หลังการปราบปรามจากทางฝั่งเขมรและพม่าทำให้บรรดาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์จีนเทา พากันอพยพย้ายฐานมุ่งสู่ภาคเหนือของไทย “พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ”...จังหวัดเชียงราย จึงกลายเป็นประตูทางออกสู่พม่าและลาว ขยายฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์แห่งใหม่ทีมงาน SEE TRUE ไทยรัฐทีวี และนายสุรชาติ ผิวแดง อาสาสมัคร IMF ช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน ตามแกะรอยขบวนการนี้ เดินทางจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าสู่อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย อีกครั้ง หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่าถนนทุกสายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หนีการปราบปรามมารวมกันอยู่ที่นี่เมื่อวัดจากความถี่ในการเปิดบัญชีม้าที่สูงขึ้นในภาคเหนือ ทั้งเชียงรายและเชียงใหม่ ยิ่งมั่นใจว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่ครอบคลุมสามแผ่นดิน ไทย-ลาว-เมียนมา ที่กลายเป็นชุมทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปัจจุบันก่อนการเดินทางขึ้นภาคเหนือ SEE TRUE ได้รับการประสานจากแหล่งข่าว ว่ามีบุคคลคนหนึ่งชื่อ “นารา” อ้างตัวเป็นอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเป็นคนฝั่งท่าขี้เหล็กในเมียนมา ที่กลับใจอยากแฉขบวนการทั้งหมด ทักอินบ็อกซ์เข้ามาเพื่อขอนัดหมายพูดคุยระบุพร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงเบื้องหลังขบวนการทั้งหมดเขาอ้างว่าก่อนหน้านี้ ตนเองเป็นหนึ่งในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งท่าขี้เหล็ก ที่เคยหลอกดาราสาวคนดัง ดีกรีนางเอกยุค 80 ลงมือ 4 วันได้เงินไป 14 ล้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20-24 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมส่งหลักฐานต่างๆให้ทีมงานเพื่อยืนยันว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง และอยากให้เราช่วยตามหาดาราสาวรายนั้นเพื่อหวังเอามาเป็นหลักฐานเล่นงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะอยากล้างแค้นให้น้องสาว ที่เคยถูกแก๊งนี้หลอกเงินไป 3 ล้านเมื่อราวๆ 3 ปีก่อน และในตอนนี้น้องสาวของตัวเองเครียดหนักถึงขั้นเสียสติ คุยแชตไลน์กับ “นารา” อยู่หลายวัน จนกระทั่งยอมคุยสายทางไลน์ เพื่อขอนัดเจอในฝั่งไทย มีข้อแม้ขอให้เราต้องจัดฉากเพื่อปลอมตัวเขาให้เป็นผู้หญิงตอนให้สัมภาษณ์เปิดใจ เพราะเจ้าตัวอ้างว่า รู้สึกกังวลในความปลอดภัย เราทำทีคล้อยตามละครฉากใหญ่ที่เขาสร้างขึ้นตอบรับนัดข้ามมาฝั่งไทยในช่วงบ่ายของวันหนึ่ง“SEE TRUE” พร้อมนายสุรชาติ เดินทางไปที่ด่านพรมแดนแม่สาย จ.เชียงราย ตามนัดเราเดินทางไปตรงเวลา แต่พอถึงเวลานัดนาราออกลีลาบิดพลิ้วขาดการติดต่อ ทิ้งช่วงไปนานเกินครึ่งชั่วโมง ก่อนจะทักข้อความมาทางเฟซบุ๊กนายสุรชาติอ้างว่าตนเองข้ามจากฝั่งเมียนมามารอที่หน้าด่านแม่สายนานแล้วแต่ไม่เจอใครจึงตัดสินใจข้ามกลับไป หากอยากได้ข้อมูลขอให้ทีม SEE TRUE ข้ามเข้าไปหาเขาในฝั่งเมียนมา จะพาไปดูแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ท่าขี้เหล็กที่มีบอสจีนดูแลอยู่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการหลอกดาราสาวรายนั้น และคนไทยอีกนับไม่ถ้วน แต่ทีม SEE TRUE ไม่ได้ตอบโต้ เพราะรู้ทันหลุมพลางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่วางกับดัก...หลอกล่อให้เราข้ามออกนอกเขตประเทศไทย นี่นับเป็นการต้อนรับทักทายการมาของ “ทีมข่าว SEE TRUE” ที่มาเจาะลึกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทางภาคเหนือผ่าแผนลวง “SEE TRUE” ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน ไทยรัฐทีวี ข้ามเข้าฝั่งพม่า...กล่าวถึงข้อมูลฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งท่าขี้เหล็ก ซึ่งเราได้รับรายงานจากสายข่าวว่าที่นี่มีมานานแล้วและยังไม่รวมกลุ่มใหม่ที่แตกทัพหนีมาจากปอยเปตกัมพูชาและพม่าในแถบเมืองเมียวดี ที่มีการปราบปรามอย่างดุเดือดภาพหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ตอกย้ำว่า จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ติด อ.แม่สาย จ.เชียงราย คืออาณาจักรใหญ่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือภาพการเข้าไปสังเกตการณ์ของแอดมินเพจ Natty loves Myanmar ที่เข้าไปสังเกตการณ์เมื่อช่วงเดือนมีนาคมเจ้าของเพจให้ข้อมูลว่า สแกมเมอร์ที่ท่าขี้เหล็ก จะแตกต่างกับทางฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก โดยท่าขี้เหล็กมีการสร้างตึกมากมาย เพื่อรองรับฐานสแกมเมอร์ภายหลังทหารเมียนมามีการปราบปราม ทำให้หลายโรงแรมที่เคยเป็นฐานสแกมเมอร์ร้าง กลุ่มแก๊งเหล่านี้จึงเปลี่ยนไปเช่าโรงแรม เพื่อทำเป็น “ธุรกิจสีเทา” แทน บางแห่งมีเครื่องปั่นไฟวางไว้ตรงหน้า แสดงให้เห็นเป็นอัตลักษณ์ที่เด่นชัดของแก๊งเหล่านี้ ว่าที่นี่คือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขนานแท้แบบที่เราพบแถบกัมพูชา“แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ในท่าขี้เหล็กทำกันอย่างเปิดเผย คนที่เข้ามาทำงานในแก๊ง ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นคนไทยที่สมัครใจมาทำงาน มีการเข้าออกจากฝั่งไทยไปท่าขี้เหล็กแบบเช้าไปเย็นกลับ เพื่อเข้าไปทำเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จุดสังเกตคือวัยรุ่นคนไทย ที่มักจะผ่านด่านเข้าไปทำงานแบบซ้ำหน้าเพื่อให้ได้หลักฐานความจริง เราส่งทีมงาน SEE TRUEทำทีไปพูดคุยกับวัยรุ่นที่มาเตร็ดเตร่อยู่หน้าด่านชายแดนแม่สาย จึงทำให้เราได้รับคำตอบแบบไร้ข้อสงสัยเพราะวัยรุ่นคนหนึ่งบอกกับเราว่า...“ถ้าจะข้ามไปเที่ยวไม่แนะนำ เพราะฝั่งนั้นถ้าไม่มีคนรู้จักจะอันตราย ที่นั่นคนไทยไปทำงานเยอะ ไปกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ส่วนใหญ่ข้ามไปทำเว็บพนันและแอดมินกันทั้งนั้น”ซึ่งภาพที่เห็นบริเวณด่านพรมแดนแม่สาย ช่วงเย็นมีคนข้ามกลับมาฝั่งไทยหลายคน บางคนถือกระเป๋าเดินทางกลับมาด้วยนี่อาจสะท้อนให้เห็นความง่ายดายในการข้ามไปทำงานในสถานที่แห่งนี้?สอดคล้องกับข้อมูลจากสายข่าวอีกคนฝั่งไทยระบุแก๊งคอลเซ็นเตอร์ท่าขี้เหล็กนั้นมีจำนวนมากเทียบได้กับจำนวนการสั่งข้าวกล่องที่ส่วนใหญ่เป็นเมนูอาหารไทย หัวหน้าขบวนการจะสั่งครบ 3 มื้อให้ร้านค้านำไปให้ยังโรงแรมรังแก๊งสแกมเมอร์ แต่ละมื้อมีการสั่งข้าวกล่องให้คนที่ทำงานสีเทานี้กว่า 50 กล่องในหลายที่น่าสนใจว่าขบวนการที่ว่านี้จะอยู่ตามโรงแรม ห้องแถว และตึกใหญ่ ส่วนใหญ่คนที่ข้ามไปมีแต่คนสมัครใจไปทำงาน เพราะมีรายได้ดี.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม