พิจิตรยังวิกฤติ แม่น้ำน่านซัด ถนนขาดสะบั้นกว่า 10 เมตร น้ำทะลักท่วมบ้าน นาข้าว สวนชะอม ไร้หนามเสียหายนับพันไร่ ขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยาลดลงต่อเนื่อง แต่น้ำยังสูง เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ตรึงระบายน้ำที่ 2,400 ลบ.ม./วินาที กระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนต้องขนของอพยพมากินนอนตลอดแนวถนนกว่า 5กม. ด้าน “นฤมล” นำทีมผู้บริหาร ศธ. ลงเรือท้องแบนลุยน้ำมอบสุขาลอยน้ำ สิิ่งของจำเป็นยามเกิดอุทกภัยฝีมือประดิษฐ์เด็กอาชีวะช่วยชาวเสนา เมืองกรุงเก่าสถานการณ์น้ำท่วมวันที่ 8 ต.ค. นายกิติพล เวชกุล รอง ผวจ.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนเลียบแม่น้ำน่าน หมู่ 6 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน ที่ถูกกระแสน้ำเซาะถนนขาดยาวกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรทั้งนาข้าวและสวนผัก โดยเฉพาะสวนชะอมไร้หนาม พืชเศรษฐกิจขึ้นชื่อของหมู่บ้านที่ส่งขายไปทั่วประเทศจมน้ำเสียหายนับพันไร่ ขณะที่บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง น้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม.ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของหนีน้ำพร้อมทั้งอพยพผู้ป่วยติดเตียง 3 คน หนีน้ำออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิจิตรร่วมกับ อบจ.พิจิตร ส่งหน่วยช่างไปวางแผนปิดช่องถนนขาด ใช้รถแบ็กโฮปักเสาเข็มเรียงบิ๊กแบ็กกั้นน้ำและถมซ่อมถนนปิดทางน้ำส่วนสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ ล่าสุดระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,748 ลบ.ม./วินาที ส่วนสถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 15.90 เมตร/รทก. ปริมาณน้ำลดลงเช่นกัน ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำในอัตรา 2,400 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวอยู่ที่ 15.70 เมตร/รทก. ห่างจากตลิ่ง 64 ซม. ขณะที่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบน้ำท่วมบ้าน ต้องทิ้งบ้านมานอนริมถนนคันคลองมหาราช ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ตลอดแนวถนนกว่า 5 กม.นายมงคล เหมือนแสง อายุ 57 ปี ชาวบ้าน ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้คันดินบริเวณวัดสมอเกิดสไลด์พังลง ทำให้มวลน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่อย่างหนัก เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโพนางดำออกได้วางแนวกระสอบทรายถมคันดินกันทั้งวันทั้งคืน แต่ด้วยปริมาณน้ำมากและไหลแรง ทำให้คันดินเอาไม่อยู่ ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของ รถ จยย. รถยนต์ สัตว์เลี้ยง วัว ควาย ไก่ชน และไก่ไข่ไปไว้บนรถกระบะ ทุกคนต้องใช้ชีวิตกินนอนริมถนนมากว่า 4 วันแล้ว ตอนนี้แม้ว่าสถานการณ์น้ำจะลดลงบ้าง แต่เขื่อนยังปล่อยน้ำในปริมาณมาก ชาวบ้านก็ต้องอยู่แบบนี้ไปก่อน เพราะถือเป็นภัยธรรมชาติจ.อ่างทอง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงน้ำท่วม มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย ต.โผงเผง อ.ป่าโมก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า กำชับตำรวจช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างเต็มที่และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงตรวจตราบ้านเรือนที่ไม่มีใครอยู่ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพก่อเหตุซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวบ้านที่วัดโบสถ์ บ้านกระทุ่ม เขตเทศบาลตำบลหัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายองอาจ วงษ์ประยูร รมช.ศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และนายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดกิจกรรม “Fix it-จิตอาสา ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” พร้อมรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของผู้บริหารโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครองในพื้นที่จากนั้นคณะของ รมว.ศึกษาธิการ นั่งเรือท้องแบนลุยน้ำไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชน ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพ สุขาลอยน้ำ เรือไฟเบอร์ อาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย นางนฤมลกล่าวว่า รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีทราบดีว่าหลายพื้นที่ของ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นอีกพื้นที่ที่มีความเสียสละ อยู่นอกผนังกั้นน้ำ และเป็นพื้นที่รับน้ำ เพื่อให้น้ำระบายได้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้คณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพิจารณาเรื่องการเยียวยาประชาชน เตรียมจัดงบประมาณเยียวยาบ้านที่ถูกน้ำท่วม 9,000 บาทต่อครัวเรือน ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว รัฐบาลเตรียมจัดงบประมาณและหาสถานที่ เพื่อสร้างแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่รับน้ำ อาจจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการ“ขอขอบคุณชาวอาชีวะที่จัดกิจกรรม Fix It จิตอาสาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง วันนี้มาเปิดหน่วยบริการช่วยเหลือประชาชน มอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อบรรเทาทุกข์ ที่สำคัญเด็กอาชีวะได้จัดทำสุขาลอยน้ำ 25 หลัง มอบให้ประชาชน เพราะถือเป็นความจำเป็นในการดำรงชีวิตในสถานการณ์เช่นนี้ ที่ผ่านมาอาชีวะอยุธยาได้เผื่อแผ่แบ่งปันสุขาลอยน้ำไปพื้นที่อื่นๆด้วย” รมว.ศึกษาธิการกล่าวด้านนายองอาจ วงษ์ประยูร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า สุขาลอยน้ำเป็นสิ่งที่ถูกเรียกร้องมากที่สุด เพราะเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ ตอนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ตนลงพื้นที่เห็นเลยว่าของที่จำเป็นที่สุดไม่ใช่แค่ถุงยังชีพ แต่คือสุขาลอยน้ำที่ช่วยให้ชาวบ้านใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้นำองค์ความรู้ทางวิชาชีพมาช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยได้จริง ไม่ว่าจะเป็นซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า สร้างสุขาลอยน้ำ หรือประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ช่วยเหลือชุมชนในภาวะน้ำหลาก อาชีวะของเราคือพระเอกตัวจริงที่สร้างผลงานให้กระทรวงศึกษาธิการอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่