สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ เริ่มคลี่คลาย เกิดเหตุสลดที่ จ.ตาก ไฟช็อตพระเณรมรณภาพ 2 รูปขณะลงไปช่วยกันยกเครื่องสูบน้ำริมเมย หลังสำนักสงฆ์ที่ถูกกระแสน้ำซัดคว่ำ ไม่ได้สับคัตเอาต์ถูกไฟรั่วช็อตดับคู่ ส่วนสุโขทัยยังวิกฤติหนักที่ อ.ศรีสำโรง ทหารลงพื้นที่ช่วยขนของพร้อมอพยพชาวบ้านออกจากหมู่บ้าน เชื่อยังจมบาดาลอีกนาน ส่วนในตัวเมืองคลี่คลายแล้ว มวลน้ำไหลต่อเข้าบางระกำ ด้านลุ่มน้ำโขงเพิ่มสูงต่อเนื่อง นครพนมระดมป้องกันตัวเมืองเต็มพิกัด ย่านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวมั่นใจเอาอยู่ สังขละบุรีฝนถล่ม 10 วันติด ดินสไลด์ริมทางทั้งสายไฟฟ้าท่อประปาพัง เร่งเก็บขยะกิ่งไม้มหาศาลลอยติดตอม่อสะพานมอญหวั่นพังถล่มซ้ำรอยปี 56หลังจากปริมาณฝนเริ่มเบาบางลงส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีบางพื้นที่ที่น้ำท่วมขังอยู่ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. หลังน้ำลดเกิดเหตุสลดใจไฟช็อตพระเณรมรณภาพ 2 รูป ที่ จ.ตาก เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 2 ส.ค. พ.ต.ท. นพคุณ อนันตวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.พบพระ ได้รับ แจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านหมื่นฤาชัย หมู่ 5 ต.พบพระ ว่า เกิดเหตุไฟฟ้าช็อตพระเณรมรณภาพ 2 รูป ที่สำนัก สงฆ์บ้านหมื่นฤาชัย สั่งการให้พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยพายัพไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณริมแม่น้ำเมยด้านหลังสำนักสงฆ์ เป็นทางลาดชันลงไปริมน้ำเต็มไปด้วยโคลนตม ดินเลนหลังจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แม่น้ำเมยเอ่อท่วมล้นตลิ่งและน้ำเพิ่งลดระดับลงสู่ภาวะปกติ พบศพพระเลอทะ อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา นุ่งจีวร สีเหลืองเข้ม ไม่สวมใส่สบง และสามเณรจ่อเอ๊ก่า อายุ 17 ปี สัญชาติเมียนมา นุ่งจีวรสีเหลืองอ่อน ไม่สวมใส่สบงเช่นกัน ทั้งคู่อยู่ในสภาพยืนหน้าคะมำลำตัวพาดอยู่บนลูกกรงเหล็กครอบเครื่องสูบน้ำที่พลิกตะแคงอยู่ มือทั้งสองข้างของทั้งคู่จับแน่นอยู่กับกรงเหล็กและเครื่องสูบน้ำที่มีกระแสไฟฟ้ารั่วสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้มีน้ำท่วมในพื้นที่ หลังน้ำลดพบว่าเครื่องสูบน้ำบริเวณหลังสำนักสงฆ์ถูกกระแสน้ำซัดจนพลิกตะแคง พระเณรทั้ง 2 รูปลงไปช่วยกันยกขึ้นโดยไม่ได้สับคัตเอาต์ตัดกระแสไฟฟ้า เกิดไฟรั่วที่เครื่องสูบน้ำทำให้ไฟช็อตมรณภาพทั้งคู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องตัดกระแสไฟก่อนนำศพทั้งสองออกมานำส่ง รพ.พบพระ ให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งส่วนสถานการณ์น้ำท่วมยังวิกฤติหนักที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ทหารชุดปฏิบัติการจากกองบัญชาการช่วยรบที่ 3 จ.พิษณุโลก นำรถบรรทุก 6 ล้อ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านไกลใหม่ หมู่ 5 ต.บ้านนา หลังจากกระแสน้ำในแม่น้ำยมซัดแนวคันดินพังเสียหายกว่า 60 เมตร ไหลบ่าเข้าท่วมหลายหมู่บ้านระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร เร่งช่วยขนย้ายข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รถสามล้อเครื่อง รวมถึงอพยพชาวบ้านออกไปยังที่ปลอดภัย เชื่อว่าน้ำจะไม่ลดลงง่ายๆ และกว่าทางการจะเข้ามาซ่อมแนวคันดินกั้นน้ำที่พังเสียหายจะใช้เวลาอีกนาน ล่าสุดกระแสน้ำไหลบ่าเข้าท่วมถนนสาย 1195 สุโขทัย-วังไม้ขอน เป็นระยะทางกว่า 1 กม. ระดับน้ำสูงราว 50 ซม.รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ส่วนพื้นที่ อ.เมืองสุโขทัย สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย มีการเร่งระบายน้ำออกไปทาง อ.กงไกรลาศ เพื่อเข้าสู่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังภายในชุมชนคูหาสุวรรณ จุดที่พนังกั้นน้ำยมเอียงเสียหายส่วนถนนจรดวิถีถ่อง ช่วงเชิงสะพานพระร่วงฝั่งตะวันตกถึงคลองโพธิ์ ระดับน้ำลดลง รถเล็กวิ่งผ่านไปมาได้แล้วด้านสถานการณ์ลุ่มน้ำโขง จ.นครพนม ระดับน้ำ 11.85 เมตร เหลืออีกเพียง 15 ซม.จะถึงจุดวิกฤติที่ 12 เมตร ทำให้น้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ อาทิ เส้นทางจักรยานออกกำลังกายเพื่อการท่องเที่ยวสวรรค์ชายโขง แต่ยังไม่กระทบพื้นที่เศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ อ.บ้านแพง ได้รับผลกระทบ น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนริมแม่น้ำโขงบางจุด รวมถึงลำน้ำสาขาสายหลักทั้งลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม เอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตรนาข้าวกว่า 20,000 ไร่นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ จ.บึงกาฬ และ จ.นครพนม เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์น้ำโขง ลำน้ำสาขา และความพร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมรับมืออุทกภัยในพื้นที่สำคัญ ว่า แม่น้ำโขงยังสามารถรองรับน้ำได้อีกพอสมควร ยังไม่กระทบพื้นที่เศรษฐกิจการท่องเที่ยว แต่ต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง จ.นครพนม ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติหนัก แต่มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องจากปริมาณฝนและการหนุนของน้ำจากตอนบน ทางจังหวัดเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายในกรณีเกิดฝนตกหนักซ้ำในช่วงที่น้ำโขงยังมีระดับสูง พื้นที่การรับน้ำของนครพนมมี 3 ทิศทาง ได้แก่ น้ำจากตอนบนของ จ.สกลนคร น้ำฝนในพื้นที่และน้ำโขงที่หนุนจากตอนเหนือ ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องจนกว่าจะพ้นฤดูฝน โดยเฉพาะช่วงเดือน ส.ค.ถึง ก.ย. ที่อาจมีพายุหรือมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลผ่านจ.กาญจนบุรี ฝนตกหนักเกิดเหตุดินสไลด์ริมถนนเป็นทางยาวกว่า 50 เมตร บริเวณทางเข้าหมู่บ้านชุมชนวัดวังก์ (ฝั่งมอญ) หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ทำให้ท่อน้ำประปาและสายไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย นายปกรณ์ น้อยเกตุ นายกเทศมนตรี ตำบลวังกะ นำเจ้าหน้าที่กองช่างลงพื้นที่เร่งซ่อมแซมสายไฟฟ้าและท่อประปาที่ได้รับความเสียหายเพื่อให้ชาวบ้านใช้ได้ชั่วคราว และจะประชุมสภาเพื่อผ่านงบประมาณปรับปรุงซ่อมแซมถาวร ด้านนายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นอภ.สังขละบุรี นำกำลัง อส. ทหาร ตำรวจ จิตอาสาและผู้ประกอบกิจการชมรมท่องเที่ยว จัดเก็บขยะ กิ่งไม้ เศษไม้จำนวนมหาศาลที่ลอยตามกระแสน้ำมาติดตอม่อสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมานานกว่า 10 วัน ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าจะทำให้สะพานพังถล่มซ้ำรอยเมื่อปี 56อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่