ฝนถล่มชัยภูมิ น้ำป่าไหลท่วม 4 อำเภอ ถนนบ้านวัดจมบาดาล เกือบ 1 เมตร แฉต้นตอมาจากการสร้างถนน 4 เลนท่อน้ำเล็กขวางทางน้ำ ที่ครบุรี จ.นครราชสีมา อ่างเก็บน้ำแตกน้ำทะลักท่วมไร่อ้อย ซัดรถ จยย. 2 คัน ตกถนน คนขี่รอดหวุดหวิด ที่ตากดินภูเขาอุ้มน้ำฝนไม่ไหวสไลด์ทับเส้นทาง ชาวบางบาล เมืองกรุงเก่าเร่งขนของหนีน้ำไปไว้บนถนน อุตุฯจับตาอิทธิพลโซนร้อน “ตาปะฮ์” ทำมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงขึ้นฝนตกหนักเพิ่มสถานการณ์น้ำท่วมยังน่าห่วง เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ จ.ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้น้ำป่าไหลหลากท่วม 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองชัยภูมิ อ.บ้านเขว้า อ.แก้งคร้อ และ อ.เทพสถิต หนักที่สุดคือ อ.บ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นจากเทือกเขาป่าเขาวงไหลลงห้วยยางและห้วยบงน้อยเอ่อท่วมถนนสาย 201 บริเวณหน้าวัดบ้านโนนแดง ต.โนนแดง รถจมน้ำหลายคัน ถนนสาย 225 (ชัยภูมิ-นครสวรรค์) หน้าวัดบ้านหนองบ่อและหน้าวัดหนองไผ่ ต.โนนแดง น้ำไหลทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนและวัด บางจุดสูงเกือบ 1 เมตร พระสงฆ์ต้องหนีน้ำไปฉันอาหารบนที่สูง ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ตั้งตัวไม่ทัน เพราะน้ำมาตอนเช้ามืด ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและข้าวเปลือกจมน้ำเสียหายนายวรวุฒิ จิตจันทึก ส.อบจ.ชัยภูมิ เขต 2 เปิดเผยหลังลงพื้นที่ดูน้ำท่วมว่า สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำท่วมครั้งนี้มาจากกรมทางหลวงสร้างถนน 4 เลนตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า แต่ระบบการระบายน้ำมีปัญหา ท่อมีขนาดเล็กเกินไป เวลาฝนตกหนัก ถนนขวางทางน้ำ เพราะท่อระบายน้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างทั้ง 4 อำเภอจ.นครราชสีมา ฝนตกหนักใน อ.ครบุรี ตั้งแต่เย็น ตกดึกน้ำป่าไหลท่วมถนนบ้านโคกใบบัว-บ้านใหม่ชัยมงคล หมู่ 21 บ้านโคกใบบัว ต.โคกกระชาย ระยะทางกว่า 200 เมตรสูงกว่า 60 ซม.และไหลเชี่ยวกราก รถสัญจรไม่ได้ มีรถ จยย.ชาวบ้านพยายามฝ่ากระแสน้ำถูกซัดลอยไปตกถนน 2 คัน ส่วนคนขีี่รอดหวุดหวิด นายวรัตน์ ยุตกระโทก ผู้ใหญ่บ้านโคกใบบัว หมู่ 12 เผยว่า ฝนตกหนักหลายชั่วโมง เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาอย่างรวดเร็วช่วงประมาณตีสองเอ่อท่วมถนนสูงกว่าหัวเข่า รถสัญจรไม่ได้ส่วนที่บ้านซับก้านเหลือง หมู่ 4 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี น้ำป่าไหลหลากลงอ่างเก็บน้ำของหมู่บ้านจนเซาะคันอ่างด้านทิศตะวันออกพังทลายกว่า 20 เมตร น้ำในอ่างเกือบ 5 พันลูกบาศก์เมตรทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร ส่วนใหญ่เป็นไร่อ้อยของนายพนม ฉู่กระโทก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านซับก้านเหลือง มวลน้ำไหลหลากลงลำน้ำเดิมเอ่อท่วมบ้าน 2 หลัง ได้รับความเสียหาย หลังน้ำลดพบทรายทับถนนทางหลวงชนบทสายปอแดง-มูลบนหลายจุด โดยเฉพาะช่วง กม. ที่ 15-16 ดินทรายกองอยู่บนผิวถนนหนาเกือบ 60 ซม. นายอนันต์ สินครบุรี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลครบุรีใต้ นำเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเคลียร์ทรายออกจากผิวการจราจรให้รถสัญจรสะดวกและป้องกันอุบัติเหตุจ.ตาก ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ดินไหล่เขาอุ้มน้ำไม่ไหวสไลด์ลงมาทับถนนสาย 1090 (แม่สอด-อุ้มผาง) กม.ที่ 67-68 ใกล้บ้านอุ้มเปี่ยม อ.พบพระพื้นถนนทั้ง 2 เลนมีดินโคลนและเศษซากต้นไม้ไหลลงมาคลุมผิวจราจร การสัญจรลำบาก มีรถติดสะสมหลายคัน เจ้าหน้าทีี่่หมวดการทางอุ้มผางนำเครื่องจักรเข้าเคลียร์เส้นทาง เปิดให้รถวิ่งได้ 1 ช่องทาง พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้รถให้ใช้ทางด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากสภาพดินภูเขาช่วงนี้อิ่มน้ำพร้อมสไลด์ถล่มลงมาตลอดเวลาที่ จ.พิจิตร แม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งท่วมหลายหมู่บ้านใน ต.รังนก และ ต.สามง่าม อ.สามง่าม ขณะที่ลุ่มแม่น้ำน่านที่ไหลผ่าน อ.เมืองพิจิตร อ.ตะพานหิน และ อ.บางมูลนาก อยู่ในขั้นวิกฤติ บางจุดเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มริมน้ำ โดยเฉพาะชุมชนด้านหลังสถานีรถไฟพิจิตร อ.เมืองพิจิตร โครงการชลประทานพิจิตรปักธงแดงแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง เนื่องจากน้ำเหนือไหลลงมาและเพิ่มระดับอย่างต่อเนื่อง น.ส.ธนียา นัยพินิจ ผวจ.พิจิตร สั่งให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมด่วนจ.นครสวรรค์ ชาวบ้านหมู่ 13 ต.บางเคียน อ.ชุมแสง ได้รับผลกระทบจากคลองสาขาแม่น้ำยมที่ไหลมาจาก จ.พิจิตร ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชน ต้องย้ายเครื่องมือการเกษตรและรถไปไว้บนถนน ชาวบ้านหมู่ 13 ต.บางเคียน เผยว่า ในพื้นที่มีฝนตกหนักมาร่วมสัปดาห์ บ้านริมคลองถูกน้ำท่วมแล้วนับสิบหลังกว่า 50 ซม. ต้องใช้เรือเข้าออกบ้าน คาดว่าน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังมีน้ำจาก จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก และ จ.พิจิตรไหลมาสมทบอีกมาก ประกอบกับในพื้นที่ก็มีฝนตกทุกวันส่วนจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระเยา ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนที่ 1,554 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้พื้นที่นอกคันกั้นน้ำริมคลองโผงเผง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก เอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่ม เช่นเดียวกับแม่น้ำน้อยเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนนอกคันกั้นน้ำในพื้นที่ ต.บางจักร อ.วิเศษชัยชาญ ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.อ่างทอง ที่สถานีวัดน้ำ หน้าศาลากลางจังหวัด ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 6.67 เมตร จากระดับตลิ่ง 10 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,605 ลบ.ม./วินาทีจ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านหมู่ 7 ต.วัดตะกู อ.บางบาล เร่งขนย้ายรถ จยย. รถยนต์และเครื่องมือเกษตรไปไว้ในถนน หลังคลองบางหลวงที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้นเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในชุมชน นายสมศักดิ์ สิทธิกูล อายุ 74 ปี เผยว่า ตอนนี้น้ำขึ้นเรื่อยๆ บางจุดท่วมสูง ชาวบ้านต้องจัดหาเต็นท์มากางเป็นที่จอดรถและนอนเฝ้า เพราะหากปล่อยทิ้งกลัวขโมยจะมาลักไป ตอนนี้เดือดร้อนมาก บ้านถูกน้ำท่วม เต็นท์ก็ต้องซื้อมาเองเวลา 17.00 น. วันที่ 7 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่องพายุ “ตาปะฮ์” (TAPAH) ฉบับที่ 7 ว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 ก.ย.พายุโซนร้อน “ตาปะฮ์” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ประมาณ 380 กม. หรือละติจูด 18.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 85 กม.ต่อชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 10 กม.ต่อชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้วันที่ 8 ก.ย. อย่างไรก็ตามพายุ “ตาปะฮ์” ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศ ไทยมีกำลังแรงขึ้นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่