นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในงบประมาณปี 2569 กทม. ได้เสนอโครงการติดตั้งเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวบนอาคารสูงจำนวน 12 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเห็นชอบสภา กทม. โดยเน้นติดตั้งบนอาคารสูงในโรงพยาบาลที่เคยสำรวจไว้ 8 แห่ง โดยเครื่องดังกล่าวปัจจุบันมีราคาประมาณเครื่องละ 1.5 ล้านบาท ราคานี้รวมค่าจ้างที่ปรึกษาประเมินโครงสร้างอาคารด้วย เนื่องจากแต่ละอาคารรับแรงสั่นได้ไม่เท่ากัน จึงต้องมีการประเมินเพื่อยืนยันความปลอดภัยว่าโครงสร้างแต่ละอาคารรับแรงสั่นได้เท่าใด ก่อนตัดสินใจว่าจะต้องมีการอพยพคนออกจากตัวอาคารหรือไม่ เมื่อเกิดแผ่นดินไหวรองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวอีกว่า เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนได้นำมาทดลองติดตั้งที่อาคารธานีนพรัตน์เป็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ เป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้เก็บข้อมูลในการออกแบบความแข็งแรงของอาคารได้ สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้อาคารและสามารถนำข้อมูลที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวหรืออาคารถล่ม เช่น ความแข็ง-อ่อนของดินในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯมีลักษณะเป็นแอ่ง รวมถึงปัจจัยเรื่องความถี่สั่นพ้องของคลื่นแผ่นดินไหวด้วย ส่วนด้านการป้องกันในอนาคตก็จะทำให้มีแนวทางในการให้ความรู้เรื่องการติดตั้งและอ่านค่าเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว เน้นอาคารเก่า อาคารที่อพยพคนได้ยาก รวมถึงสนับสนุนให้มีการรายงานค่าแรงวัดที่ได้อย่างต่อเนื่อง.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่