ครูสาวที่ถูกนักเรียนชาย ม.5 ทำร้ายเข้าให้ปากคำตำรวจเพิ่มเติม หลังโดนลูกศิษย์ทั้งชกทั้งเตะและตีเข่าบาดเจ็บสาหัส เหตุไม่พอใจผลสอบกลางภาคได้ 18 จากคะแนนเต็ม 20 ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ตัดพ้ออยากลาออก ด้านผู้ปกครองยื่นใบลาออกจากโรงเรียนแล้ว พบประวัติสุดแสบ เคยตบหน้านักเรียนหญิงหน้าบวมมาแล้ว สช.จี้โรงเรียนสอบข้อเท็จจริง ชี้เข้าข่ายผิดอาญา พร้อมสั่งเยียวยาครูผู้เสียหายจากเหตุการณ์สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการศึกษา กรณีเด็กนักเรียนชายชั้น ม.5 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ทำร้ายครูสาวสอนวิชาคณิตศาสตร์ต่อหน้าเพื่อนในห้องเรียน สาเหตุ มาจากไม่พอใจที่ได้คะแนนสอบกลางภาค 18 คะแนนจาก 20 คะแนน ถึงแม้ครูจะอธิบายถึงเหตุผลที่ไม่ได้คะแนนเต็ม เพราะไม่ได้แสดงวิธีทำ แต่นักเรียนไม่ยอมฟังตรงเข้าชกหน้าครูหลายครั้ง และตามใช้เท้าเตะตีเข่าใส่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดวงตาฟกช้ำ ศีรษะบวม และซี่โครงอักเสบ ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีเด็กที่ก่อเหตุถึงที่สุดความคืบหน้า ช่วงสายวันที่ 11 ส.ค. พ.ต.ท.เรวัติ ศิริตื้นลี สว. (สอบสวน) สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เรียกครูสาว ผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากช่วงนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลสภาพจิตใจครูสาวบอบช้ำหนัก ยังไม่พร้อมให้การ พนักงานสอบสวนต้องรอให้ผู้เสียหายอาการดีขึ้นเสียก่อน หลังให้ปากคำตำรวจครูสาวไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆกับผู้สื่อข่าว โดยให้เหตุผลว่ายังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์พ.ต.ท.เรวัติ ศิริตื้นลี สว. (สอบสวน) สภ.หนองฉาง เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจสอบปากคำครูผู้เสียหายไปแล้ว ส่วนเด็กนักเรียนชาย ม.5 ยังไม่ได้เรียกตัวมาสอบปากคำ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน ตามขั้นตอนของกฎหมายต้องรอนัดหมายสอบปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้งมีรายงานว่าครูสาวผู้เสียหายที่ถูกนักเรียนชายทำร้ายรายนี้ ปัจจุบันอายุ 33 ปี สอนอยู่โรงเรียนแห่งนี้มา 11 ปีแล้ว นิสัยส่วนตัวเป็นคนใจดี รักเด็ก ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร หลังเกิดเหตุถึงกับตัดพ้อว่าอยากจะลาออกเนื่องจากยังหวาดกลัว อีกทั้งอับอายที่ถูกทำร้ายต่อหน้านักเรียน หลังเกิดเหตุต้องกลับบ้านในสภาพหน้าตาบวมและต้องโกหกลูกว่าโดนผึ้งต่อย เนื่องจากลูกยังเล็กไม่อยากให้รับรู้เหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนี้ ส่วนนักเรียนชายคนก่อเหตุ จากการตรวจสอบพบว่าเมื่อเทอมที่ผ่านมาเคยตบเด็กนักเรียนผู้หญิงจนหน้าบวม อีกทั้งเคยทำร้ายพ่อตัวเองมาแล้วถือเป็นพฤติกรรมของเด็กที่มีอารมณ์รุนแรง หลังเกิดเหตุโรงเรียนลงโทษด้วยการให้พักการเรียน ขณะที่ผู้ปกครอง ได้ขอโทษครูผู้เสียหาย และทำเรื่องลาออกจากโรงเรียน เรียบร้อยแล้วด้านนายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริม การศึกษาเอกชน (สช.) รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในกระบวนการสอบถามความคืบหน้าไปยังศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) อุทัยธานี เรื่องนี้ทางโรงเรียนจะเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับเจ้าพนักงาน ส่วนที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทั้งในส่วนของการสอบสวนข้อเท็จจริงและการดำเนินการตามระเบียบ หรือกฎหมายที่กำหนด ทราบว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีอาญาด้วยส่วนหนึ่ง ดังนั้น ต้องติดตามว่าโรงเรียนจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ส่วนการเยียวยาครูสาวที่ถูกนักเรียนทำร้ายร่างกาย ทางโรงเรียนจะพิจารณาในการดูแลให้ตามความเหมาะสมอยู่แล้วว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุทัยธานี ชัยนาท พบว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนเอกชนสังกัด สช. ไม่ได้อยู่ในสังกัด สพฐ. แต่ก็ขอแสดง ความเสียใจและห่วงใยต่อครูผู้เสียหาย เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อหลายฝ่าย ทั้งครูที่ได้รับบาดเจ็บ นักเรียนผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ปกครองของทั้งสองฝ่าย เข้าใจความรู้สึกของครูผู้เสียหาย และรับรู้ว่าครูทั่วประเทศรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะครูทุกคนควรทำหน้าที่ในห้องเรียน อย่างปลอดภัย“ในส่วนโรงเรียนสังกัด สพฐ. เหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญในการเสริมระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้ครอบคลุมทั้งการป้องกันและการแก้ไขปัญหา เสริมทักษะการสื่อสารและการจัดการอารมณ์ให้ทั้งครูและนักเรียน และสร้างวัฒนธรรมโรงเรียนที่ทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยและสนับสนุนการเรียนรู้อย่างแท้จริง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนอย่างใกล้ชิด” เลขาฯ กพฐ.กล่าววันเดียวกัน นายจิณณาวัฒน์ โคมบัว เป็นตัวแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 2 และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าเยี่ยมครูสาวที่ถูกเด็กนักเรียนชายทำร้ายบาดเจ็บ พร้อมนำกระเช้าของขวัญไปมอบให้และให้กำลังใจในการต่อสู้ผ่านพ้นอุปสรรคโดยเร็ว นอกจากนี้ยังนำนักกฎหมายไปให้คำปรึกษาด้านคดีด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่