ดังที่ทราบกันแล้วว่า เมื่อวันพุธที่แล้ว (10 กันยายน) นี้เองได้เกิดเหตุสยองขวัญขึ้นที่สวนสัตว์เปิด “ซาฟารีเวิลด์” ย่านถนนปัญญา-รามอินทรา เมื่อฝูงสิงโตดุร้าย 5 ตัว บุกตะปบ “คนเลี้ยง” จนเละและเสียชีวิตต่อหน้าต่อตานักท่องเที่ยวจำนวนมากผมขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นพนักงานเลี้ยงสัตว์ของสวนสัตว์ที่อยู่กันมากว่า 30 ปี ชื่ออะไร? เสียชีวิตอย่างไร? รวมไปถึงบทบาทของผู้บริหารสวนสัตว์ว่าจะดูแลผู้เสียชีวิตอย่างไร? จะปิดปรับปรุงบางส่วนและออกกฎเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างไร? เพราะได้มีการนำเสนอรายละเอียดในสื่อมวลชนทุกแขนงไปอย่างครบถ้วนแล้ววันนี้อยากจะเขียนเป็นเชิง “กำชับ” ทางฝ่ายผู้บริหารสวนสัตว์ฯให้ปรับปรุงแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างตามข้อเสนอแนะต่างๆของฝ่ายราชการ โดยเฉพาะกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชอย่างเคร่งครัดและเข้มงวดอีกครั้งหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันก็จะถือโอกาสเขียนให้กำลังใจแก่ผู้บริหารสวนสัตว์แห่งนี้ควบคู่ไปด้วยผมเองโดยส่วนตัวได้เขียนถึง ซาฟารีเวิลด์ มาหลายครั้งนับตั้งแต่ คุณผิน คิ้วไพศาล หรือ คุณผิน คิ้วคชา ในปัจจุบันอดีตนักธุรกิจและนักลงทุนชื่อดังเมื่อ 40-50 ปีก่อน ได้ก่อสร้างสวนสัตว์เปิดแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 2531เขียนทั้งในแง่แนะนำว่าสวนสัตว์แห่งนี้มีอะไรบ้าง? น่าดูน่าชมแค่ไหน? คุ้มหรือไม่กับการที่จะต้องจ่ายค่าตัวแพงพอสมควรในการเข้าชมแต่ละครั้ง? ไปพร้อมๆกับบทบาทในการ “ดึงดูด” เงินตราจากนักท่องเที่ยวเข้าประเทศในฐานะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแหล่งหนึ่งที่ต่างประเทศให้ความสนใจในช่วงปี 2530 เศษๆเป็นช่วงที่ประเทศไทยเราเริ่มฟื้นตัว หลังจากรัฐบาลป๋าเปรม โดยคำแนะนำของ สภาพัฒน์ มาตั้งแต่หลังปล่อยเงินบาทลอยตัวจนค่าลดลงอย่างมหาศาล ในวันลอยกระทงปี 2527 โดยให้ใช้นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นนโยบายหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยนโยบายดังกล่าวส่งผลให้การลงทุนด้านการท่องเที่ยวเกิดขึ้นหลายๆโครงการ รวมทั้งโครงการ สวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์ ในชานกรุงเทพฯ และโครงการ ภูเก็ตแฟนตาซี ที่จังหวัดภูเก็ต โดย คุณผิน คิ้วคชา เป็นข่าวใหญ่ในยุคนั้นผลก็ปรากฏว่า ทั้ง ซาฟารีเวิลด์ และ ภูเก็ตแฟนตาซี ยังยืนหยัดผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้จนถึงวันนี้ 37-38 ปี เข้าไปแล้ว ในขณะที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ของคุณผินดูเหมือนจะล้มเลิกไปในยุคต้มยำกุ้ง พ.ศ.2540 นั่นเองนับเฉพาะ ซาฟารีเวิลด์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวถือเป็นจุดหมายปลายทางแหล่งหนึ่งเมื่อเดินทางมาไทย น่าจะดึงดูดเงินเข้าประเทศไทยเราแล้วจำนวนมากที่เหลือเชื่อและถือเป็น “มนต์เสน่ห์” ของ ซาฟารีเวิลด์ โดยเฉพาะก็คือ นักท่องเที่ยวอินเดีย ครับ มากันเสมอต้นเสมอปลายผมเคยตามหลานๆไปเที่ยว เก็บมาเขียนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ยังจำได้ว่า นักท่องเที่ยวอินเดียยังหนาแน่นเหมือนเดิม ช่วงระหว่างรอดูการแสดงโชว์บางรายการ จะมีการเปิดเพลงอินเดียให้นักท่องเที่ยวอินเดียเต้นส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนานวันนี้จึงอยากจะให้กำลังใจที่เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่ก็คงจะต้องรับผิดชอบและหาทางแก้ไขอย่าให้เกิดขึ้นอีก เพื่อความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ของผู้เข้าชมและพนักงานเลี้ยงสัตว์เองในอนาคต ดังที่ผมยํ้าไว้ตอนต้นขอให้ยืนหยัดเป็นเครื่องดูดเงินตราเข้าประเทศเครื่องสำคัญเครื่องหนึ่งของประเทศไปตราบนานแสนนาน โดยเฉพาะในปีนี้ ปีหน้า เรายังต้องอาศัยพลังของการท่องเที่ยว ซึ่ง ซาฟารีเวิลด์ และ ภูเก็ตแฟนตาซี มีส่วนอย่างสำคัญยิ่งรีบปรับปรุงระบบความปลอดภัย และทุกอย่างที่ซาฟารีเวิลด์ให้เข้าที่โดยเร็ว และรีบประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลก (โดยเฉพาะอินเดียต้องด่วนที่สุด) ขอให้โชคดีนะครับ.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม