งวดเข้ามาทุกทีสำหรับคดีใหญ่ยักษ์อาคาร สตง.ถล่ม!ทำเอาบ้านเราฉาวไปทั่วโลก เพราะภาพการทรุดตัวของอาคารยังติดตาถึงวันที่ คณะพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจ นครบาล นำโดย พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ หอบสำนวน 98,926 แผ่น รวม 51 กล่อง ส่งให้ นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 พิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาและนิติบุคคลรวม 23 ราย!ถ้านับจากวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ถึงวันส่งสำนวนให้อัยการ 22 ก.ค. ตำรวจใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานเกือบ 4 เดือนเต็ม คดีจะครบฝากขังวันที่ 6 ส.ค.ถือว่าฉิวเฉียด อัยการสั่งฟ้องทันหรือไม่ ต้องลุ้น?แต่ที่ผ่านมาดูเหมือนมีการประสานงานทางข้างระหว่างคณะพนักงานสอบสวนกับทีมอัยการอยู่แล้ว เพราะเป็นคดีใหญ่ยักษ์สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์บ้านเราอย่างแรง!ส่วนประเด็นความผิดที่คณะพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบ และเชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้อาคารถล่มลงมา ประกอบด้วย การออกแบบก่อสร้างไม่สอดคล้องกับกฎกระทรวงมาตรฐานปล่องลิฟต์ไม่อยู่ตรงกลางอาคาร แต่ชิดไปทางขอบด้านหลัง ทำให้ศูนย์กลางการบิดตัวเยื้องไปทางด้านหลังอาคาร เมื่อมีการแกว่งตัวจากเหตุแผ่นดินไหว ทำให้กำแพงปล่องลิฟต์และเสาที่ฐานอาคารถล่มลงมาเกือบพร้อมกัน ทำให้อาคารทั้งหลังตกลงมาในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว!ส่วนค่าคอนกรีตตรวจสอบพบว่า ความแข็งแรงไม่ได้มาตรฐานที่สำคัญหลังนำเหล็กเส้นที่เก็บจากที่เกิดเหตุไปตรวจ ปรากฏว่ามีบางส่วนไม่เป็นไปตามแบบเช่นเดียวกัน!สรุปการถล่มของอาคาร สตง.มาจากการแก้ไขหรือออกแบบ รวมทั้งวัสดุบางส่วนไม่ได้มาตรฐานเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดของวงการก่อสร้างบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ด้านมืดที่ควรจดจำ?สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม