื่อเป็นเช่นนี้ นักการเมืองทั่วไป รู้และรู้จักใช้ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านจึงรู้จักนักการเมืองเพี้ยนๆ บ๊องๆ มากกว่ารู้จักนักการเมืองดีๆแต่รู้จักแล้ว จะเลือกรักและนับถือ หรือหมั่นไส้ ก็แล้วแต่ใจคนประเด็น ข่าวร้าย (น่าสนใจ) ลงฟรี ข่าวดี (น่าสนใจน้อยกว่า) เสียเงินนี้ น่าเสียดาย ผู้นำน้องชายของผม ไม่เข้าใจเอาเสียเลยผมได้ยินมาตอนที่สื่อโหมประโคมข่าวชุมนุมเด็ก รุมเล่นงาน ท่านตั้งใจดูทีวีอยู่ช่องเดียว ช่องที่ประกาศความรักฟ้ารักดิน และมีแต่เสียงชื่นชมนิยมท่านตอนนี้ทีวีช่องที่เคยดู เกิดปัญหา ก็มีข่าวว่ามีคนให้เงิน 200 ล้าน ไปเช่าเวลาทีวีอีกช่อง...ให้พวกสื่อที่รักนับถือกันมีเวทีใหม่โบราณสอนว่า กระจกมีหกด้านครับ...แต่ท่านเลือกส่องกระจกด้านเดียวเช่นนี้ หกเจ็ดปีที่ผ่านมา ก็ยังพูดเหมือนแผ่นเสียงตกร่องประโยคเดิมๆกระจกหกด้าน ถ้าใช้หลักพระพุทธเจ้า คือทิศทั้งหกทิศเบื้องหน้าบิดามารดา ทิศเบื้องขวา ครูอาจารย์ ทิศเบื้องหลังบุตรภรรยา ทิศเบื้องซ้าย มิตรสหาย ทิศเบื้องล่าง คนรับใช้และคนงาน และทิศเบื้องบน พระสงฆ์ สมณพราหมณ์ถ้าตั้งใจฟังเสียงจากทุกด้าน วิธีคิดของผู้นำ ก็น่าจะเปลี่ยนไปจากที่ฟังด้านเดียวคำสอนที่ผมจดจำฝังใจ...คำด่าคำประณามจากใคร พอฟังได้ก็ฟัง แต่ถ้าเป็นคำด่าจากศัตรู...ที่หยิบเอาจุดอ่อนที่สุด ออกมาซ้ำ ฟังแล้วเจ็บปวดมากๆขอให้ตั้งสติให้ดีๆ ระงับความโกรธ เหมือนน้ำขุ่นคลุ้ง ให้ตกตะกอน ลดความหลงตัวได้ ไม่แน่ว่า เวลานั้น เราอาจคิดได้ว่า คำด่าของศัตรู เหมือนกระจกบานใส สะท้อนความจริงที่สุดทุกปัญหาในเรื่องนี้ ยุติที่ความจริง เมื่อมองต้นเหตุปัญหาที่เป็นความจริง...กระบวนแก้ปัญหาก็ถูกทิศ ทางออกที่มองไม่เห็นมานาน ก็อาจเปิดโล่งเห็นทางสว่างการมองกระจกด้านเดียว...ไม่ว่าภาพที่เห็นจะชัดหรือพร่า แต่ก็มีผลให้กลายเป็นคนหลงทิศผมเกิดที่แม่กลอง รู้จัก “จุ๊ยค่า” คนหนึ่ง ก็คนน้ำนั่นแหละครับ ชื่ออี๊ด รูปร่างสูงใหญ่ ผมแดงทั้งหัว เดินสวนกันทุกวัน พี่อี๊ดเคยเล่า งานของคนน้ำตอนสำคัญ คือประคองโคนเสาปักทำโป๊ะจับปลาทูตอนปักต้องใช้เรี่ยวแรงและความชำนาญประสานกับคนอื่น คนน้ำหลายคนพลาดพลั้ง เพราะเกิดอาการหลงน้ำ ถีบตัวเองตะกาย ลงดิน แทนที่จะพุ่งขึ้นสู่ผิวน้ำ ตายไปแล้วหลายคนคนน้ำหลงน้ำตัวเองตาย แต่ถ้าผู้นำหลงทิศ ผมเกรงว่าจะทำให้บ้านเมืองเสียหาย หากรู้จักส่องกระจกให้มากๆด้าน ก็อาจ ช่วยได้บ้าง ผมก็คงจะอุปมาอุปไมย เตือนกันได้แค่นี้.กิเลน ประลองเชิง