หนังสือเล่มที่ทยอยฝากมา ช่วงมีนาฯ เมษาฯ ศรัณย์ ทองปาน เขียน เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพร (สำนักพิมพ์สารคดี) ปานชลี สถิรศาสตร์ เขียน เทวลีลา เทวาบันเทิง และเล่มล่า พลเอกบัญชร ชวาลศิลป์ เขียน The LAST QUARTER 2475-2500 (สำนักพิมพ์แสงดาว)นี่คือช่วงเวลาโควิด-19 อาละวาด กลไกสังคมติดขัดมาก ขอคารวะ ท่านคือผู้กล้า...ที่น่านับถือจริงๆช่วงเวลา “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” คนหนุ่มๆสาวๆ มีช่องทางเสพสื่อจากโลกโซเชียลฯมากมาย แต่กับคนแก่อย่างผม หนังสือดูจะเป็นช่องทางหลัก...ที่ตั้งตาอ่าน ทั้งอ่านเอาเรื่องและอ่านเอาตัวรอดการเมืองไทยช่วงสุดท้ายของพุทธศตวรรษที่ 24 ผมมีภาพจำฝังใจจากเรื่อง “ทหารชั่วคราว” ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เสรีไทยจากอินเดีย ที่กระโดดร่มที่ชัยนาท แล้วถูกจับในข้อหา “แนวที่ห้า”เจอหัวข้อเสรีจีนในไทยในหนังสือที่พลเอกบัญชรเขียน ผมรีบเปิดอ่าน อยากรู้เสรีจีนเป็นไงเชื่อมโยงกับเสรีไทย แบบ ดร.ป๋วยแค่ไหนข้อมูลชุดนี้ พลเอกบัญชรอ้างบันทึกของ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ รักประชา เรื่อง “ข้าพเจ้ากับเสรีไทยสายจีน”เด็กหนุ่มไทยเชื้อสายจีน เป็นนายทหารจากโรงเรียนนายร้อยหวังปู กองทัพจีนรุ่นที่ 17 ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจในไทย สามครั้งครั้งแรก ห้านายกระโดดร่มลงใต้สถานีรถไฟ งิ้วราย นครปฐม 25 มี.ค.2487สองนายถูกยิงตายเมื่อร่มถึงพื้น สองคนถูกจับ สองคนนี้ถูกขังอยู่ในสันติบาล ในการคุ้มครองของ พล.ต.อ.อดุล อดุลเดชจรัส และต่อมาได้พบกับ ดร.ป๋วย ที่ถูกจับมาจากชัยนาทแนวที่ห้า คนเดียวที่รอดไปได้ ชื่อไทย ร.อ.สมบูรณ์ สุดศรีวงศ์ พลเอกบัญชรติดตามบันทึกเรื่องนี้ไว้เมื่อ พ.ศ.2535 ตอนอายุ 75 ปี เรื่องโลดโผนเร้าใจยิ่งกว่าเรื่องในหนัง ลองอ่านกันดูเรากระโดดจากเครื่องบิน พอเท้าแตะพื้นก็ได้ยินเสียงปืน ปืนกล ปืนเล็กยาว ปืนพก ดังสนั่น ผมสลัดร่ม ทิ้งสัมภาระวิ่งหนี ชั่วโมงกว่าก็ถึงริมแม่น้ำ (นครชัยศรี)ซุ่มอยู่จนสาย เจอเรือหาปลา จ้างไปส่งสถานีรถไฟ จากท่าน้ำไปถึงสถานีมีแต่สารวัตรทหารญี่ปุ่น ฟังชาวบ้านคุยเมื่อรู้ว่า เพื่อนที่กระโดดร่มด้วยกันตายสอง ถูกจับสอง ก็แทบบ้าคุมสติหาวิธีหนีให้รอด เห็นแม่ลูกอ่อนอุ้มลูก มีลูกอีกคน 2-3 ขวบนั่งข้าง มีชะลอมและกระเป๋าเสื่อ ก็เข้าไปนั่งตีสนิท ซื้อขนมให้เด็กกิน พอรถไฟมาก็ช่วยอุ้มเด็ก หิ้วสัมภาระ ผ่านสารวัตรทหารญี่ปุ่นนั่งรถไฟไปได้ถึงสถานีรถไฟบางกอกน้อย ก็ช่วยอุ้มเด็กลงเรือข้ามฟากไปท่าพระจันทร์ ฝั่งพระนคร“ผมรู้จักกรุงเทพฯ บ้านอยู่กรุงเทพฯ แต่กลับบ้านไม่ได้” ร.อ.สมบูรณ์ร่ำลาแม่ลูกอ่อนแล้วก็เรียกสามล้อไปเยาวราช ตีตั๋วดูหนังรอบบ่ายรอบค่ำต่อกันสองรอบในบทของ “แนวที่ห้า” ที่ต้องหนีอย่างเดียว เขาไม่กล้าเช่าโรงแรมนอน กลัวถูกจับ เรียกสามล้อให้ไปส่งที่แพร่งสรรพศาสตร์ เหมาโสเภณีนางหนึ่งบอกว่าจะไปหาโรงแรมนอน แต่ขอเปลี่ยนไปนอนบ้าน “คุณเธอ”เพราะแน่ใจว่าปลอดภัยกว่าพอตั้งหลัก ร.อ.สมบูรณ์ติดต่อคุณสงวน ตุลารักษ์ ได้ก็ถูกส่งไปอยู่ฐานเสรีไทย ปากน้ำโพ ใกล้บึงบอระเพ็ด เริ่มภารกิจฝึกวิชาวางระเบิดทำลายให้เสรีไทย และคอยสนับสนุนพลพรรคที่จะกระโดดร่มตามมาอีกยังมีอีกหลายหัวข้อสำหรับคอหนังสือการเมืองรุ่นเก่า โรงเรียนรบ ที่มั่นสุดท้ายพระยาทรงสุรเดช ลุงสิน บุรุษปริศนาแห่งเสรีไทย เดินนับหมอนรถไฟ ฯลฯ และที่ไม่ควรพลาดอ่าน “ผินไม่เอาสฤษดิ์”ผมคงบันเทิงเริงรมย์ กับหนังสือสามเล่มนี้ไปอีกหลายวัน...ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ไม่ลืมกัน ในยามยากอย่างนี้ หนังสือแต่ละเล่ม ช่างมีคุณอเนกอนันต์เสียเหลือเกิน.กิเลน ประลองเชิง