ไทยรัฐกรุ๊ปจัดงาน “Thairath Forum 2025 : The Next New Economy” ระดมสมองผู้นำเศรษฐกิจ-ธุรกิจชั้นนำ ถอดรหัสอนาคตเศรษฐกิจไทยในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกและมนุษย์อายุยืนยาว “เอกนิติ” เปิดมุมมองเครื่องยนต์ใหม่ของไทย เร่งสร้างฐานเศรษฐกิจระยะยาว ลงทุนในคน เทคโนโลยี พลังงานสีเขียว เดินหน้าเศรษฐกิจยุคใหม่อย่างยั่งยืน เสวนา “Deep Tech Economy” และ “Longevity Economy” ชี้โอกาสพลิกเกมธุรกิจ-นวัตกรรมสุขภาพ สู่เวทีเศรษฐกิจโลกใบใหม่ของไทยที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 27 ต.ค. ไทยรัฐกรุ๊ปจัดงาน “Thairath Forum 2025” ภายใต้แนวคิด “The Next New Economy” เพื่อร่วมค้นหาโอกาสใหม่ที่จะพลิกโฉม เศรษฐกิจมหภาคและนิยามการทำธุรกิจใหม่ในยุคที่เทคโนโลยีระดับพลิกชีวิตและมนุษย์อยู่ยืนยาวกว่าที่เคย มีผู้สนับสนุนจัดงาน ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟ เวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยก่อนเริ่มงานผู้ร่วมงานได้ยืนแสดงความอาลัยเป็นเวลา 1 นาทีการจัดงานในครั้งนี้มีผู้ร่วมงานอย่างคับคั่งทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวง การคลัง นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส นายซิกเว่ เบรกเก้ นายมนัส มานะวุฒิเวช ผู้บริหารจากกลุ่มทรู นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ โดยมีผู้บริหารไทยรัฐกรุ๊ป รอต้อนรับการสัมมนาเริ่มต้นด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถา ในหัวข้อ “มีจริงไหม? เครื่องยนต์ตัวใหม่ของไทย” ว่า เครื่องยนต์ตัวใหม่ของไทยมีกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้านที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการเพื่อสร้างฐานรากเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) แทนการกระตุ้นระยะสั้น กลยุทธ์เหล่านี้มุ่งเน้นที่การลงทุนเพื่ออนาคต การพัฒนา ทักษะบุคลากร และการแก้ไขปัญหาคอขวดของการ ลงทุนขนาดใหญ่ที่ค้างอยู่ ทั้งนี้ กลยุทธ์ลงทุนในคนจะใช้กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 10,000 ล้านบาท ทำการพัฒนาทักษะใหม่ของคนไทยตามความต้องการของผู้ประกอบการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับทักษะแรงงานระดับสูง โดยบีโอไอจะร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.) และมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างมาตรฐาน และใช้ รูปแบบจ้างมาเรียนเลย เพื่อให้ได้บุคลากรตรงตามความต้องการของภาคเอกชนที่ต้องกำหนดมาตรฐานเอง มีอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ Health Care หรือการอบรมบุคลากรทางการแพทย์ ดิจิทัล และ AI เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล และอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่าน สู่ไฮบริด/อีวี การลงทุนพลังงานสะอาด พลังงานสีเขียว นอกจากนั้นรัฐบาลเตรียมขออนุมัติ ครม. เพื่อให้โครงการที่ถือ Fast Pass ได้รับการอนุมัติทุกอย่างภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยจะใช้ พ.ร.บ. อำนวยความสะดวก มาเป็นกลไกในการเร่งรัด ซึ่งเป้าหมายคือการสร้างฐานรากที่มั่นคงเพื่อให้ประเทศเข้าสู่ New Economy อย่างยั่งยืนในงานเดียวกันนี้ยังมีวงเสวนาอีก 2 วง โดยการ เสวนาชุดแรกว่าด้วย “Deep Tech Economy” เทคโนโลยีขั้นลึกที่เป็นแรงขับเคลื่อนธุรกิจแห่งอนาคต เปิดประเด็นถึงบทบาทของเทคโนโลยีล้ำลึก (Deep Technology) ทั้ง AI, Automation, IoT และ Big Data ในการยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจไทย และการสร้าง “New S-Curve” ใหม่ให้ประเทศ มีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นางจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA Group) นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ ศ.ดร. ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) โดยวิทยากรทั้งสาม ได้สะท้อนมุมมองว่า Deep Tech จะไม่เพียงเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการ Reset เศรษฐกิจไทยให้พร้อมแข่งขันในตลาดโลกขณะที่เวทีเสวนาถัดมาได้ชูประเด็น “เศรษฐกิจแห่งการมีอายุยืนยาว” หรือ Longevity Economy ที่กำลังเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญของโลกยุคใหม่ โดยมุ่งสำรวจแนวโน้มธุรกิจเพื่อสังคมสูงวัยของไทย ทั้งด้านสุขภาพ การแพทย์ และบริการ มีผู้ร่วมเสวนา ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) โดยการเสวนาครอบคลุม 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.เศรษฐกิจใหม่ของไทยและโอกาสในยุคสังคมสูงวัย 2.วิกฤติหรือโอกาสของประเทศในการสร้าง Longevity Economy 3.ศูนย์กลางอุตสาหกรรมเชิงสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และ 4.แนวทางการปรับตัวของภาคธุรกิจสู่เศรษฐกิจผู้สูงอายุอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่