การที่ตำรวจสากลให้ความสนใจในคดีแฮกเกอร์คนสำคัญทำให้ พ.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธ์ ผกก.1 บก.ปอท.ได้ก้าวขึ้นสู่เวทีเดียวกับประเทศที่มีทรัพยากรเทคโนโลยีระดับสูง และสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นใจการที่นายตำรวจหนุ่มได้รับเกียรติให้เป็นตัวแทนขึ้นบรรยาย ไม่เพียงสะท้อนความสามารถของบุคคล ยังสะท้อนภาพรวมของหน่วยงานที่มีระบบการทำงานเข้มแข็ง มีผู้นำที่มองการณ์ไกล ท่ามกลางเครือข่ายระหว่างประเทศที่ได้รับการสั่งสมมาอย่างต่อเนื่องเมื่อเรื่องราวของคดี Omid16B ถูกเผยแพร่ต่อเวทีโลก จุดประกายให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศนำไปใช้แนวทางแบบเดียวกับประเทศไทยเช่น การสร้างทีมปฏิบัติการเฉพาะกิจระหว่างประเทศ (Joint Cyber Task Force) การจัดเวิร์กช็อปประจำปีเพื่อแลกเปลี่ยนเทคนิคการสืบสวนทางไซเบอร์ และการใช้กลไกสนธิสัญญาเพื่อขอข้อมูลในเวลาจำกัดเพื่อให้ทันต่อภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ที่เคลื่อนไหวรวดเร็วกระแทกแรงบันดาลใจให้ประเทศอื่นๆ ว่า การเป็นส่วนหนึ่งของการ “สู้ภัยไซเบอร์” ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการมีเครื่องมือแพงที่สุด แต่ต้องเริ่มจากการมี “ระบบที่ดี” และ “มีคนที่พร้อมเรียนรู้” รวมถึงความร่วมมือพ.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธ์ ผู้สืบสวนคดีตั้งแต่ต้นกลายเป็นคนไทยคนแรกที่ขึ้นเวทีโลก บอกเล่าเรื่องราวของ ตำรวจไทยให้ตัวแทนหลายประเทศรับฟัง“อาชญากรรมไซเบอร์ไม่รู้จักพรมแดน แต่ความร่วมมือไม่ควรถูกจำกัดด้วยพรมแดนเช่นกัน” พ.ต.อ.ภานุภัทรทิ้งท้ายกลางที่ประชุมไม่ใช่แค่การจับแฮกเกอร์ แต่เป็นเครื่องหมายการันตีว่า นักสืบจากไทยสามารถยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ.สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม