เจ้าอาวาสวัดบางคลานลาออก จากตำแหน่งมีผลวันที่ 15 ส.ค.นี้ หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าหารือถึงปัญหายืดเยื้อระหว่างพระกับชาวบ้านจนเกิดเป็นคดีความ สมภารแจงเจ้าหน้าที่รัฐฟังความข้างเดียวยอมสละตำแหน่งเพื่อให้วัดสงบ ยันทำดีที่สุดแล้ว ขณะที่ “บิ๊กเต่า” เผยผ่านมา 2 ปีปัญหายังแก้ไม่จบชาวบ้านถูกศาลพิพากษาลงโทษ 3 รายต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน สุดท้ายพระครูยอมลาออก ส่วนการแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่เป็นเรื่องของเจ้าคณะผู้ปกครองเจ้าอาวาสวัดบางคลานยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เปิดเผยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ภายหลังเข้าพบพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ส.ค.เพื่อเจรจาปัญหาที่เกิดขึ้น ตรวจสอบยังคงมีเรื่องร้องเรียนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องคดีความกับชาวบ้าน รวมทั้งเรื่องการสร้างพระให้เช่าโดยไม่นำเงินเข้าวัด ปัญหานี้มีมาตั้งแต่ปี 2566 เกือบ 2 ปีแล้ว ครั้งนั้นลงไปแก้ปัญหาให้ครั้งหนึ่งแล้ว พระครูพิสุทธิวรากรรับปากว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้าน แต่ผ่านมาเกือบ 2 ปี ปัญหาไม่จบ ทำให้ชาวบ้านถูกศาลพิพากษาลงโทษ 3 ราย เนื่องจากพระครูพิสุทธิวรากรไม่ยอมไปศาล ชาวบ้านไม่พอใจเพราะตกลงกันแล้วว่าจะถอนแจ้งความชาวบ้านทั้งหมด ทั้งนี้การเข้าไปวัดบางคลานเพื่อจะทำให้พระกับชาวบ้านอยู่กันโดยไม่มีเรื่องทะเลาะกัน รอง ผบช.ก. เผยอีกว่า ที่ผ่านมายังคงมีชาวบ้านร้องเรียนกันมาตลอดเรื่องเจ้าอาวาส รวมทั้งพระลูกวัดทะเลาะกับชาวบ้านนำทหารเข้าไปดูแลภายในวัด ทั้งที่ตกลงกันว่าจะให้ตำรวจเข้าไปดูแลความสะดวกในวัดแทน ปัญหาเหล่านี้เริ่มลุกลามขึ้นเรื่อย จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกกันระหว่างพระกับชาวบ้าน เมื่อพูดคุยถึงปัญหาและทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย สุดท้ายพระครูพิสุทธิวรากร ขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน พร้อมทั้งทำหนังสือถึงเจ้าคณะตำบลท่านั่ง-บางคลาน ใจความว่า เรื่องขอลาออกจากเจ้าอาวาส วัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) ด้วยกระผม พระครูพิสุทธิวรากรได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) ต.ท่านั่ง-บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 10 มี.ค.66 และปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีมาโดยตลอด บัดนี้ มีความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม (วัดบางคลาน) โดยความสมัครใจ ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.2568 ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ส่วนหลังจากนี้จะแต่งตั้งใครมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน คงต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้ปกครองเป็นผู้แต่งตั้งต่อไปต่อมาเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดหิรัญญาราม บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา นายประกอบ บุตรนุ้ย อายุ 73 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บางคลาน แกนนำชาวบ้านที่เป็นฝ่ายต่อต้านเจ้าอาวาสและมีคดีฟ้องร้องกันหลายสิบคดีที่ยังดำเนินการอยู่ในชั้นศาลเปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ “บิ๊กเต่า” ที่มาดูแลความสงบสุขของชาวบางคลาน และชาวบ้านได้ทราบว่าเจ้าอาวาสได้เขียนหนังสือลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดบางคลาน ชาวบ้านรู้สึกดีใจและอยากจะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานมาดูแลชาวบ้านที่อยู่ในวัดและตำบลใกล้เคียง ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาตามมาอีกหรือไม่ด้านนายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรของวัดหิรัญญารามเปิดเผยว่า ความคิดเห็นส่วนตัวที่พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสเขียนใบลาออก เข้าใจว่าท่านคงจะเหนื่อยและต่อสู้มานาน เพราะรับอาสาพระผู้ใหญ่มาแก้ปัญหาวัดบางคลานที่อดีตเจ้าอาวาสองค์เก่าถูกปลดไปและเรื่องราวต่างๆก็ยังไม่เรียบร้อยดี ต่อมามีอดีต สว.เข้ามายุ่งเกี่ยวทำให้เกิดความวุ่นวาย เกิดการขัดขืนขัดขวางในการปฏิบัติหน้าที่พาชาวบ้านทำมาตลอด ต่อมาตำรวจสอบสวนกลางลงมาแก้ปัญหา มีข้อตกลงให้ทางวัดถอนคดีความต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน ทางวัดทำให้ทุกอย่างไม่ติดใจ ยกเว้นคดีส่วนตัว เช่น ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยวไม่เกี่ยวกับวัดที่เป็นโจทก์ และคดีชายชุดดำเพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญกับคนทั้งประเทศ บางคดีเป็นคดีอาญาที่ถอนแจ้งความไม่ได้ อัยการส่งฟ้องศาลไปแล้ว ประเด็นที่เจ้าอาวาสเข้ากับชาวบ้านไม่ได้นั้น เจ้าอาวาสมีทั้งคนรักและคนชัง ในข้อเท็จจริงมีชาวบ้านส่วนหนึ่งมาทำบุญและวัดพัฒนาตลอดเวลา สำหรับเรื่องราวที่โจมตีเจ้าอาวาสก็เป็นเรื่องของคนเสียผลประโยชน์ในวัด และตั้งเรื่องเท็จในการร้องเรียน ส่วนคนรับร้องเรียนก็ฟังความข้างเดียวและตั้งธงมา หลังเจ้าอาวาสลาออก ท่านยังต้องจำพรรษาอยู่ที่นี่ เพราะทะเบียนอยู่ที่วัดบางคลานสำหรับคดีความปัญหายืดเยื้อระหว่างพระกับชาวบ้าน ตำรวจต้องเข้าไปเคลียร์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ก.ค. ที่วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. หรือ “บิ๊กเต่า” พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เดินทางเข้าหารือร่วมกับพระผู้ใหญ่ของ จ.พิจิตร ประกอบด้วย พระศรีวิกรมมุนี รักษาการเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เจ้าคณะอำเภอโพทะเล เจ้าคณะตำบลโพทะเลและเจ้าคณะตำบลท่านั่ง มีพระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหิรัญญารามและรองเจ้าคณะอำเภอโพทะเลร่วมเจรจา ใช้เวลาหารือนานเกือบ 2 ชม.ไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปรับฟัง ภายหลังการหารือเสร็จ พล.ต.ต.จรูญเกียรติปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า “มาเที่ยวและมานมัสการหลวงพ่อเงิน” ก่อนพบปะกับชาวบ้านเกือบ 100 คน ที่มารอต้อนรับร่วมกับนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเองกับชาวบ้าน ก่อนจะเดินทางกลับ กทม.ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 31 ก.ค. พระครูพิสุทธิวรากร เปิดเผยว่า การหารือบิ๊กเต่าเสนอเหตุผลหลากหลายถึงความไม่เหมาะสมของการบริหารวัดในปัจจุบัน ทั้งประเด็นการบริหารจัดการภายในวัดที่ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของความแตกแยก และความไม่สงบในหมู่คณะสงฆ์และชาวบ้าน อาตมาชี้แจงว่าได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 2557 และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2566 โดยพระเทพวัชรสิทธิเมธี อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรพระครูพิสุทธิวรากรเผยอีกว่า ภายหลังพระเทพวัชรสิทธิเมธีลาสิกขาเนื่องจากข่าวฉาวพัวพันกับสีกากอล์ฟ ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี อาตมาตั้งใจพัฒนาวัดในทุกด้านทั้งวิหาร โบสถ์ กุฏิ การจัดซื้อที่ดินเพิ่ม และตั้งมูลนิธิเพื่อประโยชน์สาธารณะ แต่ยอมรับว่าถูกวิจารณ์จากผู้ที่ไม่เข้าใจบริบทของการบริหารวัด และรู้สึกว่าการถูกขอให้ลาออกในครั้งนี้ เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนรับฟังความข้างเดียว ไม่ได้วิเคราะห์ด้วยหลักธรรมะ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงวันนี้อาตมาทำดีที่สุดแล้ว หากการลาออกจะทำให้วัดสงบลงก็ยินดีสละตำแหน่ง ทั้งนี้ พระครูพิสุทธิวรากร ลงนามลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน จะมีผลในวันที่ 15 ส.ค.68 นี้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่