คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. 350 เขตทั่วประเทศครบ 100% ไปแล้วภาพรวมทั่วประเทศ มีผู้มาใช้สิทธิ 38,268,375 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 51,239,638 คน คิดเป็นร้อยละ 74.69 โดยมีจำนวนบัตรดี 35,532,645 ใบ หรือ 92.85% บัตรเสีย 2,130,327 ใบ หรือ 5.57% และมีบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัคร 605,392 ใบ หรือ 1.58%แถมมี “บัตรเขย่ง” ให้ฮือฮาโห่ฮิ้วอีก 9 ใบ!!!ยังไม่รวมถึงประเด็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิ กับจำนวนบัตรเลือกตั้ง ที่ปรากฏตัวเลขออกมาลักลั่นกันในระหว่างมีการรายงานผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการแบบเรียลไทม์ ผ่านจอโทรทัศน์หลังปิดหีบลงคะแนน คืนวันที่ 24 มี.ค.แถมตัวเลขสรุปผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 93% เปรียบเทียบกับการแถลงผลคะแนนครบ 100% จาก กกต. จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4.5 ล้านหัวโดยพรรคพลังประชารัฐ ได้คะแนนรวมทั้งประเทศ 8.4 ล้านคะแนน พรรคเพื่อไทย 7.9 ล้านคะแนนกลายเป็นปมให้บรรดาฝ่ายที่ตั้งท่าจับผิด หยิบมาเป็นประเด็นขยายผลขยายแผล โจมตีการทำงานของ 7 เสือ กกต. ส่อไปในทางไม่โปร่งใสผนวกกับการทำงานบริหารจัดการเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต การเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ที่มีปัญหาขลุกขลักมาตลอดทางแถมยังโป๊ะแตกส่งท้าย กรณีปัญหาการส่งและรับบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร จากประเทศนิวซีแลนด์กว่า 1,500 ใบ เกิดความล่าช้า ไม่ทันเวลานับคะแนนจน กกต. ต้องพลิกตำรากฎหมายวินิจฉัย ใช้คำเท่ๆว่าเป็น “บัตรที่ไม่นำมา นับคะแนน” ให้งงเล่นซะอย่างงั้น ทั้งๆที่ภาษาชาวบ้านก็เรียกง่ายๆว่า “บัตรเสีย” นั่นแหละด้วยปัญหาสารพันที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้ง แม้ กกต.จะขอโทษขอโพย ยอมรับความผิดพลาดในกระบวนการบางขั้นบางตอนที่เกิดจากตัวบุคคล และระบบรายงานผลมีปัญหารวนเป็นบางช่วง เพราะข้อมูลเข้ามาพร้อมกันเป็นจำนวนมาก ชักแม่น้ำทั้งห้า อธิบายขั้นตอนการ รายงานผลคะแนนแบบเรียลไทม์ ผ่านระบบแรพพิดรีพอร์ตและปัญหาอุปสรรคในการประมวลผล ที่อาจนำมาสู่ความคลาดเคลื่อนในการรายงานของสื่อมวลชน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในข้อมูลตัวเลขที่ออกมาไม่เสถียรกันแต่ก็ไม่อาจต้านกระแสโหมโจมตีจากโลกออนไลน์ สื่อโซเชียลมีเดีย ที่เฮโลสาระพาถล่ม กกต.กันสนุกมือ!!!“พ่อลูกอิน” มองการทำงานของ กกต. ในสภาวะที่พรรคการเมืองต่อสู้แข่งขันช่วงชิงคะแนนเสียงกันอย่างเข้มข้น มีสถานะไม่ต่างจาก “ตกอยู่กลางเขาควาย”พรรคการเมืองที่คิดว่าตัวเองเสียเปรียบจากกติกาที่เอื้อต่อพรรคคู่แข่ง ระแวงเรื่องความเป็นกลางของ กกต.จึงใช้เกม “ตีปลาหน้าไซ” ใส่ชุดข้อมูลความคิดที่เป็นลบต่อ กกต.ผ่านโลกโซเชียล จุดประเด็นโกงเลือกตั้งนำร่องมาตั้งแต่เริ่มหาเสียง แฝงยุทธศาสตร์แยกคนให้เลือกข้างเมื่อ กกต.มีข้อผิดพลาด บวกกับผู้คนอินกับชุดความคิดที่เป็นลบ และกระแสเลือกข้าง กกต.เลยถูกรุมยำเละเป็น กกต.ในยุคนักการเมืองหาคะแนนด้วยการตอกลิ่มสร้างความ แตกแยก ก็สะบักสะบอมอย่างงี้แหละ!!!“พ่อลูกอิน”อ่านข่าวล่าสุด เจาะลึกข้อมูลเลือกตั้ง 2562