พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ซุ่มลาสิกขาช่วงกลางดึก “พระมหาไฮ้” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสฯ แถลงการตัดสินใจเป็นเรื่องส่วนตัว ท่านขอเสียสละเพื่อความเรียบร้อยดีงามในพระพุทธศาสนา ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาเอาเงินวัดไปใช้ส่วนตัวขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง และไม่เกี่ยวกับเงินบริจาคโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ “ผบก.ปปป.” จับมือ ป.ป.ท.-ป.ป.ช. ส่งทีมตรวจสอบบัญชีการเงินก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์เพื่อคลี่ปมข้อสงสัย ขณะที่ภาพหลักฐานอดีตพระชั้นธรรมสวมวิก คิ้วดำ กอดสีกา ว่อนโลกออนไลน์เป็นชุด ย้ำข้อมูลความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยายาวนานกว่า 15 ปี ปูดความแตกเพราะทำตัวเจ้าชู้ ทำท่าจะทิ้งสีกาเศรษฐินีคนเก่าไปมีสีกาคนใหม่ จนถูกขนหลักฐานร้องเรียนจนผ้าเหลืองร้อน ด้าน ผอ.พศ.เผยอนาคตเตรียมส่งเจ้าหน้าที่ พศ. ไปตรวจสอบเชิงลึกถึงบัญชีเงินฝากของวัดต่างๆเพื่อป้องกันเกิดเหตุซ้ำซ้อน ทำวงการพระเสียหายกรณีตำรวจ บก.ปปป.สืบสวนคลี่คลายคดีสีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ้าอาวาสและผู้ช่วยอาวาส 13 รูป หลังความแตกสมัครใจลาสิกขาหมดแล้ว รอตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเอาเงินวัดไปใช้ส่วนตัวหรือไม่ ถึงเรียกตัวมาแจ้งข้อหาดำเนินคดีอาญา ระหว่างนั้นศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย บช.ก. ได้รับการร้องเรียนกรณีพระผู้ใหญ่ในจังหวัดภาคเหนือตอนล่างมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา และยังนำเงินบริจาคสร้างศาสนสถานไปใช้จ่ายส่วนตัว ส่งกำลังเข้าสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นพบว่ามีมูลความจริง อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินและความสัมพันธ์กับสีกาตามที่เสนอข่าวไปแล้วเจ้าคณะ จ.นครสวรรค์สึกกลางดึกความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ท่ามกลางการคาดเดาของสังคมไปต่างๆนานาว่าพระรูปดังกล่าวเป็นใคร เมื่อเวลา 00.40 น. วันที่ 20 ก.ค. นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (รอง ผอ.พศ.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Ch Kitti Kittitharangkoon อ้างอิงนายชยันต์ ศรีบุญเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ (ผอ.พศจ.นครสวรรค์) ประกาศข่าวช็อกวงการสงฆ์ ระบุว่า พระธรรมวชิรธีรคุณ (สฤษดิ์ สิริธโร ป.ธ.9, รศ.ดร.) เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขา ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น. เบื้องต้นอ้างสาเหตุที่ลาสิกขาว่า เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่เกี่ยวกับข่าวพระผู้ใหญ่มีความสัมพันธ์กับสีกาแต่อย่างใดวัดนครสวรรค์เตรียมแถลงข่าวต่อมาช่วงเช้าวันที่ 20 ก.ค.ที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง หลังการลาสิกขาของพระธรรมวชิรธีรคุณ ล่าสุดคณะกรรมการวัดมีกำหนดแถลงข่าวช่วงสาย แต่ไม่มีข้อมูลยืนยันว่า อดีตเจ้าอาวาสจะปรากฏตัว หรือเข้าร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ส่วนบรรยากาศภายในวัดยังคงได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนจำนวนมาก พุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่งยังคงศรัทธาในวัดและพระประธาน “หลวงพ่อศรีสวรรค์” และเชื่อว่าท่านจะปกปักรักษาให้เรื่องไม่ดีคลี่คลายไปในทางที่เหมาะสมชาวบ้านยังเชื่อว่าไม่น่าทำด้านนางสุมาลี พิมพ์พรรณ พุทธศาสนิกชนยังมาทำบุญไหว้พระเหมือนเดิม แต่รู้สึกตกใจกับข่าวเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์สึก เผยว่า คนพูดกันทั้งตลาดแต่ตนยังไม่เชื่อ ยังมาไหว้หลวงพ่อเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้เคยได้ยินแต่คิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะท่านเป็นพระผู้ใหญ่คงไม่น่าจะทำ ข่าวพวกนี้ไม่สามารถทำให้วัดเสื่อมได้เนื่องจากหลวงพ่อศรีสวรรค์ เป็นที่ศรัทธาของคนนครสวรรค์อยู่แล้วลาออกทุกตำแหน่งก่อนสึกมีรายงานว่า พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. ต่อมาเวลา 23.49 น. วันที่ 19 ก.ค. นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Ch Kitti Kittitharang koon ระบุว่า ได้รับแจ้งจากเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือว่า พระธรรมวชิรธีรคุณได้ลาสิกขากับพระครูนิภาธรรมประสิทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าคณะอำเภอเมืองนครสวรรค์ ที่วัดนครสวรรค์แล้ว“พระมหาไฮ้” แจงสาเหตุยิบต่อมาเวลา 09.30 น. พระครูสุธีธรรมบัณฑิต, ดร. (ไฮ้ ธมฺมเมธี) หรือพระมหาไฮ้ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง และผู้อำนวยการ มจร.วิทยาเขตนครสวรรค์ แถลงการณ์ของวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เรื่องการลาออกจากตำแหน่ง และการลาสิกขาของพระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ว่า เนื่องจากมีข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับพระธรรมวชิรธีรคุณแพร่หลายในสื่อต่างๆ คณะผู้บริหารวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนดังต่อไปนี้โต้เรื่องส่วนตัวและเรื่องเงินพระมหาไฮ้แถลงว่า 1.เรื่องการลาออกจากตำแหน่งและการลาสิกขา พระธรรมวชิรธีรคุณตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครสรรค์ และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง รวมทั้งประสงค์จะลาสิกขา การตัดสินใจดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ท่านจึงขอเสียสละ เพื่อความเรียบร้อยดีงามในพระพุทธศาสนา เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ 2.เรื่องข้อกล่าวหาเรื่องการเงิน เกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่องการใช้เงินอย่างไม่โปร่งใส วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ขอชี้แจงว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากพระธรรมวชิรธีรคุณฐานะเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีตำแหน่งเป็นประธาน โครงการก่อสร้างพุทธอุทยานอีกตำแหน่งหนึ่งมีข้อเท็จจริงดังนี้สร้างพุทธอุทยานฯโปร่งใสแถลงการณ์ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ระบุอีกว่า 1.การดำเนินงานก่อสร้างทุกโครงการในพุทธอุทยานนครสวรรค์กระทำในรูปแบบคณะกรรมการ โดยมีคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ร่วมกันในการบริหารจัดการและก่อสร้าง 2.มีการทำเอกสารหลักฐานการเงินและการจัดทำบัญชีที่สามารถตรวจสอบได้ 3.การก่อสร้างมีการโกงเงินตามที่เป็นคดีความ ทางพุทธอุทยานนครสวรรค์ฟ้องร้องและชนะคดีความ ผู้ที่โกงเงินไปยังหลบหนีหมายจับและไม่ใช้หนี้ตามคำพิพากษาให้กับโครงการก่อสร้าง จึงเป็นเหตุให้การก่อสร้างล่าช้า วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ยืนยันความโปร่งใสในการบริหารจัดการ และพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการที่ถูกต้อง เพื่อคลี่คลายข้อข้องใจและรักษาเกียรติภูมิของพระพุทธศาสนาอดีตเจ้าอาวาสคืนบัญชีธนาคารแล้ว“ทั้งนี้ ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนใช้วิจารณญาณการรับหรือเสนอข่าวสาร และขอความกรุณานำเสนอข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อพระพุทธศาสนา และวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ขอให้ช่วยกันปกป้อง รักษา เชิดชูพระสัทจธรรมคำสอน อันเป็นหลักยึดเหนียวจิตใจของพุทธบริษัทสืบไป เบื้องต้นทางอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์คืนสมุดบัญชีธนาคารจำนวน 3 เล่มให้ไว้กับพระครูสุธีธรรมบัณฑิต, ดร.ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ส่วนเรื่องของกุฏิทางคณะกรรมการวัดทำการปิดล็อกไว้ไม่ให้ใครเข้า” แถลงการณ์ระบุ“สมีสฤษดิ์” เป้าหมายของตำรวจที่ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย บช.ก. มีรายงานว่า สำหรับอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์เป็นพระที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ์ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระชั้นเทพในคดีสีกากอล์ฟ ที่ผ่านมาศูนย์ทำนุบำรุงศาสนาฯ ส่งชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินต่างๆ รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดูว่ามีการทุจริตหรือไม่แฉแชตไลน์สัมพันธ์เศรษฐินีสำหรับข้อมูลและหลักฐานต่างๆที่มีผู้ส่งมาให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ทำนุบำรุงศาสนาฯ เบื้องต้นมีแชตข้อความสนทนาบางส่วนระหว่างอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ กับเศรษฐินีปากน้ำโพ วัย 57ปี เนื้อหาบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่มากกว่าคนปกติ อาทิ ฝ่ายหญิงมีการใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า “แม่”รวมถึงส่งข้อความอวยพรวันเกิดและอื่นๆอีกจำนวนมาก จนมีข้อมูลเข้ามาว่า ทั้ง 2 คนคบหาอยู่กินกันมากว่า15ปีสงสัยเงินก่อสร้างพุทธอุทยานนอกจากนี้ยังพบข้อมูลสำคัญที่เชื่อได้ว่า นอกเหนือจากการกระทำผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรงแล้ว อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์อาจมีส่วนกับการนำเงินวัดไปใช้ส่วนตัวด้วย เนื่องจากฝ่ายชายเป็นคนออกเงินค่าใช้จ่ายต่างๆของฝ่ายหญิง ทั้งเรื่องบ้าน รถ และอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้าน ประกอบกับโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานที่ดำเนินการมากว่า 10 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ ใช้เงินบริจาคหลายร้อยล้านบาท ทำให้ชุดสืบสวนตั้งข้อสังเกตพร้อมเข้าตรวจสอบว่ามีเงินรั่วไหลหรือไม่ตรวจสอบทรัพย์สินเศรษฐินีจากการตรวจสอบทรัพย์สินส่วนตัวของเศรษฐินีคนดังเมืองนครสวรรค์ ที่เชื่อว่ามีสัมพันธ์ฉาวกับอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ เบื้องต้นพบว่า มีบ้านหลังใหญ่ในพื้นที่ อ.เมืองนครสวรรค์ 2 หลัง รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีดำ สร้อยคอทองคำ สร้อยเพชร และแหวนเพชรอีกหลายรายการ รวมไปถึงที่ดินในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย อีก 1 ผืน ปัจจุบันทราบว่า ที่ดินผืนนี้ยกให้กับหมอดูชื่อดังรายหนึ่งในพื้นที่ จ.ลำพูน ทั้งหมดเป็นข้อมูลทรัพย์สินเบื้องต้น ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดภาพใส่วิก–เขียนคิ้วใส่ชุดไปรเวตมีรายงานข่าวอีกว่า แม้พยานหลักฐานที่ผู้ร้องเรียนส่งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีคลิปหรือภาพลับโลดโผน แต่มีหลายภาพเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง อาทิ ภาพหน้าจอโทรศัพท์มือถือขณะอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ กำลังวิดีโอคอลพูดคุยกับเศรษฐินีคนดังกล่าวเวลากลางคืน รวมไปถึงภาพถ่ายคู่กันภายในห้องสองต่อสองหลายภาพ ภาพดังกล่าวเผยให้เห็นฝ่ายชายแต่งกายเป็นฆราวาส สวมเสื้อคอปก สวมวิกผมอำพรางศีรษะ รวมถึงเขียนคิ้วเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต นอกจากนี้ยังมีบางภาพถอดเสื้อถูกเศรษฐินีกอดคอ ภาพหลักฐานมีหลายช่วงเวลา เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแตกต่างกันทำให้เชื่อว่าทั้งอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และเศรษฐินีสาว อยู่กินกันฉันสามีภรรยาความแตกเพราะทำตัวเจ้าชู้สำหรับมูลเหตุสำคัญนำไปสู่การเปิดโปงเรื่องฉาว คาวผ้าเหลืองของพระชั้นธรรมรายนี้ เนื่องจากช่วง 1-2 ปีหลังมานี้ เศรษฐินีคนดังกล่าวเริ่มจับได้ว่า ฝ่ายชายไปติดพันสีกาคนใหม่ ทำให้ไม่พอใจ มักแสดงท่าทีหึงหวงอย่างออกนอกหน้า รวมถึงนำเรื่องราวไปบอกเล่าให้ผู้อื่นฟัง จนทำให้คนรอบข้างหรือชาวบ้านเริ่มรับรู้พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของทั้งสองคน จนส่งเรื่องร้องเรียนไปตามหน่วยงานต่างๆ แต่ปรากฏว่าเรื่องเงียบหายไป จนกระทั่งมีผู้นำเรื่องมาร้องเรียนตำรวจ บก.ปปป.ดำเนินการดังกล่าวผบก.ปปป.ส่งทีมตรวจการเงินเวลา 17.20 น. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงกรณีอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณตัดสินใจลาสิกขาช่วงดึกคืนที่ผ่านมา ว่า พรุ่งนี้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศานุวงศ์ คงคาอินทร์ ผกก.4.บก.ปปป.นำกำลังร่วมกับ ป.ป.ท. รวมทั้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ร่วมตรวจสอบบัญชีการเงินที่พุทธอุทยานนครสวรรค์ วัดนครสวรรค์ รวมทั้งที่ทำงาน เพื่อคลี่คลายเรื่องดังกล่าวให้กระจ่างโดยเร็วผอ.พศ.ให้ตำรวจตรวจสอบเรื่องเงินที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.พศ. กล่าวว่า การลาสิกขาของพระธรรมวชิรธีรคุณ เป็นการดำเนินการของคณะสงฆ์ทันทีที่ทราบเรื่อง ส่วนเรื่องคดีความกรณีการสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า ได้รับข้อมูลจากวัดนครสวรรค์ว่า การก่อสร้างพุทธอุทยานนครสวรรค์ที่เกิดความล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องคดีความกับผู้รับเหมา แต่หลังจากทางวัด ชนะคดีแล้ว ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างต่อทันทีเพิ่มอำนาจ พศ.มีบทบาทดูแลเงินวัด “ส่วนเรื่องการจัดระเบียบบัญชีทรัพย์สินของวัด ตามที่ประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) มีมติเรื่องแนวปฏิบัติการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร การเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคารของวัด และแนวทางการจัดทำบัญชีรายรับ บัญชีรายจ่าย รายงานเงินคงเหลือของวัด หรือระบบบัญชีมาตรฐานของวัด ทั้งให้ดำเนินการตามกฎกระทรวง การดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด 2564 ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ วันที่ 1 ต.ค.2568 เป็นต้นไปนั้น ในการประชุม มส.วันที่ 21 ก.ค.นี้ จะนำแนวทางการเพิ่มความเข้มงวดการจัดการบัญชีทรัพย์สินวัด เพิ่มบทบาทหน้าที่ พศ.เข้าไปร่วมดำเนินการเรื่องดังกล่าวมากขึ้น เข้าหารือด้วย เพื่อให้ มส.พิจารณาต่อไป” ผอ.พศ.กล่าวมีปัญหาเพราะตัดทางโลกไม่ขาดนิด้าโพล เปิดเผยผลการสำรวจประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,310 หน่วย เรื่อง “วิกฤติพระพุทธศาสนา!” ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ค. ถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน ร้อยละ 76.11 ระบุว่าพระสงฆ์จำนวนหนึ่งตัดไม่ขาดจากทางโลก ทำให้มีข่าวฉาวเป็นประจำ เช่น เสพยาบ้า ดื่มสุรา เล่นการพนัน ยุ่งสีกา รองลงมาร้อยละ 45.95 ระบุหลงในลาภ ยศ สรรเสริญและตำแหน่งทางสงฆ์ ร้อยละ 45.80 ระบุหลงในวัตถุนิยมหรือบริโภคนิยม ร้อยละ 40.00 ระบุออกบวชเพราะมองว่าพระคืออาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ ร้อยละ 29.16 ระบุวัดบางแห่งมีความเป็นพุทธพาณิชย์ ร้อยละ 27.63 ระบุวัดบางแห่ง มีการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ไม่โปร่งใสเห็นด้วยโทษจำคุกทั้งพระและสีกาด้านความศรัทธาของประชาชนต่อศาสนาและพระสงฆ์จากกรณีข่าวฉาวของพระสงฆ์พบว่า ความศรัทธาในพระสงฆ์ ร้อยละ 58.40 ลดลง และร้อยละ 41.60 เท่าเดิม ความศรัทธาในศาสนาพุทธ ร้อยละ 68.55 เท่าเดิม และร้อยละ 31.45 ลดลง ถามถึงร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาที่กำหนดโทษจำคุก ปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ พระสงฆ์และหรือฆราวาสที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กลุ่มตัวอย่างระบุอยู่ในเกณฑ์เห็นด้วยมากทุกด้าน ทั้งพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติปาราชิก หรือประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัย ร้อยละ 80.76 หญิงหรือชายสมัครใจเสพเมถุนกับพระภิกษุหรือสามเณร ร้อยละ 78.17 พระสงฆ์อวดอุตริมนุสธรรม ร้อยละ 68.63 ผู้ทำการล้อเลียน ดูหมิ่น ทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญของพระพุทธ ศาสนา ร้อยละ 64.35 ผู้กล่าวหาพระสงฆ์ให้มีมลทินโดยไม่มีหลักฐาน ร้อยละ 62.44หน่วยงานตำรวจปกป้องศาสนาซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 1,143 คน เรื่องปกป้องศาสนาและศรัทธาของประชาชน ระหว่างวันที่ 16- 19 ก.ค.พบว่า หน่วยงานรัฐที่ช่วยปกป้องศาสนาและศรัทธาของประชาชน ระบุ ร้อยละ 80.1 ตำรวจมากที่สุด ด้านความพึงพอใจต่อการจัดระเบียบ ขจัดมารศาสนา ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน ร้อยละ 78.5 พอใจต่อการจับกุมพระ นักบวช ที่มีความสัมพันธ์ทางเพศต้องห้ามทางศาสนา ส่วนบุคคลที่ประชาชนชื่นชอบมากที่สุดในบทบาทจัดการพระทำผิด มั่วสีกา เงินวัด ร้อยละ 74.6 ระบุ บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ตำรวจที่กล้าหาญ มีผลงานตรงไปตรงมา ต้นแบบตำรวจน้ำดี หวังฟื้นฟูศรัทธาของประชาชนต่อพระพุทธศาสนา และด้านความต้องการในการจัดระเบียบขจัดมารศาสนา ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน ร้อยละ 91.5 ระบุว่า ควรเพิ่มบทลงโทษพระสงฆ์ นักบวช ให้หนักกว่าความผิดของคนทั่วไปหลายเท่าอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่ทิดสฤษดิ์