“ความเย็น”...ทำให้เกิดความสุขความสบาย แต่ถ้าเป็น “ความร้อน”...แล้วย่อมทำให้เกิดความเดือดร้อนหาความสุขมิได้ นับตั้งแต่ความร้อนที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเราอันเกิดจาก “กิเลส”...คือความโลภ ความโกรธ และความหลงความร้อนเช่นนี้จะต้องดับได้ด้วยหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ส่วนความร้อนภายนอกนับตั้งแต่การทะเลาะเบาะแว้งซึ่งกันและกันของเพื่อนบ้านและประเทศใกล้เคียง จำเป็นต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันเป็นที่ตั้ง จะใช้กำลังต่อสู้กันมากมายเพียงใดหรือเวลานานเท่าใดก็ตาม ย่อมดับความร้อนนี้ไม่ได้เพราะเป็นการจองเวรซึ่งกันและกัน ตราบใดที่มนุษย์ยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเป็นที่ตั้งแล้วก็อย่าหวังเลยว่า “ความสงบ” และ “ความสุข” จะเกิดขึ้นมาได้ การรู้จักให้อภัย การเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการไม่เป็นนักเลงอันธพาลก็จะสามารถยับยั้งความสูญเสีย...ความหายนะของมนุษยชาติไปได้พระครูจินดาสุตานุวัตร (พระมหาสมัย จินฺตโฆสโก) ประธานมูลนิธิกลุ่มแสงเทียน เจ้าอาวาสวัดบางไส้ไก่ กทม. ย้ำว่า พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนไว้ว่า “นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ แปลความว่า ความสุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี” ...เริ่มจากความสงบ “ทางกาย” คือการไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน“การไม่ฉวยโอกาสขโมยหรือหยิบเอาทรัพย์สมบัติของคนอื่น การรู้จักสำรวมในกามไม่ตกเป็นทาสของกาม การไม่เสพยาบ้ายาเสพติดของมึนเมาอันจะนำไปสู่การตั้งตนอยู่ในความประมาท นี่เป็นความสงบทางกาย ส่วนความสงบทางวาจาคือการไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ...หรือการใช้วาจาเสียดสีไม่สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายแก่คนอื่น”ส่วนความสงบทางภายในคือ “ทางใจ” มีตั้งแต่ไม่คิดอิจฉาริษยาคนอื่น ไม่จองเวรคนอื่น รู้จักให้โอกาสและให้อภัยแก่คนอื่น เหล่านี้เป็นทางเลือกและทางออกที่ดีสำหรับชาวพุทธ...ชาวโลก คนที่มีความสงบทั้งทางกายก็ดีทางวาจาก็ดีทางใจก็ดีย่อมเป็นคนสร้างความสุข ความสงบได้อย่างแท้จริง...เป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อส่วนรวม เป็นบุคคลที่ควรส่งเสริม ยกย่องเพราะเป็น “ผู้สร้างทางแห่งความสุข” ความร้อนที่เกิดขึ้นกับชาวพุทธเมื่อไม่นานมานี้ก็คงเป็นเรื่องของความอื้อฉาวในวงการผ้าเหลืองที่ไปเกี่ยวข้องกับสีกาในทางเพศและการใช้เงินหรือปัจจัยที่ไม่เหมาะสม จนกลายเป็นผู้ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสียเอง จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้มิให้กลับคืนมาหลอกหลอนชาวพุทธอีกต่อไป“นักบวชที่ไม่อยู่ในศีลในธรรมตามพุทธบัญญัติจำเป็นต้องขจัดออกไปโดยชาวพุทธด้วยกันและควรจะมีบทลงโทษทางกฎหมายด้วย เพื่อมิให้บุคคลเหล่านั้นแอบอ้างผ้าเหลืองหากินจนทำให้ภาพลักษณ์ของนักบวชในพระพุทธศาสนาเสื่อมลงไป”อีกกรณีหนึ่งคือความเดือดร้อนทางกายที่เกิดขึ้นจากการสู้รบกันกับประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มหายตายจากไป อีกส่วนหนึ่งจำเป็นต้องหนีการสู้รบกันไปอยู่ในที่ศูนย์อพยพผู้ลี้ภัยทั้งในวัด ในสถานศึกษาและในสถานที่ของทางราชการ เกิดการพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนเกิดความทุกข์ความเดือดร้อนทั้งภายในและภายนอก ความวิตกกังวลก็เกิดขึ้นทั้งเป็นห่วงทรัพย์สินของตนเอง เป็นห่วงผู้คนในครอบครัวญาติมิตร เป็นห่วงว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัยจากการสู้รบกัน ทำให้สุขภาพจิตเสียไป บางคนบางครอบครัวก็ถูกอาวุธร้ายแรงถล่มบ้านพังทั้งหลังหรือเสียหายเป็นบางส่วนยิ่งร้ายไปกว่านั้น...บางครอบครัวได้สูญเสียสมาชิกจากการสู้รบครั้งนี้ จึงกลายเป็นความเดือดร้อนและความพลัดพรากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความร้อนที่เกิดขึ้นทั้งภายใน...ภายนอกได้สร้างความทุกข์...ความเดือดร้อนให้กับชีวิตผู้คนในสังคมไทยเราอย่างมากพระครูจินดาสุตานุวัตร บอกว่า ทุกปัญหามิได้มีทางออกหรือเป็นทางตันเสมอไป ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นในเบื้องต้นแล้วดำรงอยู่และแปรปรวนไปในท่ามกลาง สุดท้ายก็ดับสลายไป นี่คือธรรมชาติของทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในโลกนี้ ถ้าเกิดเป็นสิ่งที่ไม่ดีก็จะสร้างความเสียหายไปในที่สุดแต่...ถ้าเป็นสิ่งที่ดีก่อให้เกิดประโยชน์แล้วก็ล้วนแต่ก่อให้เกิดความสุขความสงบอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนหวังและต้องการ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากภายในก็ควรป้องกันและแก้ไขดังที่กล่าวมาแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นจากภายนอกก็ควรป้องกันและแก้ไขดังที่กล่าวมาแล้วเช่นกันสำคัญที่ “มนุษย์” เรารู้ “เหตุ” และ “ผล” แล้วจะรู้จักปรับปรุง ป้องกัน แก้ไขหรือไม่?ทุกสิ่งทุกอย่างต้องแก้ไขที่ “ต้นเหตุ” อย่ามาแก้ไขช่วงกลางปัญหาและปลายปัญหาซึ่งจะเป็นการแก้ไขที่ไม่จบสิ้น กิเลสนี่เองคือตัวทำลายล้างผลาญมนุษย์ให้ย่อยยับลงไป อาจจะนำมาซึ่งการสูญเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ก็เป็นไปได้...ขอให้ชาวพุทธจงรู้จักนำเอาหลักธรรมคำสอนไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันหรือแม้แต่...ในการทำหน้าที่การงาน ในการอยู่ในสังคมร่วมกัน ในการใช้ชีวิตในครอบครัวเพื่อจะได้ก่อให้เกิดความสงบ ความสันติ ความสุขขึ้นมาให้กับชีวิต อย่าไปหวังกับความสงบที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของคนอื่น จงเริ่มก่อให้เกิดความสงบที่ตัวเรา รู้จักว่าอะไรดีอะไรชั่ว อะไรที่จะก่อให้เกิดการทำลายล้างผลาญอะไรที่จะก่อให้เกิดความรักความสามัคคี อะไรที่จะก่อให้เกิดการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ขอให้เริ่มนับหนึ่งที่ตัวเราแล้วค่อยๆขยายไปถึงผู้คนรอบข้างรอบสังคมรอบประเทศชาติ ความสันติที่แท้จริงและความสงบที่เราต้องการอยากจะพบและอยากจะเห็นก็จะเกิดเห็นเป็นรูปธรรมทุกชีวิตที่เกิดมาย่อมมีความทุกข์ยากลำบากด้วยกันทั้งนั้น บางชีวิตทุกข์มาก บางชีวิตทุกข์น้อย “กรรม” คือการกระทำทั้งทางกาย...วาจา...ใจ เป็นจุดเริ่มต้นว่าชีวิตเราจะเป็นไปในทิศทางใด จะมีความสุขหรือจะมีความทุกข์ “กรรมดี”...ก็ย่อมพบแต่ความสุข “กรรมชั่ว”...ก็ย่อมพบแต่ความทุกข์.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม