ปอศ.รวบยกแก๊ง 6 ผู้ต้องหาสแกมเมอร์ตระเวนจัดงานระดมทุนตามโรงแรมต่างจังหวัด อ้างตัวนักธุรกิจใหญ่ไฮโซ เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมันประเทศไนจีเรีย มีโครงการจะนำเงินเข้าไทย ต้องการระดมทุนทำโครงการ หากสำเร็จจะได้ ผลตอบแทนมหาศาลสูงถึง 20 เท่าของเงินลงทุนใน ระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน พร้อมอ้างหลักฐานสารพัด รวมทั้งเอกสารปลดอายัดเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท มีลายเซ็นโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำกับ เหยื่อหลวมตัวร่วมลงทุนสูญรวมกว่า 13 ล้านบาทตำรวจ ปอศ.จับยกแก๊งตุ๋นลงทุนกองทุนน้ำมันไนจีเรีย วันที่ 28 พ.ย. พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก. ปอศ. พ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ณัฐดนัย บำรุงศิลป์ สว.กก.4 บก.ปอศ. และ พ.ต.ต.หญิง ชนากานต์ นิรัมย์ สว.กก.4 บก.ปอศ. นำกำลังจับ 6 ผู้ต้องหาแก๊งหลอกเหยื่อลงทุนกองทุนน้ำมัน อ้างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วย นายอธิณัฏฐ์ คชาฐาปพงศ์ อายุ 57 ปี จับได้บนทางหลวง จ.ขอนแก่น น.ส.ณันนภัชสรณ์ เหมเศวตวงศ์ อายุ 51 ปี หรือมาดามเมตตา จับได้ที่บ้าน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นางเข็มทอง บุญศรี อายุ 55 ปี จับได้ที่บ้าน อ.เมืองอุบลราชธานี น.ส.ปรานิศา วรรณโคภาคิน อายุ 48 ปี จับได้ที่บ้าน อ.เมืองนนทบุรี นายถาวร วรบูรณ์ อายุ 60 ปี จับได้ที่บ้านใน อ.พนา จ.อำนาจเจริญ และนางอนุภา น้อยเกิดมี อายุ 45 ปี จับได้ที่หอพักย่านคู้บอน เขตคันนายาว กทม.มีรายงานว่า ทั้งหมดถูกจับตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ลงวันที่ 21 พ.ย.68 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ยึดโทรศัพท์ 8 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง, แท็บเล็ต 1 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 22 เล่ม, เอกสารการเงินสมุดใบมอบอำนาจจากต่างประเทศ 33 เล่ม, เอกสารการปลดอายัดเงิน มูลค่า 783,800,000 USD ของประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 25,236,792,400.00 บาท ที่มีลายเซ็นโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ 1 ฉบับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 6 รายได้ร่วมกันตั้งกลุ่มตระเวนจัดงานชักชวนระดมทุน ตามโรงแรมในจังหวัดต่างๆ อ้างตัวว่าเป็นนักธุรกิจใหญ่ไฮโซ เป็นเจ้าของกองทุนน้ำมันประเทศไนจีเรีย มีโครงการจะนำเงินกองทุนน้ำมันเข้ามาประเทศไทย ต้องการระดมทุนเพื่อดำเนินโครงการ หากทำสำเร็จจะได้รับผลตอบแทนจำนวนมหาศาลสูงถึง 20 เท่าของเงินลงทุน ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน นอกจากนี้ยังนำเอกสารรับรองการปลดอายัดเงิน มูลค่า 783,800,000 USD ของประเทศสหรัฐอเมริกา มีลายเซ็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์, หนังสือรับรองความเป็นเจ้าของทองคำทั่วโลก ต้องใช้ไฟฉายชนิดพิเศษส่องถึงจะเห็นลายน้ำ, เอกสารรับรองจากธนาคาร HSBC ประเทศจีน แสดงยอดเงิน 9 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ มาแสดงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุนจำนวนมาก รวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาทเมื่อถึงกำหนดระยะเวลาจ่ายผลตอบแทน กลุ่มผู้ต้องหาจะบ่ายเบี่ยง ไม่จ่ายผลตอบแทน อ้างเหตุขัดข้องต่างๆ จนผู้เสียหายสงสัย นำเอกสารที่กลุ่มผู้ต้องหาเคยแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของกองทุนน้ำมัน ส่งไปตรวจสอบที่สถานทูตไนจีเรีย ทำให้ทราบว่าเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด ตัดสินใจรวมตัวเข้าแจ้งความไว้ที่ กก.4 บก.ปอศ. กระทั่งมีการออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 รายนี้ พร้อมตรวจยึดเอกสารต่างๆไว้ดังกล่าวสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เนื่องจากตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา พบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องถึง 22 บัญชี มีเงินหมุนเวียนในกลุ่มผู้ต้องหากว่า 150 ล้านบาท หลังจากที่กลุ่มผู้ต้องหาได้รับเงินจากกลุ่มผู้เสียหาย จะมีการโอนเงินต่อเป็นทอดๆภายในกลุ่ม ปลายทางของเงินส่วนใหญ่ที่ได้รับมา จะถูกแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลกับผู้เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับเอกสารหน่วยงานรัฐ ที่ปรากฏลายมือชื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะได้นำส่งตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่