สุดหดหู่ เด็กหญิงไทยวัย 12 ปี ถูกแม่แท้ๆ พาไปขายร้านนวดบังคับค้ากามที่ญี่ปุ่น ต้องทนทุกข์ทรมานนานกว่า 1 เดือน ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ตม.ด้วยตัวเอง ทางการญี่ปุ่นประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสอบสวนเด็กก่อนบุกทลายร้านนวดกามนรกกลางกรุงโตเกียว จับกุมผู้ดูแลร้านดำเนินคดี ตรวจสอบข้อมูลแม่พาลูกสาวมาถึงญี่ปุ่นไปส่งร้านนวดทันทีก่อนจะทิ้งไปในวันรุ่งขึ้น กลับมาเยี่ยมลูกแค่ครั้งเดียวแล้วเผ่นหนีออกจากประเทศ ช่วงเวลา 33 วันต้องรับลูกค้าถึง 60 คน ทำรายได้ให้ร้านกว่า 1.3 แสนบาท หลังหักส่วนแบ่งแล้วถูกโอนกลับไปให้แม่เด็กเรื่องราวน่าสลดหดหู่ของเด็กหญิงชาวไทยถูกแม่แท้ๆส่งไปค้ากามในร้านนวดที่ญี่ปุ่นจนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวข้ามประเทศรายนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 พ.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมนายมาซายูกิ โฮโซโนะ อายุ 51 ปี ผู้ดูแลร้านนวดส่วนตัว ในเขตบุงเคียว กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ฐานละเมิดกฎหมายแรงงาน โดยบังคับให้เด็กหญิงชาวไทยอายุเพียง 12 ปี ทำงานในร้านนวดชื่อ Relax Time ให้บริการทางเพศแก่ลูกค้าระหว่างวันที่ 27 มิ.ย.-29 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ชาวต่างชาติอายุน้อยที่สุดในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการช่วยเหลือ ขณะที่ตำรวจยังสงสัยว่าคดีนี้อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์แสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก และกำลังสืบสวนถึงความเกี่ยวข้องของกลุ่มนายหน้าค้ามนุษย์ตำรวจญี่ปุ่นเผยว่า จากการสอบสวนเด็กหญิงชาวไทยรายนี้เดินทางเข้าญี่ปุ่นพร้อมกับมารดาในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ด้วยวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้น 15 วัน เมื่อมาถึงญี่ปุ่น ทั้งสองได้เดินทางไปยังร้านนวดดังกล่าวทันที ก่อนที่มารดาจะหายตัวไปในวันถัดมา ทิ้งให้ลูกสาวอยู่ตามลำพัง เด็กหญิงต้องอาศัยอยู่ในห้องครัวของร้านนวดและถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศแก่ลูกค้าหลายครั้ง โดยไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ขณะที่ผู้เป็นมารดาเคยไปพบกับลูกสาว 1 ครั้ง และต่อมาได้รับการยืนยันว่าเดินทางออกจากญี่ปุ่นเพียงคนเดียวในวันที่ 11 ก.ค.เจ้าหน้าที่สืบสวนไม่เปิดเผยนามระบุว่า เด็กหญิงเคยบอกกับชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ด้วยกันว่าอยากกลับประเทศไทย แต่คนรอบข้างกลับไม่สนับสนุน อ้างว่าอาจถูกจับกุมได้ เนื่องจากพำนักเกินกำหนด 15 วัน แต่เด็กหญิงไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และเริ่มคิดได้ว่าแม่คงไม่กลับมารับ ตัดสินใจเดินทางไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเขตมินาโตะ กรุงโตเกียว ในเดือน ก.ย. เพื่อขอความช่วยเหลือ และบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าอยากกลับประเทศไทยไปเรียนหนังสือ เจ้าหน้าที่รีบแจ้งตำรวจทันทีและจัดหาเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาไทยได้มาช่วยในการสอบสวน เด็กหญิงถูกควบคุมตัวในฐานะเหยื่อค้ามนุษย์ มีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สถานทูตไทย องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) และหน่วยงานอื่นๆ กำลังร่วมมือกันเพื่อจัดการกับคดีนี้ด้าน นสพ.อาซาฮี ชิมบุน ของญี่ปุ่น รายงานว่า การสอบสวนเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่พบว่ามีหญิงไทยหลายคนทำงานในร้านนวดดังกล่าวและให้บริการทางเพศเช่นกัน ขณะที่เด็กหญิงคนดังกล่าวถูกบังคับให้บริการทางเพศแก่ลูกค้าประมาณ 60 คน ภายในเวลา 33 วัน ทำรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 627,000 เยน หรือราว 132,025 บาท เงินทั้งหมดตกเป็นของเจ้าของร้าน และหลังจากหักส่วนแบ่งของร้านแล้วส่วนที่เหลือจะถูกโอนไปยังบัญชีในชื่อของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแม่ของเด็ก นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบว่าเด็กหญิงได้ออกจากร้านนี้ไปในเดือน ส.ค. และย้ายไปทำงานให้บริการทางเพศในร้านแห่งหนึ่งนอกกรุงโตเกียวที่แม่เป็นคนแนะนำให้เด็กหญิงยังให้ข้อมูลตำรวจด้วยว่าอาศัยอยู่กับพี่สาวและปู่ย่าตายายในประเทศไทย กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยมต้นของรัฐ ส่วนแม่ทำงานเป็นแรงงานข้ามชาติให้บริการทางเพศ แม่บอกว่าจะไปทำงานที่ญี่ปุ่นและได้พาตนมาด้วยในวันที่ 27 มิ.ย.ก่อนถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่