วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่องการแก้ปัญหา “บัญชีม้า” กันอีกสักวันนะครับ การแก้ปัญหาบัญชีม้าดำ ม้าเทา ม้าน้ำตาล ด้วยการอายัดบัญชีธนาคารผู้ต้องสงสัย ทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อนมากมาย ต้องไปขอปลดอายัดจากธนาคารหลายขั้นตอน พ่อค้าแม่ค้ารายย่อยเลยหันกลับมารับเงินสดแทนการโอนเงินเข้าบัญชีเรื่อง การหลอกลวงออนไลน์ให้โอนเงินจนหมดบัญชี ไม่ได้มีแต่เมืองไทย สิงคโปร์ ประเทศที่เจริญกว่าไทยเยอะก็เจอปัญหาการหลอกลวงออนไลน์เช่นเดียวกันวันพุธที่ 17 กันยายนนี้เอง ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) สำนักงานตำรวจสิงคโปร์ สำนักงานพัฒนาสื่อสารและสารสนเทศ (IMDA) และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีรัฐบาล (Gov Tect) ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ประกาศมาตรการใหม่ในการจัดการกับแก๊งหลอกลวงออนไลน์ เรียกว่า “Facility Restriction Framework” โดยจะเริ่มใช้อย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ภายใต้กรอบจำกัดใหม่นี้ บุคคลที่ถูกระบุว่าเป็น Scam Mules หรือผู้ที่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนช่วยเหลือการหลอกลวง “อาจถูกจำกัดสิทธิหลายอย่าง เช่น จำกัดสิทธิการเข้าถึงบริการทางการเงิน จำกัดการ สมัครเบอร์โทรศัพท์มือถือใหม่” รวมถึง “การใช้งาน Singpass ระบบ ยืนยันตัวตนดิจิทัลของสิงคโปร์” สำหรับบริการที่มีความเสี่ยงสูงมาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของสิงคโปร์ ดูแล้วเข้มข้นกว่าไทยเยอะ ทำให้มาตรการอายัดบัญชีแบงก์ของไทยดูอ่อนไปเลย หากไม่เข้มงวด อีกหน่อยประเทศไทยก็จะกลายเป็นพื้นที่อำนวยความสะดวก สำหรับเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่างที่ คุณปิติ ตัณฑเกษม ซีอีโอธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ได้โพสต์ไว้ไม่เพียงสิงคโปร์เท่านั้นที่กำลังเข้มงวดปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์ สหภาพยุโรป ก็ได้อนุมัติมาตรการ “จำกัดการใช้เงินสด” เพื่อแก้ปัญหาการฟอกเงิน และเพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรมทางการเงิน มาตรการนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสหภาพยุโรปแล้ว แต่ยังต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐสภายุโรป และการอนุมัติจากผู้นำประเทศของชาติสมาชิกในสหภาพยุโรปด้วย จึงจะมีผลบังคับใช้ คาดว่าจะสามารถประกาศใช้มาตรการนี้ได้ตั้งแต่ปลายปี 2027 เป็นต้นไป มาตรการนี้จะครอบคลุมไปถึง การตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายด้วยเงินดิจิทัล Cryptocurrency การใช้เงินสดซื้อสินค้าหรู การใช้จ่ายเงินในอุตสาหกรรมฟุตบอล ซึ่ง การใช้จ่ายของสโมสรฟุตบอลเป็นช่องทางหนึ่งที่ถูกใช้ในการฟอกเงิน เช่น การซื้อตัวนักฟุตบอลในราคาที่แพงเกินจริงสหภาพยุโรป ให้เหตุผลในการ “จำกัดการใช้เงินสด” ว่า จะช่วยลดความเสี่ยงจากการฟอกเงิน (Money Laundering) การหลีกเลี่ยงภาษี การสนับสนุนการก่อการร้าย และเพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรมทางการเงิน สำนักงานตำรวจสากลแห่งสหภาพยุโรป ประเมินว่า มีเงินราว 1% ของจีดีพียุโรป เกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์ กว่า 6.5 ล้านล้านบาท (จีดีพีอียูปี 2025 อยู่ที่ 19.99 ล้านล้านดอลลาร์) ที่ถูกตรวจพบว่ามีกิจกรรมการเงินที่น่าสงสัยมาตรการนี้ จะห้ามการซื้อขายด้วยเงินสดตั้งแต่ 10,000 ยูโรขึ้นไป หรือ ถ้ามีการซื้อขายตั้งแต่ 3,000 ยูโรขึ้นไป ผู้ซื้อต้องแสดงตัวตนด้วยบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต ผู้ขายต้องจัดเก็บข้อมูลของผู้ซื้อ ประเทศ “อิตาลี” มีการจำกัดการใช้เงินสดเข้มข้นกว่าสหภาพยุโรปเยอะ กฎหมายอิตาลีปัจจุบัน “จำกัดการชำระเงินสดได้ไม่เกิน 5,000 ยูโร” ถ้ามีการซื้อของตั้งแต่ 5,000 ยูโรขึ้นไป ผู้ขายรับเป็นเงินสดได้สูงสุด 4,999 ยูโรเท่านั้น จะแบ่งชำระเป็นสองครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนที่เกินให้ชำระด้วยบัตรเครดิตหรือเช็คเท่านั้น เพื่อป้องกันการฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้ายผมว่าเอามาตรการ “จำกัดการใช้เงินสด” มาใช้ในเมืองไทยก็ดีนะครับนักการเมืองไทย ทุนจีนเทา ที่ซื้อที่ดิน ซื้อนิคม ซื้อบ้านหรู คอนโดหรู รถหรู ด้วยเงินสด เพื่อฟอกเงินสกปรก จะได้ถูกกำจัดไปด้วย แต่โอกาสที่จะผ่านรัฐสภาไทยคงจะยาก ตลาดใหญ่เสียด้วย.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม