“บิ๊กก้อง” นำชุดสืบสวนนครบาลทลายแก๊งสแกมเมอร์หนุ่มชาวจีน 4 คน แอบซุกในคอนโดฯหรูกลางกรุงเช่าห้องตั้งฐานปฏิบัติการ ทั้ง หมดหลบหนีมาจากกัมพูชามาซ่อนตัวในไทย สารวัตรแจ๊ะแฝงตัวเป็นช่างซ่อมบำรุงอาคารหาเบาะแสข้อมูลก่อนนำกำลังบุกจับกุม ตรวจค้นพบของกลางคอมพิวเตอร์ใช้ตัดต่อคลิปบุคคลเพื่อยืนยันตัวตนใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน มือถือ 60 เครื่อง ยาไอซ์พร้อมอุปกรณ์การเสพ สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพรับจ้างจากหัวหน้าขบวนการชาวจีนทำธุรกรรมการเงินได้ค่าจ้างกว่า 1.3 แสนบาทต่อเดือน ไม่รวมโบนัสนครบาลทลายแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีนในคอนโดฯหรูกลางกรุง เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.กก.สส.บก.น.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.บช.น. บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.5 และ สน.ทองหล่อ นำหมายค้นศาลอาญาที่ ค.124/2568 ลงวันที่ 8 พ.ย.68 เข้าตรวจค้นห้องเลขที่ 15/36 ชั้น 19 คอนโดมิเนียม ซิตี้เลค ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท ซอย 16 แขวงคลองเตยและคลองเตย กทม. จับกุมแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีน 4 ราย ได้แก่ นายเซี่ย หู ซิน อายุ 29 ปี นายหลิว หมิง อายุ 28 ปี นายหลี่ ลี่ อายุ 22 ปี และนายเฉิง หลิง เฉวียน อายุ 21 ปี พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่อง ใช้ตัดต่อวิดีโอเพื่อสแกนหน้า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง ใช้ทำข้อมูลการเงินเพื่อนำเงินออกประเทศกัมพูชา โทรศัพท์มือถือ 60 เครื่อง และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 2 ถุง และอุปกรณ์การเสพยาสืบเนื่องจาก พล.ต.ท.จิรภพได้ข้อมูลเบาะแสว่ามีกลุ่มชายหนุ่มชาวจีนร่วมขบวนการสแกมเมอร์รายใหญ่หลายคนหลบหนีจากประเทศกัมพูชาเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทย มอบให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลเบาะแส จนพบกลุ่มชาวจีนต้องสงสัย 4 ราย แอบขนเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เข้าไปพักอยู่ในคอนโดฯหรู พล.ต.ต.ธีรเดชสั่งการให้ชุดสืบสวนนำโดยสารวัตรแจ๊ะ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. แฝงตัวเป็นช่างซ่อมบำรุงอาคาร ตรวจสอบจนทราบห้องพักของแก๊งสแกมเมอร์ใช้เป็นฐานกระทำความผิด ก่อนนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมได้ด้าน พล.ต.ท.จิรภพกล่าวว่า การจับกุมแก๊งสแกมเมอร์ชาวจีนรายนี้ เป็นการขยายผลจากข้อมูลสืบสวนในหลากหลายด้าน พบว่าใช้ห้องพักเป็นฐานปฏิบัติการ ยึดของกลางโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง ใช้ในการตัดต่อคลิปวิดีโอ 2 เครื่อง ส่วนอีก 2 เครื่อง ใช้ในการสมัครทำธุรกรรมทางการเงินผ่านการใช้คลิปที่ตัดต่อ ในห้องพักยังพบยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงซิปล็อก 2 ถุง ผู้ต้องหาชาวจีนทั้งหมดเดินทางจากประเทศกัมพูชาเข้าไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวจีนจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพว่า รับงานดัดแปลงคลิปวิดีโอและทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อใช้ยืนยันตัวตนให้กลุ่ม สแกมเมอร์ชาวจีน รับงานผ่านแอปพลิเคชัน Telegram โดยที่ไม่รู้จักกับผู้ที่ว่าจ้าง หรือบอสชาวจีน ได้รับเงินรายได้เดือนละประมาณ 20,000-30,000 หยวน หรือประมาณ 130,000 บาท หากทำงานสำเร็จเกินกว่าเป้าจะได้รับเงินพิเศษเพิ่มเติม ก่อนหน้านี้เคยเดินทางไปประเทศกัมพูชาและมาเลเซีย ทำให้รู้จักกับเครือข่ายสแกมเมอร์ชาวมาเลเซีย 1 คนและชาวกัมพูชา 3 คนชุดจับกุมนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ แจ้งข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดว่ามีความผิดในข้อหาอื่นอีกหรือไม่ และขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่