รัฐบาลเตือนสถานการณ์โรคฝีดาษลิงปีนี้ไม่ได้มีการระบาดมากกว่าปีกลายแต่ควรระวังการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่คุ้นเคย แนะสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง หากมีประวัติเดินทางจากแถบแอฟริกา ขอให้เข้ารับการตรวจ หมั่นสังเกตอาการ ขณะที่หนุ่มไทย วัย 40 ปี ในเชียงใหม่ ที่พบติดเชื้อรายล่าสุด อาการดีขึ้น ผื่นตามตัวแห้ง ไม่มีอาการอื่นที่น่าเป็นห่วง ส่วนคนในครอบครัวคนใกล้ชิด ทุกคนปลอดภัยดีจากกรณีไทยพบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง (Mpox) เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดโรคฝีดาษลิงในประเทศไทยว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่าภาพรวมของฝีดาษลิง แนวโน้มปี 2568 ไม่ได้มีการระบาดมากกว่าปี 2567 จะเป็นแบบมีรายงานบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ซึ่งข้อมูลล่าสุดพบผู้ป่วยฝีดาษลิงสะสมแล้ว จำนวน 40 คน ขณะที่ปี 2567 มีผู้ป่วยจำนวน 176 คน และในปี 2566 มีผู้ป่วยจำนวน 676 คน ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมมีจำนวน 13 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสะสมตั้งแต่พบโรคฝีดาษลิงนายอนุกูลกล่าวว่า ถึงแม้แนวโน้มการพบผู้ป่วยของฝีดาษลิงจะลดลง ยังไม่ถึงกับเป็นการระบาด ซึ่งมักจะพบได้ในกลุ่มเสี่ยง รัฐบาล โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ติดตาม และเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากสายพันธุ์ในประเทศไทยไม่ได้รุนแรง จึงต้องเฝ้าระวังสายพันธุ์จากต่างประเทศ ทั้งนี้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงการสวมถุงยางอนามัยจะช่วยป้องกันได้มาก ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ทั้งเอชไอวี และซิฟิลิส ซึ่งปัจจุบันพบซิฟิลิสมีการระบาดมากขึ้น“รัฐบาลย้ำเตือน แนะนำ 5 วิธีป้องกันตัวเองจากฝีดาษลิง โดยสามารถป้องกันตนเองได้ด้วยวิธีได้แก่ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการผื่นหรือตุ่มที่ผิวหนัง ระมัดระวังการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่คุ้นเคย เนื่องจากเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น หากมีประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบแอฟริกากลาง แอฟริกาตะวันออก และตะวันออกกลาง ทั้งนี้ เมื่อต้องเข้ารับการตรวจ หากท่านเข้ารับการตรวจหาเชื้อและอยู่ระหว่างรอผลตรวจ ขอแนะนำให้แยกของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน ใช้ภาชนะอาหารและของใช้ส่วนตัวแยกจากผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น” นายอนุกูลระบุขณะที่เว็บไซต์กรมควบคุมโรค ระบุผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในไทยจนถึงปัจจุบัน เมื่อแบ่งตามกลุ่มเชื้อชาติ พบเป็นคนไทยมากสุด ส่วนอาการที่พบบ่อยสุดได้แก่ มีผื่น มีไข้ และปวดกล้ามเนื้อส่วนกรณีพบผู้ป่วยฝีดาษลิง พื้นที่ จ.เชียงใหม่ 1 ราย เมื่อต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นชายไทย อายุ 40 ปีนั้น เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าอาการป่วยของผู้ป่วยรายดังกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วยอาการดี ผื่นต่างๆ แห้งแล้ว ไม่มีอาการอื่นๆ ที่น่าเป็นห่วง ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ คนในครอบครัวและคนใกล้ชิดนั้น ทุกคนปลอดภัยดี ไม่มีอาการบ่งชี้ใดๆ สำหรับสถานการณ์ของโรคฝีดาษลิง ในจังหวัดเชียงใหม่นั้น มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบัน รวม 26 ราย เฉลี่ยพบประปรายปีละ 5 ราย สำหรับปี 2568 มีรายงานพบผู้ป่วยตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 12 ก.ค.2568 จำนวน 4 ราย ส่วนสายพันธุ์ที่พบคือ สายพันธุ์ Clade II ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่