ชาวบางระกำยังจมทุกข์ น้ำท่วมขังยาวกว่า 1 เดือน ทีมกู้ภัยร่วมกับภาคเอกชนขนถุงยังชีพลงเรือเข้าไปแจกจ่ายผู้ประสบภัย ผู้เฒ่าผู้แก่ถึงกับน้ำตาคลอด้วยความดีใจเป็นความช่วยเหลือแรกในรอบหลายสัปดาห์ ลุ่มเจ้าพระยาระดับน้ำลดต่อเนื่อง ชัยนาทระดมสูบน้ำเน่าออกจากพื้นที่ เชื่อสำเร็จภายใน 10 วัน สิงห์บุรีเอาไม่อยู่อุดพนังรั่วไม่สำเร็จ น้ำกัดเซาะโพรงขยายวงกว้างทะลักเข้าชุมชน ระดมเติมถุงบิ๊กแบ็กแนวเสาเข็มถมดินหนุนลดแรงดันน้ำ เมืองกรุงเก่าน้ำลดเล็กน้อย เปิดประตูระบายน้ำกระจายลงทุ่งบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน อุตุฯเตือนทุกภาคทั่วไทยฝนเทต่อเนื่องทั้งสัปดาห์ชาวบ้านหลายพื้นที่ยังทนทุกข์ทรมานกับสถานการณ์น้ำท่วมขังที่ยังไม่คลี่คลาย เมื่อวันที่ 12 ต.ค. จ.พิษณุโลก หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน ร่วมกับภาคเอกชน “บิวตี้คอสเมต” และเครือข่ายอาสาสมัครลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในโครงการบางระกำโมเดล ที่บ้านกรุงกรัก ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ ชาวบ้านยังต้องทนทุกข์เผชิญภาวะน้ำท่วมขังยาวนานกว่า 1 เดือน ทีมกู้ภัยลงเรือท้องแบนลุยน้ำลึกเข้าไปกว่า 4 กม. เพื่อมอบถุงยังชีพกว่า 200 ชุดให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ หลายครัวเรือนยังมีผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง หนึ่งในนั้นเป็นบ้านของตายายที่อาศัยอยู่กันเพียงสองคน ตาป่วยแขนข้างหนึ่งหมดแรงจากอาการเส้นเลือดตีบ ส่วนยายเดินไม่ได้ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยถึงกับดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เพราะนี่คือความช่วยเหลือแรกในรอบหลายสัปดาห์สำหรับโครงการบางระกำโมเดล มีพื้นที่แก้มลิง 265,000 ไร่ หน่วงน้ำได้ 400 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันพื้นที่น้ำท่วมขัง 209,435 ไร่ (คิดเป็นร้อยละ 79.03) ปริมาตรน้ำในแก้มลิง 535.11 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็นร้อยละ 133.78) ระดับน้ำท่วมขังเฉลี่ย 1.60 เมตร ทำให้มีผลกระทบต่อถนนสายหลักที่เชื่อมหมู่บ้านต่างๆ ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจร สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา สถานีวัดน้ำ C2 อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,656 ลบ.ม./ วินาที ลดลงต่อเนื่อง เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระบายน้ำ 2,300 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนทรงตัว น้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ยังท่วมขังเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น ชาวบ้านยังคงนอนริมถนนกว่า 600 ครัวเรือนนางจิตร์ธนา ยิ่งทวีลาภา นายก อบจ.ชัยนาท นำคณะลงพื้นที่ ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา มอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ระดับน้ำลดลงบ้างในหลายจุด ยืนยันจะเร่งประสานการช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ด้านนางลัดดาวัลย์ ผาสุพันธ์ นอภ.สรรพยา เผยว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังสูงกว่าตลิ่ง ในพื้นที่ ต.โพนางดำออก ยังมีบางจุดที่น้ำไหลเข้าอยู่บ้าง มีประชาชนประสบภัย 1,266 ครัวเรือน ย้ายขึ้นมาอาศัยอยู่ริมถนนคันคลองมหาราช แม้ระดับน้ำลดลงแล้วแต่ไม่มาก ปัญหาขณะนี้คือน้ำไม่ระบายออก เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าเสีย แผนต่อไปคือการฟื้นฟู ระดมเครื่องสูบน้ำจาก ปภ.จังหวัดชัยนาท กรมชลประทาน และเอกชน คาดว่าจะสูบน้ำให้แล้วเสร็จภายใน 10 วันจ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังเร่งอุดรูรั่วใต้พนังกั้นน้ำเจ้าพระยา บริเวณหลังวัดพระนอน หมู่ 1 บ้านบางพระนอน ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี ที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะเป็นโพรงขนาดใหญ่ มีน้ำไหลทะลักเข้าสู่ชุมชนอย่างรวดเร็ว การปฏิบัติงานเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากน้ำกัดเซาะโพรงขยายวงกว้างขึ้นจนทำให้น้ำที่ไหลเข้ามากกว่าที่สูบออก ผลการอุดได้แค่ 80 เปอร์เซ็นต์จากเป้าที่วางไว้ นายเชนทร์ คนชาน ผญบ.หมู่ 1 เผยว่า เมื่อวันเกิดเหตุ 11 ต.ค.ที่น้ำทะลุเข้ามา ใช้ถุงบิ๊กแบ็กประมาณ 100 ใบหย่อนลงไปและตอกเสาเข็มยูคาลิปตัสตลอดแนว ทำให้น้ำลดความรุนแรงได้ระดับหนึ่ง ระดับน้ำลดลงไป 4-5 ซม. แต่มาเมื่อเช้านี้รูที่อุดไว้ถูกน้ำกัดเซาะขยายวงกว้างมากขึ้น ตอนนี้น้ำไหลเข้าหมู่บ้านมากขึ้นจนต้องมาวางแผนใหม่ เพิ่มถุงบิ๊กแบ็กและตอกเสาเข็มพร้อมทั้งถมดินด้านหลังแนวเสาเข็มให้สูงเพื่อลดแรงดันน้ำไว้อีกชั้น เพราะถ้าน้ำด้านในและด้านนอกเสมอกันแรงดันน้ำก็จะลดลงจ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองสาขาต่างๆหลายพื้นที่เริ่มลดลงต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณ 5-10 ซม. ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ 147 ตำบล 889 หมู่บ้าน 49,492 ครัวเรือน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่ 5 ต.ลาดชิด อ.ผักไห่ ติดกับคลองลาดชิดที่รับมวลน้ำจากแม่น้ำน้อย พบว่าในพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูงแม้จะลดลงบ้างเล็กน้อย ชาวบ้านเผยว่าถูกน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือน ระดับน้ำปัจจุบันลงลดเล็กน้อย ทรงตัว ความเป็นอยู่ยังคงยากลำบากในการเข้าออก ต้องใช้เรือเป็นพาหนะหลัก พื้นที่ถูกน้ำท่วมทุกปี อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาเนื่องจากท่วมนานและลงช้า 1 ปีต้องถูกน้ำท่วมและรอน้ำลดนานรวมกว่า 3-4 เดือน บางพื้นที่มากกว่านั้น ส่วนประตูระบายน้ำต่างๆในพื้นที่ เช่น ประตูระบายน้ำผักไห่-เจ้าเจ็ด ยังคงเปิดระบายมวลน้ำเข้าสู่ อ.เสนา ทุ่งเสนา เพื่อกระจายมวลน้ำลดความเดือดร้อนของประชาชนบ้างแล้วกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศช่วงวันที่ 12-13 และ 17-18 ต.ค. ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ตอนล่าง และอ่าวไทยตอนล่าง ส่วนในช่วงวันที่ 14-16 ต.ค. ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่