อากาศร้อนๆ ร้อนผ่าวไปทุกขุมขน ช่วงเดือนเมษาฯ พฤษภาฯ อย่างนี้แหล่ะครับ คนโบราณในท้องไร่ท้องนา เกี่ยวข้าวไปด้วย ก็เล่นเพลงพื้นบ้าน คลายร้อนไปด้วยไม่ว่าจะเป็นเพลงสงฟาง เพลงพานฟาง เพลงชักกระดาน เพลงพิษฐาน ฯลฯ หรือเพลงปฏิพากย์ถ้าเป็นเพลงปฏิพากย์ ชนิดที่มีความยาวหลายบทในการร้องโต้ตอบแต่ละครั้ง มักเล่นเป็นลำดับขั้นตอนตามโครงสร้าง ฝ่ายหนึ่งร้องจบ อีกฝ่ายก็ร้องแก้เป็นข้อๆ(พจนานุกรมศัพท์วรรณกรรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับ พ.ศ.2552)ผู้เล่นเป็นพ่อเพลงแม่เพลงอาชีพ สามารถร้องตอบโต้ได้นานๆ และการร้องได้นานๆ จึงสร้างชุดการเล่น เช่น ชุดลักหาพาหนี ชุดสู่ขอ ชุดชิงชู้ ชุดตีหมากผัว และชุดเบ็ดเตล็ดเพลงปฏิพากย์ ไม่ว่าจะใช้ท่วงทำนองเพลงฉ่อย เพลงเรือ เพลงอีแซว เพลงปรบไก่ ใช้คำง่ายๆ มีลักษณะเป็นกลอนหัวเดียว เนื้อหาเป็นเรื่องเกี้ยวพาราสีระหว่างหนุ่มสาว มักใช้โวหารไปในเชิงสังวาสสังวาสชนิดตรง หรือกลอนแดง ถือถ้อยคำที่กล่าวถึงอวัยวะเพศและพฤติกรรมทางเพศอย่างตรงๆสังวาสชนิดอ้อม หรือกลอนสองแง่สองง่าม คือถ้อยคำที่กล่าวถึงอวัยวะเพศหรือพฤติกรรมทางเพศอย่างเลี่ยงๆ ไม่พูดตรงไปตรงมาวิธีกล่าวถึงถ้อยคำแบบนี้ คือเปลี่ยนเสียงสระหรือพยัญชนะของคำสังวาสนั้น แต่ยังเห็นเค้าคำเดิมอยู่ หรือการใช้ผวนคำ หรือการใช้สัญลักษณ์ตัวอย่างจากการร้องเพลงฉ่อย ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กับแม่เพลง ทองอยู่ ที่เล่นกันในงานวันเกิด ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ซอยสวนพลู เมื่อ 22 เมษายน 2522กติกาเพลงปฏิพากย์แบบนี้ พ่อเพลงแม่เพลง ต้องพยายามเลือกใช้โวหาร ที่คิดว่าอีกฝ่ายไม่กล้าโต้ตอบถ้าอีกฝ่ายแก้ไม่ได้ ก็ต้องร้องข้ามไปเสีย ก็เป็นที่รู้กันว่าฝ่ายนั้นแพ้ในฐานะพ่อเพลง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เริ่มต้นก่อนว่าได้ยินเพลงฉ่อยเขาว่ากันดี ฟังแล้วจักจี้หัวใจ คำหนึ่งก็สี สองคำก็สี แม่ทองหล่อก็ว่าสี พ่อเพชรก็ว่าสี ไม่รู้ว่ามันสียังไง เกิดมาจนแก่เลยก็ป่านนี้ ไม่รู้ว่าไอ้สีมันคืออะไรจะเป็นสีข้างหรือว่าสีข้าว หรือว่ามันเป็นลูกเต้าของใคร หรือว่าเป็นผักเป็นปลา ที่เขาหาเอาไว้กิน หรือมันมีปีกบินร่อนได้ว่าไอ้คำว่าสีสะกดด้วยตัว ส ถ้าเปลี่ยนเป็นตัว ห มันจะเหมือนกันไหมคุณยายจ๊ะคุณยายจ๋าน้องจะว่าวอน ขอให้พี่หล่อนจงสอนให้น้องแจ้งใจ หรือถ้าจะให้ดี ขอให้พี่ทองอยู่ แกเปิดเอาสีออกมาดูเถอะ เป็นยังไงพ่อเพลงคึกฤทธิ์จบ ผูกปมเปลี่ยน ส.สระอี เป็น ห.สระอี ถือว่ายากที่แม่เพลงจะตอบไม่ให้ไม่หยาบ และถึงใจได้ แต่ไม่น่าเชื่อ เมื่อแม่เพลง ทองอยู่ ลอยหน้าลอยตา ร้องตอบเหมือนตอบโจทย์ธรรมดาๆ ว่าคนเขาจะดูกันว่าสี แต่อยู่มันไม่มีละก็มากมาย เขาว่าสีละสีข้าง จะตัวของเราจริงใจ ไอ้ที่สีนะจริงๆ มันอยู่ที่ร่างหญิง ไม่ได้อยู่ผู้ชายถ้าให้ดูที่นี่ กลัวมีคนจะเห็น กลับไปบ้านจะให้เล่นเพลินใจแม่ทองอยู่ ว่าจบ แฟนๆที่ฟังกันแน่นบ้านซอยสวนพลู ก็ตบมือกรี๊ดกันบ้านแทบพัง...สะใจ ซะไม่มีร้อนๆอย่างนี้ มีเรื่องสัปดนวันละนิด ให้จิตแจ่มใสกันบ้าง ก็พอคลายร้อนผ่อนเย็น รอการตั้งรัฐบาลกันไปได้ ไม่อึดอัดขัดข้องเกินไปนักคิดถึงอาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์ นะครับ...ยิ่งดูละคร “ไผ่แดง” ทางช่องไทยรัฐทีวีแล้ว ก็ยิ่งคิดถึง คนอะไร เขียนนิยายให้คนอ่านตั้งแต่ยังเด็ก ก็สนุกแบบเด็ก ดูละครทีวีตอนแก่ ก็สนุกลึกๆ แบบคนแก่...ไปอีกแบบ.กิเลน ประลองเชิง