สมัยที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้รับการแต่งตั้งเป็น รมช.มหาดไทย สมัย รัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ สมัยที่ 2 ต้องไปรับตำแหน่งเป็น คณะกรรมการ ปตท. ชุดแรกด้วย ถือว่าเป็นผู้มีบทบาทก่อตั้งริเริ่ม บริษัทน้ำมันของประเทศไทย ก็ว่าได้ ก่อนที่จะเข้าดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนมีนาคม 2523 และอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจนถึง เดือนสิงหาคม 2531 นับเป็นนายกฯคนแรกที่อยู่ในตำแหน่งได้ยาวนานที่สุดมีบันทึกของ พล.อ.เปรม ถึงการวางนโยบายในการบริหาร ปตท. โดยมี พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกฯขณะนั้นเป็น ประธานคณะกรรมการ ท่านยอมรับว่าเป็นภาวะหนักจริงๆ โดยเฉพาะการช่วยรัฐในการแก้ปัญหาวิกฤตการณ์น้ำมัน ที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆปัญหาที่หนักกว่าก็คือ ปตท.เพิ่งเริ่มจะตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก เพิ่งจะมีผู้ว่าการฯขาดความพร้อมเกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรหรืองบประมาณในการสนับสนุน ความชำนาญก็ไม่มี ถึงจะมีบริษัทน้ำมันต่างชาติก็ไม่สามารถที่จะให้การสนับสนุนรัฐบาลได้เต็มที่ ถือเป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจที่คงอยากส่งไปขายในต่างประเทศที่ได้ราคาสูงกว่าประเทศไทยเวลานั้นยังใช้นโยบายควบคุมราคาขายปลีกไม่ได้ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาด การนำเข้าน้ำมันจึงลดลงกว่าปกติอย่างมาก อย่างไรก็ตาม โชคดีที่ตอนนั้นก่อตั้ง ปตท.แล้ว และสามารถช่วยบรรเทาปัญหาไปได้โดยพยายามหาน้ำมันส่วนที่ขาดเข้ามาแทน เรียกได้ว่า ปตท.ทำหน้าที่ได้อย่างดีเลยทีเดียวปัญหาที่ ปตท.ประสบคือเรื่องของเงิน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ ปตท.แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากได้เรียนรู้การแก้ปัญหา ประสบการณ์จริงเป็นบทเรียนด้านความมั่นคงทางด้านการเงิน ที่ถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากเรื่องที่ พล.อ.เปรม บันทึกเอาไว้อีกเรื่องคือ การเอาโรงกลั่นบางจาก ที่บริษัท ซัมมิท เช่าอยู่กลับคืนมาก่อนกำหนด เป็นเรื่องที่ พล.อ.เปรม รับตำแหน่งนายกฯแล้ว เนื่องจากเห็นว่าโรงกลั่นบางจาก เป็นของรัฐอยู่แล้ว เพียงแต่ไปให้เอกชนเช่า โดยมีเงื่อนไขชัดเจน แต่เมื่อเอกชนไม่ทำ ตามเงื่อนไข ทำให้กระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ รัฐก็ต้องเอากลับมาทำเอง และในที่สุดก็เห็นว่าการตัดสินใจครั้งนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องในช่วงที่ พล.อ.เปรม เป็นประธานคณะกรรมกาาร ปตท.เมื่อปี 2524 ปตท.เริ่มวางท่อก๊าซธรรมชาติและเตรียมโครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซโรงที่ 1 เพื่อนำก๊าซมาใช้ประโยชน์และให้ถึงมือประชาชนในชนบทด้วย พล.อ.เปรม ถึงกับออกปากว่า ดีใจมาก ที่ โครงการวางท่อส่งก๊าซ และโครงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซ สำเร็จตามแผนทำให้ ปตท. มีจุดเริ่มต้นในการพัฒนาและลงทุนใน อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ในเวลาต่อมา เพิ่มมูลค่าของก๊าซธรรมชาติลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีต่างๆได้เป็นจำนวนมากพล.อ.เปรมทิ้งท้ายว่า ปตท.ได้ทำหน้าที่เป็นองค์กรของรัฐในฐานะบริษัทน้ำมันแห่งชาติอย่างครบถ้วน การทำงานใหญ่และเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศนั้นต้องการองค์กรที่เพียบพร้อมทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี และความมั่นคงทางการเงินถือเป็นคุณูปการที่ พล.อ.เปรมสร้างเอาไว้ให้คนไทยอยู่ดีกินดี ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th