พสกนิกรจากทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระโกศเป็นวันแรก บางรายยกครอบครัวมารอตั้งแต่ตี 3 รู้สึกตื้นตันใจที่ได้มาแสดงความจงรักภักดี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ขณะเดียวกันผู้แทนออสเตรียเชิญพระราชสาส์นจากเจ้าชายแห่งฮับส์บวร์ก ทูลเกล้าฯถวายในหลวง แสดงความอาลัย “สมเด็จพระพันปีหลวง” ชื่นชมพระราชกรณียกิจสมเด็จพระพันปีหลวงเป็นที่รับรู้ทั่วโลก ทรงงานหนักเพื่อพัฒนาประเทศชาติ และช่วยเหลือชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 9 พ.ย. วันแรกที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.ของทุกวัน โดยกำหนดให้ประชาชนสามารถเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ใน 4 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงที่ 1 เวลา 08.00-10.45 น. ช่วงที่ 2 เวลา 12.00-16.45 น. ช่วงที่ 3 เวลา 17.45-18.30 น. และช่วงที่ 4 เวลา 19.45-21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนทุกหมู่เหล่าจากจังหวัดต่างๆ อาทิ พังงา สุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ นนทบุรี เพชรบุรี ฯลฯ แต่งชุดดำไว้ทุกข์เดินทางมาเข้าคิวบริเวณเต็นท์พักคอยที่กรุงเทพมหานครจัดไว้บริเวณสนามหลวงฝั่งทิศใต้ เพื่อรอเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยบางรายมารอตั้งแต่เวลา 03.00 น. ด้วยความอาลัยและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมาจากนั้น เจ้าหน้าที่จิตอาสาจะพาลงไปที่อุโมงค์หน้าพระลาน บริเวณทางเข้าที่ 1 โดยทุกคนจะต้องผ่านการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระและผ่านเข้าเครื่องสแกน เพื่อถ่ายรูปหน้าเครื่องสแกน เสร็จแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบเรื่องการแต่งกายให้มีความพร้อมตามระเบียบสำนักพระราชวัง สำหรับสุภาพสตรีที่ไม่ได้สวมกระโปรงผ้าหรือผ้าถุงมา จะต้องเปลี่ยนผ้าถุงที่จุดมีบริการให้ยืมผ้าถุงสำหรับสุภาพสตรี ที่บริเวณอุโมงค์หน้าพระลาน ทางออก 2 โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1.ผู้รับบริการยื่นบัตรประชาชน/ พาสปอร์ต ในการลงทะเบียน ณ จุดยืมผ้าถุง อุโมงค์หน้าพระลาน 2.เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนและส่งคืนบัตรประชาชน/พาสปอร์ต ให้ผู้รับบริการ 3.ผู้รับบริการคืนผ้าถุง ณ จุดคืนผ้าถุง บริเวณทางออกประตูเทวาภิรมย์เจ้าหน้าที่ได้ทยอยปล่อยแถวประชาชนทีละ 30 คน ให้เดินเข้าพระบรมมหาราชวังที่ประตูมณีนพรัตน์ แล้วเลี้ยวซ้าย เดินเลียบกำแพงวัดพระศรีรัตน ศาสดาราม ผ่านห้องจำหน่ายบัตรเข้าชมพระบรม มหาราชวัง เข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เลี้ยวซ้ายไปตามระเบียงคด ฝั่งทิศใต้ ออกประตูพระศรีรัตนศาสดา เดินผ่านหมู่พระมหามณเฑียร พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท มุ่งหน้าเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้านกำแพงฝั่งทิศตะวันออก ขึ้นกราบถวายบังคมพระบรมศพ ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เสร็จแล้ว เมื่อลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เดินออกทางกำแพงแก้วฝั่งทิศตะวันตก เดินออกประตูเทวาภิรมย์ กระทั่งเวลา 15.30 น. จนถึงเวลา 21.00 น. สำนักพระราชวังได้มีการเปลี่ยนเส้นทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยเมื่อแถวประชาชนเดินเข้าประตูมณีนพรัตน์ จะให้เดินเลี้ยวขวา ผ่านแผนกแพทย์หลวง เลี้ยวซ้ายแยกกองรักษาการณ์วิเศษไชยศรี เข้าถนนจักรีจรัล ผ่านประตูพิมานไชยศรี เลี้ยวขวาหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ด้านกำแพงฝั่งทิศตะวันออก ขึ้นกราบพระบรมศพตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เสร็จแล้ว เมื่อลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เดินออกทางกำแพงแก้วฝั่งทิศตะวันตก ไปออกประตูเทวาภิรมย์ทั้งนี้ บรรยากาศการถวายสักการะพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตลอดทั้งวัน เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและอาลัย ประชาชนทุกเพศทุกวัยต่างขึ้นกราบ ถวายบังคมพระบรมศพด้วยความจงรักภักดี บางรายถึงกับร่ำไห้ไม่หยุดขณะขึ้นกราบพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้มีประชาชนผู้สูงอายุ อย่างน้อย 5 ราย เป็นลมและมีโรคประจำตัวกำเริบระหว่างรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ โดยมีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจท่องเที่ยว ทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่จิตอาสา คอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนตลอดเส้นทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระโกศ รวมทั้งได้จัดรถชัตเติลบัสให้บริการส่งกลับไปที่สนามหลวงน.ส.เรืองศรี บุญมี อายุ 46 ปี ที่มาพร้อมมารดา วัย 84 ปี จาก จ.พังงา กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า มากับครอบครัวรวม 7 คน มาต่อแถวเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่เวลา 03.30 น. ทันทีที่ขึ้นบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้กราบถวายบังคมรู้สึกตื้นตันใจและน้ำตาไหล โชคดีที่มีโอกาสได้มา คุณแม่ตั้งใจมากราบ แม้ป่วยด้วยโรคหัวใจ นั่งรถเข็นก็ไม่ย่อท้อ พสกนิกรชาวไทยรักสมเด็จพระพันปีหลวงมาก มีประชาชนจำนวนมากสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ตนซาบซึ้งพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์ ช่วยให้พสกนิกรไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี คุณแม่เคยเฝ้าฯรับเสด็จสมเด็จพระพันปีหลวง ที่เกาะพะงัน เล่าว่าพระองค์เสด็จฯพร้อมพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ประทับใจมาก ทรงพระเมตตา เยี่ยมเยียนราษฎรทั่วไทย จึงตั้งใจมากราบถวายบังคมพระบรมศพวันเดียวกัน คณะภาคีอัศวินนักบุญสตานิสลาส จากสาธารณรัฐออสเตรีย นำโดย บารอน อเล็กซานเดอร์ กราฟ เดอ แพงโซวา ได้เดินทางมาถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง หน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมมอบพระราชสาส์นจากเจ้าชายซานดอร์ ฮับส์บวร์ก-โลธริงเงน ผู้สืบเชื้อสายแห่งราชวงศ์ฮับส์บวร์ก เหลนในสมเด็จจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟ แห่งออสเตรีย แสดงความเสียพระราชหฤทัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ให้กับสำนักพระราชวัง เพื่อทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบารอน อเล็กซานเดอร์ กราฟ เดอ แพงโซวา กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามากราบพระบรมศพ สมเด็จพระพันปีหลวง เนื่องจากไทยและออสเตรียมีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แน่นแฟ้น ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสออสเตรีย 2 ครั้ง ทรงมีไมตรีกับกษัตริย์ฟรันซ์ โยเซฟ อีกทั้งในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จฯออสเตรีย 2 ครั้ง ตนและชาวออสเตรียมีโอกาสเฝ้าฯรับเสด็จ และให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ยังเป็นภาพในความทรงจำ หลังสวรรคตรู้สึกเสียใจ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวงเป็นที่รับรู้ทั่วโลก ทรงงานหนักเพื่อพัฒนาประเทศชาติ และช่วยเหลือชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตนมาเป็นตัวแทนชาวออสเตรียแสดงความอาลัยและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น.ที่ท้องสนามหลวง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาตรวจเยี่ยมการให้การบริการประชาชนในโอกาสที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันแรก โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายก รัฐมนตรี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับภายหลังการตรวจเยี่ยม นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมการทำงานของกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานต่างๆที่ดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนจากทั่วประเทศที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เป็นอย่างดีมาก พร้อมยืนยันจะดูแล ให้ประชาชนในจังหวัดห่างไกลสามารถเดินทางมากราบ ถวายบังคมพระบรมศพด้วยความจงรักภักดีได้ทั่วถึงทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวน้ำตาคลอว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของความจงรักภักดี ทุกคนทำด้วยใจ เมื่อทำด้วยใจแล้วผลงานต่างๆ ประสิทธิภาพ และผลลัพธ์ต่างๆก็จะออกมาเป็นสิ่งที่สวยงาม ตนไปเจอประชาชนทั่วประเทศ เราต้องเข้าถึงและถวายบังคมพระบรมศพครบทุกคน ถือว่าเป็นเป้าหมายที่ต้องทำให้เกิดความสำเร็จสูงสุดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่