ทลายแก๊งค้ายาเสพติดรัสเซีย ใช้เทคโนโลยีเอไอในทางที่เลว สั่งการค้าขายยาเสพติดทั่วกรุง ผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดที่นำไปติดไว้ตามที่สาธารณะ ทั้งเสาไฟฟ้า กำแพงอาคารห้างร้าน หลังผู้ซื้อติดต่อมาจะให้เอไอพูดคุยทางเทเลแกรม “รองจ๋อ” ส่งทีม ศอ.ปส.บช.น.สืบสวนบุกรวบผู้ต้องหาทั้งคู่พร้อมของกลาง ยันเป็นกลุ่มค้ายาเสพติดยุคใหม่ใช้เทคโนโลยียากแก่การจับกุม และยังพยายามสร้างเครือข่าย ชักชวนให้ผู้เสพเข้าร่วมขบวนการ ถ้าเป็นเอเย่นต์จะได้ส่วนลดเป็นขั้นบันได หรือเป็นนักบินเอายาไปซุกตามจุดต่างๆ หรือเปิดเครือข่ายให้นำ Ai Bot ไปสร้างหน้าร้านค้ายาเสพติดของตัวเองศอ.ปส.บช.น.จับรัสเซียค้ายาผ่านเอไอ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบด้านยาเสพติด พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผบก.น.6 พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ยานนาวา และ พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร นำกำลังเปิดปฏิบัติการ “ทลายแก๊งรัสเซียยุค 2025 ใช้ AI บงการขายยานรกทั่วกรุงเทพ”จับกุมนายไอวาน วอลนอพ อายุ 34 ปี ชาวรัสเซีย ที่ห้องเลขที่ 707 โรงแรมแอลเอ ทาวเวอร์ ซอยอินทามระ 47 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ 1265/2568 ลงวันที่ 7 ธ.ค.68 ข้อหาโฆษณาเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ หรือวัตถุออกฤทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เช่น สารสกัดกัญชา ยางกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต และจับกุมนายมารค์ มาโอปูโร อายุ 35 ปี ชาวรัสเซีย ที่โรงแรมรามาดา บาย วินด์แฮม 10 เอกมัย เรสซิเดนซ์ ถนนเอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา ข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เช่น สารสกัดกัญชา ยางกัญชา โดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยที่การอนุญาตสิ้นสุด (OVER STAY) พร้อมของกลางเงินสด 200,000 บาท รถตู้โตโยต้า แกรนด์เวีย สีเทา โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง การ์ดความจำ และแฟลชไดรฟ์ 20 อัน บัญชีธนาคาร 5 เล่ม ช่อดอกกัญชาไม่ทราบสายพันธุ์ 41 ถุง ยางในกัญชา 25 กระปุก เมล็ดกัญชา 20 ห่อ เครื่องบดกัญชา และอุปกรณ์อื่นๆจำนวนมากสืบเนื่องจากตำรวจศูนย์ยาเสพติดนครบาล (ศอ.ปส.บช.น.) แกะรอยสติกเกอร์ QR Code ขายยานรก 2025 ใช้เอไอขายยาแตกเครือข่ายแบบธุรกิจสตาร์ตอัพ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พบเบาะแสจากเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ว่ามีสติกเกอร์คิวอาร์โค้ดขายยาเสพติดภาษารัสเซียตามริมถนนในพื้นที่ กทม. แจ้งให้ทุก สน.ตรวจสอบพบว่ามีสติกเกอร์ดังกล่าวปรากฏในย่านลุมพินี ปทุมวัน และยานนาวา วิเคราะห์ว่าคนร้ายใช้เทคโนโลยีเอไอดำเนินการกระบวนการส่งมอบยาเสพติดที่เหนือชั้นแผนประทุษกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้คือ เมื่อมีคนสนใจสั่งซื้อยาเสพติดจะให้สแกนคิวอาร์โค้ดบนสติกเกอร์ จากนั้นนำเข้าสู่แอปพลิเคชัน Telegram สนทนาซื้อขายยาเสพติด จะมี Ai Bot ตอบโต้กับลูกค้าที่สั่งซื้อยาเสพติดเบ็ดเสร็จตลอด 24 ชม. ไม่มีคนหรือแอดมินคอยตอบโต้ ยากแก่การติดตามตัว เมื่อถึงขั้นตอนการจ่ายเงิน จะรับชำระผ่านสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น Bot จะตรวจสอบยอดเงินเข้าบัญชีแบบเรียลไทม์ หากลูกค้าโอนเงินยาเสพติดให้แล้ว ระบบจะอนุมัติทันทีไม่ต้องใช้สลิปโอนเงินส่วนขั้นตอนการส่งมอบยาเสพติดเหนือชั้น คนร้ายจะไม่ไปส่งของเอง แต่จะให้ลูกค้าเดินทางไปยัง จุดที่ซุกซ่อนยาเสพติดไว้แล้ว ตามจุดต่างๆทั่วประเทศ เสมือนเกมล่าสมบัติ นอกจากนี้ยังมีกลยุทธ์การขยายเครือข่ายคือเมื่อลูกค้าสั่งซื้อแล้ว “Ai Bot” จะเชิญชวนให้ผู้ซื้อผันตัวมาเป็นผู้ร่วมธุรกิจผ่านระบบสมาชิก มีภารกิจให้ทำหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น 1.แนะนำคนอื่นมาซื้อยาเสพติดจะได้ส่วนลดแบบขั้นบันได 2.การเป็นนักบิน คนเดินยาเสพติดไปซุกซ่อนตามที่ต่างๆ และ 3.เปิดระบบ API ให้ผู้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีนำ Ai Bot ไปสร้างหน้าร้านของตัวเองพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพราะกลุ่มคนร้ายใช้กรรมวิธีการล้ำสมัย แปลกใหม่ ทำให้ไม่สามารถสืบสวนติดตามได้ด้วยวิธีปกติ ที่น่ากลัวคือโมเดลการขยายธุรกิจค้ายานรกนี้ ทำได้อย่างรวดเร็ว แยบยล และไร้ตัวตน ใช้เทคโนโลยีเอไออย่างไม่สร้างสรรค์ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ถือเป็นตัวการสำคัญของขบวนการนี้ หลังจากนี้จะขยายผลอย่างละเอียดถึงที่สุดสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การปฏิเสธข้อหาค้ายาเสพติด คุมตัวนายมารค์ มาโอปูโร พร้อมของกลางบางส่วนส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดี ส่วนนายไอวาน วอลนอพ ส่ง สน.ยานนาวา ดำเนินคดี และของกลางอีกส่วนหนึ่งที่ตรวจค้นพบในห้องของนายไอวาน นำส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดำเนินคดีต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่