พื้นที่ราบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทอดยาว จากอำเภอโคกสูง ไปถึงอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์สำคัญ ไล่ตั้งแต่ช่วงที่เขมรแดงปกครองประเทศ จนถึงกัมพูชาแตก ผู้อพยพชาวกัมพูชานับแสนทะลักเข้าไทย จนถึงสงครามสงบแต่ชีวิตชาวบ้านคนไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนแห่งนี้ยังไม่สงบ คงต้องเผชิญกับสงครามครั้งใหม่ เมื่อพวกเขาไม่สามารถเข้าไปทำกินในที่ดินของตัวเองได้ทีมข่าว “SEE TRUE” ไทยรัฐทีวี เดินทางไปตามถนนศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นถนนเลียบชายแดน เพื่อสำรวจเขตแดนที่ยังคงมีปัญหา จากอำเภอโคกสูง ถึงอำเภออรัญประเทศ ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์กันนับพันไร่ ทั้งๆที่ในบางพื้นที่ที่เกิดพื้นที่ทับซ้อน ยังคงมีหลักเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศส ตั้งตระหง่านอยู่...เป็นพยานหลักฐานการปักปันเขตแดนในอดีต แต่กัมพูชาอ้างว่า บางหลักถูกขยับเข้าไปในแผ่นดินกัมพูชา“หนองหญ้าแก้ว” กัมพูชารุกล้ำพื้นที่ทับซ้อน ขู่วางระเบิดคนไทยบ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ติดชายแดนกัมพูชา ตั้งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 และ 43ฝั่งตรงข้ามคือ หมู่บ้านเปรยจัน ตำบลโอเบยชวน อำเภอโอจะเริว จังหวัดอุดรเมียนเจยชาวบ้านส่วนหนึ่งของที่นี่ได้รับจัดสรรที่ทำกินครอบครัวละ 14 ไร่ โดยเสียภาษีบำรุงท้องที่ หรือ ภ.บ.ท.5 ซึ่งหลายครอบครัวเข้าไปทำกินได้ บางครอบครัวเข้าไปทำกินได้บางส่วน แต่มีเกือบ 20 ครอบครัว ที่เข้าไปทำกินไม่ได้เลยป้าพลอน สายทอง อายุ 59 ปี เป็นหนึ่งในชาวบ้านที่เสียภาษี ภ.บ.ท.5 ทุกปี แต่เป็นเวลาเกือบ 20 ปีแล้วที่เข้าไปยังที่นาตัวเองก็ยังไม่ได้ เพราะทหารกัมพูชาอ้างว่าอยู่ในเขตแดนของกัมพูชา ตนเองกับสามีเคยเข้าไปทำนา แต่โดนทหารกัมพูชาไล่ออกมา เคยเข้าไปตัดไม้ก็ถูกไล่และขู่ว่าจะวางระเบิด ทำให้ไม่กล้าเข้าไปอีกเลย หวังว่าสถานการณ์ในตอนนี้ทหารไทยจะช่วยทวงสิทธิ์ในที่ดินให้คนไทยได้ เพราะมีชาวบ้าน 18 คน ในหมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว ที่เข้าไปทำกินในที่ดินของตัวเองไม่ได้เลย“โอ๊ย มันหลายรอบต่อหลายรอบ จนไม่กลัวมัน กลัวระเบิดอย่างเดียว กลัวมันวางระเบิด เพราะเขาขู่ว่าจะเอาระเบิดมาใส่ ไม่ให้เข้าไป เลยไม่กล้าเข้าไป กลัวมันใส่กับต้นไม้ กับดิน กับอะไร” ป้าพลอนเล่าถึงสิ่งที่ต้องเผชิญมาตลอดเกือบ 20 ปีปัจจุบัน “ชาวกัมพูชา” สร้างบ้านเรือนล้ำเข้ามาในดินแดนไทยประมาณ 20 ครัวเรือนและมีบางส่วนที่ทำการเกษตรเข้ามาในพื้นที่ของไทย ซึ่งยังเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ต้องเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ตามข้อตกลง MOU43 ซึ่งปัจจุบันกองทัพภาคที่ 1 ผลักดันชาวกัมพูชาออกไป 3 ครอบครัวยึดพื้นที่คืนได้ราว 100 ไร่ ทำให้ชาวบ้านกัมพูชาระดมคนมาประท้วงบ่อยครั้ง“หนองจาน” จากศูนย์อพยพสู่การถูกยึดครองที่ดินจากตำบลโคกสูง มุ่งหน้าไปตามถนนศรีเพ็ญ สู่ ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง เป็นพื้นที่ที่พบว่ามีปัญหามากที่สุด เฉพาะ 2 หมู่บ้าน คือที่ “บ้านหนองจาน” และ “บ้านอ่างศิลา” มีชาวบ้านถึง 52 ราย ที่ถูกชาวกัมพูชายึดครองที่ดินรวมกันเกือบ 3,000 ไร่ในอดีตเมื่อปี 2522 หลังเขมรแดงถูกกองทัพเวียดนามโค่นอำนาจ ยึดพนมเปญและกัมพูชา ทำให้ทหารกัมพูชา หนีการไล่ล่าประชิดชายแดนไทยและนั่นเป็นช่วงประวัติศาสตร์สำคัญ เพราะคลื่นมนุษย์ชาวกัมพูชาต่างอพยพหนีเข้ามาอยู่ศูนย์อพยพในหมู่บ้านไทยตามแนวชายแดนบ้านหนองจานถูกใช้เป็นค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชาชั่วคราว หรือแคมป์ 511 ใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 ซึ่งบริเวณที่ทหารไทยวางลวดหนามหีบเพลงไว้ เป็นส่วนหนึ่งของค่ายผู้อพยพโดยค่ายอพยพแห่งนี้เคยมีผู้อพยพเข้ามาพักพิงสูงสุดประมาณ 3 หมื่นกว่าคนปัจจุบันทหารกัมพูชามาสร้างป้อมทหาร และชาวกัมพูชา ได้รุกล้ำสร้างบ้านเข้ามา 6 หลัง ซึ่งอ้างว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตแดนของกัมพูชา นั่นทำให้ตรงนี้กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนไปอีกในวันที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวลงพื้นที่ที่ทหารไทยวางลวดหนามหีบเพลง ป้าคำผิน โอปั่น อายุ 68 ปี ได้ใช้โอกาสนั้นเข้าไปในพื้นที่ด้วย พร้อมกับนำ ส.ค.1 พื้นที่ 75 ไร่ มาแสดงให้ดู ซึ่งทีมข่าว SEE TRUE ถามป้าคำผินว่าที่ดินป้าอยู่บริเวณไหน คำตอบคือ ก็อยู่บริเวณที่ชาวกัมพูชามาสร้างบ้านรุกล้ำเข้ามา 6 หลัง“ที่ดินของป้าอยู่นี่ ที่ยืนอยู่นี่ค่ะ ทั้งหมด 75 ไร่ ไล่มาจากคลองนู่นแหละ แล้วไปนี่เลย ป้ามีเอกสารเป็น ส.ค.1 ของคุณพ่อ” ป้าคำผินบอกพร้อมกับเปิดเอกสาร ส.ค.1 ให้ดู ซึ่งออกให้โดยกรมที่ดิน ตั้งแต่ปี 2498 ปี 2534 กัมพูชา 4 ฝ่ายตกลงกันได้ที่จะสงบศึก มีการเซ็นสัญญาสันติภาพปารีส แต่เขมรแดงถอนตัวออกไปในภายหลัง เพราะกลัวว่าจะเป็นกลลวงเอาผิดย้อนหลังจากการที่มีชาวกัมพูชาเสียชีวิตราว 1 ล้านกว่าคนถึง 3 ล้านคน ช่วงที่กลุ่มของตนเองปกครองประเทศนั่นทำให้กว่าสงครามภายในจะจบและสงบลงจริงๆ ประมาณปี 2541 ซึ่งเป็นปีที่ พอล พต ผู้นำเขมรแดง เสียชีวิตผู้อพยพชาวกัมพูชาส่วนใหญ่เดินทางกลับประเทศ แต่ผู้อพยพบางส่วนไม่ยอมกลับ ซ้ำยังยึดที่ดินที่เคยเป็นศูนย์อพยพสร้างบ้าน และยังขยายพื้นที่ทำกินติดรั้วลวดหนามที่ใช้ทำแนวศูนย์อพยพ ซึ่งพวกเขาเข้าใจว่าเป็นเส้นเขตแดน แต่นั่นเป็น... “ผืนแผ่นดินไทย”.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม