บทที่ 47 ในหนังสือ คารมคมปัญญา (สุขภาพใจพิมพ์ ม.ค. 2568) ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม ตั้งชื่อยอมหักไม่ยอมงอครับ ย้ำความซื่อตรงมั่นคงของต่งเซวียน นายอำเภอลั่วหยาง สมัยฮ่องเต้ ราชวงศ์ซ่งเหนือคดีฆ่าคนตายกลางวันแสกๆในเมืองลั่วหยาง นายอำเภอต่งเซวียน มีประจักษ์พยานหลายคนชี้ว่า ผู้ต้องหา เป็นคนรับใช้ใกล้ชิดองค์หญิงหูหยาง พระพี่นางของฮ่องเต้...แม้หลักฐานชัดแจ้ง แต่นายอำเภอก็เจอตอใหญ่ จับคนร้ายไม่ได้ เพราะผู้ต้องหาหนีไปหลบอยู่ในวังองค์หญิง เขตต้องห้ามราชสำนัก แต่กระนั้นนายอำเภอก็ยังใช้ความพยายามแล้วก็ถึงวันนั้น นายอำเภอต่งเซวียนรู้ข่าวองค์หญิงเสด็จออกนอกวัง โดยให้ผู้ต้องหานั่งในรถม้า...จึงนำกำลังไปเฝ้ารอระหว่างทางไปประตูเมืองทิศตะวันตกฉากต่อไปนี้ไม่ใช่จะเกิดจะมีได้ง่าย...ในยุคฮ่องเต้...ต่งเซวียน ประกาศเสียงดังให้รถม้าหยุด แต่รถม้าองค์หญิงไม่กระทั่งจะชะลอความเร็ว นายอำเภอวิ่งเข้าไปกระชากบังเหียนจากมือคนขับ...จนรถม้าหยุดต่งเซวียนชักดาบออกกวาดไปลงบนพื้น ประกาศข้อหาทีละข้อๆ แล้วบังคับผู้ต้องหาลงมาจากรถ จากนั้นก็สำเร็จโทษด้วยการประหาร ต่อหน้าพระพักตร์องค์หญิงองค์หญิงหูหยางทรงห้ามอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงรีบเสด็จกลับวังฟ้ององค์ฮ่องเต้ต่งเซวียนถูกสั่งให้เข้าเฝ้าฮ่องเต้หลิวซิ่วทรงกริ้วมาก สั่งให้ทหารลงโทษนายอำเภอ โบยตีเรื่อยไปจนกว่าจะขาดใจตายนายอำเภอคุกเข่าคำนับ ศีรษะจรดกับพื้น “ผู้น้อยขออนุญาตทูลถ้อยคำบางประการก่อนตาย...”สิ้นเสียงฮ่องเต้อนุญาต...นายอำเภอก็เอ่ยวาจา“ฝ่าบาทรงใช้พระปรีชาและคุณธรรมกอบกู้ฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น แต่กลับปล่อยให้คนรับใช้เที่ยวฆ่าประชาชนตามอำเภอใจ จะปกครองบ้านเมืองต่อไปได้อย่างไร ผู้น้อยขอไม่รอถูกลงทัณฑ์ แต่จะขอฆ่าตัวตายเอง”สิ้นเสียงต่งเซวียนก็พุ่งศีรษะเข้าชนเสาท้องพระโรง โลหิตสดๆ ไหลเป็นสายอาบหน้าและเสื้อผ้าฮ่องเต้สั่งขันทีเข้าไปประคอง ทรงหว่านล้อมให้ต่งเซวียนกราบขอขมาองค์หญิง แต่นายอำเภอก็ยืนกราน...ฮ่องเต้ขัดพระทัย สั่งให้ทหารจับต่งเซวียนกดหัวลงกับพื้นสถานการณ์นี้ องค์หญิงหูหยางอดรนทนไม่ไหว...ตัดพ้อฮ่องเต้“เมื่อครั้งที่ท่านยังเป็นสามัญชน ข้าจำได้ว่า ท่านเคยให้นักโทษซ่อนตัวอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ทางการต่างไม่กล้าเข้ามาจับ บัดนี้ท่านเป็นถึงโอรสสวรรค์ แต่กลับไม่มีอำนาจที่จะจัดการกับนายอำเภอคนเดียว?”ฮ่องเต้หลิวซิ่วแย้มสรวล “เป็นฮ่องเต้กับสามัญชน ย่อมแตกต่างกัน”ถึงฉากนี้จึงควรรู้ที่มา...ก่อนถึงยุคฮ่องเต้หลิวซิ่ว ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เพิ่งพังทลายเพราะความเหลวแหลกในราชสำนัก จนถูกหวางหม่าง นักบุญจอมปลอมยึดอำนาจ แต่เมื่อประชาชนไม่ยอมรับ หลิวซิ่วจึงยึดอำนาจมาได้จากนั้นก็ถึงฉากที่ขุนนางในท้องพระโรง...คาดไม่ถึง ฮ่องเต้ประกาศเสียงดัง“เจ้านายอำเภอหัวแข็งกลับไปได้แล้ว” ต่งเซวียนไม่ได้กลับมือเปล่า ฮ่องเต้ประทานเงินสามแสนตำลึงให้ต่งเซวียนรับเงินแต่ไม่ได้เก็บไว้ใช้คนเดียว เขาแจกจ่ายให้ลูกน้องทุกคน นับแต่วันนั้นนายอำเภอลั่วหยางก็สามารถกำราบพวกเส้นใหญ่ ที่ใช้อิทธิพลหาเงินจากธุรกิจสีเทา...จนร่ำรวย ราบคาบไปทั้งเมืองเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม เรียบเรียงจากบันทึกประวัติศาสตร์จือจื้อทรงเจี้ยน ยุคราชวงศ์ซ่งเหนือครับ...สำหรับผม เป็นความรู้ใหม่...จีนมีฮ่องเต้ตงฉินที่ซื่อตรงคงมั่น หากไม่ใช่เช่นนั้น นายอำเภอตงฉินอย่างต่งเซวียน...คงหัวขาดไปทันทีตั้งแต่พระพี่นางฟ้องผมขอย้ำให้ช่วยกันจำ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในจีนเมื่อกว่าหกร้อยปีที่แล้ว.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม