"แผ่นดินไหว" ในทะเลอันดามัน ใกล้ "เกาะสุมาตรา" ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองและมีความน่ากังวลสำหรับประเทศไทย แต่ด้วยการพัฒนาและลงทุนในระบบเตือนภัย การให้ความรู้ประชาชน การซ้อมแผนอย่างต่อเนื่องและความร่วมมือระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการบริหารจัดการความเสี่ยงและลดผลกระทบจากภัยพิบัติได้ดีขึ้นมาก ความน่ากังวลจึงเปลี่ยนเป็นความท้าทายที่ต้องรับมือด้วยความไม่ประมาทและที่สำคัญคือ...ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อความปลอดภัยและยั่งยืนของประเทศไทย“ระบบเตือนภัยสึนามิ”...มีการติดตั้งทุ่นตรวจจับคลื่นสึนามิในทะเลและเครือข่ายสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สามารถตรวจจับ แจ้งเตือนภัยได้รวดเร็วขึ้น ถัดมา... “การอพยพและซ้อมแผน”...มีการกำหนดเส้นทาง จุดอพยพในพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงการซ้อมแผนอพยพเป็นประจำเพื่อให้ประชาชนมีความคุ้นเคย สามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง และ “การให้ความรู้ประชาชน”...เกี่ยวกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ สามารถเตรียมพร้อมรับมือได้ อีกเรื่องที่สำคัญคือ“มาตรการก่อสร้างอาคาร”...มีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมอาคารให้มีการออกแบบและก่อสร้างเพื่อต้านทานแผ่นดินไหวในพื้นที่เสี่ยง ข้างต้นเหล่านี้จะทำให้ความน่ากังวลลดลงและสามารถรับมือได้ดีขึ้น “ทะเลอันดามัน” โดยเฉพาะบริเวณใกล้เคียงกับเกาะสุมาตรา เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2547 ที่ก่อให้เกิด “สึนามิ” ร้ายแรงคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยยังคงเป็นภาพจำที่สร้างความตระหนักถึงภัยธรรมชาติในภูมิภาคนี้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีคำถามที่ยังคงวนเวียนอยู่ในใจหลายคนคือ “แผ่นดินไหวในทะเลอันดามันใกล้เกาะสุมาตรา น่าห่วงสำหรับประเทศไทยหรือไม่?”สาเหตุและความรุนแรงของแผ่นดินไหวในภูมิภาคนี้ทะเลอันดามันตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนที่สำคัญและซับซ้อนหลายแนว รอยเลื่อนหลักที่รับผิดชอบต่อแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในภูมิภาคนี้คือ “รอยเลื่อนสุมาตรา–อันดามัน” ซึ่งเป็นจุดที่แผ่น เปลือกโลกอินเดีย-ออสเตรเลียมุดตัวลงใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซียการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกเหล่านี้ก่อให้เกิดการสะสมพลังงานมหาศาล และเมื่อพลังงานดังกล่าวถูกปลดปล่อยออกมาก็จะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นความรุนแรงของแผ่นดินไหวจะวัดจากมาตราริกเตอร์หรือมาตราโมเมนต์แมกนิจูด โดยแผ่นดินไหวที่มีขนาดตั้งแต่ 7.0 ขึ้นไป ถือเป็น “แผ่นดินไหวขนาดใหญ่” และมีศักยภาพในการก่อให้เกิด “สึนามิ” ได้หากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ใต้ทะเลและมีความลึกไม่มากนักเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 12.33 น. ขนาด 5.2 ในทะเลอันดามัน ตอนเหนือของหมู่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย แม้จะไม่มีรายงานผลกระทบต่อไทย แต่ก็สร้างความกังวลในช่วงเวลานั้นตอกย้ำประเด็นการเกิดแผ่นดินไหวในทะเลอันดามันใกล้เกาะสุมาตราและผลกระทบถึงประเทศไทย...น่าห่วงหรือไม่? อาจารย์สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อม บอกว่า เกาะสุมาตราประเทศอินโดนีเซียตั้งอยู่ใกล้พื้นที่วงแหวนแห่งไฟ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีรอยเลื่อนและมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้บ่อยครั้ง อยู่ห่างจากภาคใต้ของประเทศไทยประมาณ 400–500 กิโลเมตร จึงเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และเล็กบ่อยครั้ง อาจมีผลกระทบต่อภาคใต้ของประเทศไทยได้ โดยเฉพาะ...คลื่นสึนามิ“เกาะสุมาตราตั้งอยู่บนขอบของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียโดยมีแผ่นเปลือกโลกอินเดียมุดลงอยู่ใต้แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่...ได้เมื่อแผ่นเปลือกโลกด้านล่าง (อินเดีย) เคลื่อนตัวลงอย่างช้าๆ (ยูเรเซีย) ก็จะดึงแผ่นเปลือกโลกด้านบนลงมาด้วย...ทำให้แผ่นพื้นผิวดินด้านบนเสียรูปและเกิดแรงกดทับจากน้ำทะเล (หากอยู่ในมหาสมุทร) หรือจากพื้นผิวดิน (หากอยู่บนบก) เมื่อแรงกดทับสะสมจนเกินแรงเสียดทานที่ล็อกไว้ แผ่นเปลือกโลกทั้งสองจะแยกออกจากกันอย่างกะทันหันและแผ่นเปลือกโลกด้านบนจะเลื่อนกลับ...การเคลื่อนที่อย่างกะทันหันนี้ก่อให้เกิดแผ่นดินไหว”กรณีการเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทร หากแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใกล้ร่องลึกยุบตัวลงในขณะที่แผ่นดินด้านในยกตัวสูงขึ้นอย่างกะทันหันซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ของเปลือกโลกในแนวดิ่ง จะทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ได้ ซึ่งการจะเกิดคลื่นสึนามิได้จะต้องมีแผ่นดินไหวขนาดตั้งแต่ 7.0 ขึ้นไปวันที่ 4 มิถุนายนถึง 4 กุมภาพันธ์ 68 เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กถึงปานกลางในทะเลอันดามัน 22 ครั้ง สูงสุดคือที่ 5.4 ที่ความลึกประมาณ 10 กิโลเมตร เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปในประเทศที่อยู่ใกล้วงแหวนแห่งไฟ ลักษณะเป็น... “กลุ่มแผ่นดินไหว”แต่...ไม่ได้เป็นสัญญาณว่าภูเขาไฟใต้ทะเลกำลังจะปะทุพุ่งเป้าไปที่รอบของการเกิดอุบัติเหตุซ้ำในการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 9.0 ขึ้นไป เหมือนที่เคยเกิดแผ่นดินไหวที่ใกล้เกาะสุมาตราและมีคลื่นสึนามิขนาดใหญ่เคลื่อนถึงจังหวัดภูเก็ตในปี 2547 เราต้องใช้เวลาถึง 400 ปีขึ้นไป...แต่การเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กที่เกาะสุมาตราซึ่งต่ำกว่า 7.0 ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่คงไม่เกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ถึงประเทศไทย ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตูม...เฝ้าระวังอย่าประมาท.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม