ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่าย 5 เว็บพนันออนไลน์ ค้น 10 จุดใน จ.สงขลา และ จ.น่าน ตรวจยึดทรัพย์ รถหรู นาฬิกา เครื่องประดับและเงินรวมกว่า 360 ล้านบาท มีสมาชิกร่วม 3 หมื่นคน เงินหมุนเวียนต่อเดือนกว่า 60 ล้านบาท อีกรายตำรวจกองปราบและ บก.ปอท.รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนและสมาชิกรวม 6 คน ตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 30 ล้านบาท หลังตุ๋นเหยื่อให้ลงทุนไฮบริดสแกมสูญเงินไปกว่า 22.4 ล้านบาทตำรวจทลายเครือข่ายเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 5 ก.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สกพ. ปฏิบัติราชการรอง ผบช.สอท. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 ร่วมกันแถลงผลเปิดปฏิบัติการ “FINAL BET” บุกทลายเครือข่าย 5 เว็บพนันออนไลน์รายใหญ่มีสมาชิกร่วม 30,000 คน พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 60 ล้านบาทต่อเดือนตรวจยึดทรัพย์สินกว่า 360ล้านบาทพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช. สอท. กล่าวว่า ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กำชับการปฏิบัติให้ บช.สอท.เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ทุกรูปแบบ สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 หรือ UEFA EURO 2024 บช.สอท.ดำเนินการแกะรอยหาผู้กระทำผิดมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพบเว็บไซต์ที่เปิดให้เล่นการพนันจำนวน 5 เว็บไซต์ ประกอบด้วย เว็บไซต์ 4dking. club, 88lotto.club, mawin8s.com, huay-dd.com และ viphuay88.comต่อมาตำรวจชุดสืบสวน กก.วิเคราะข่าวฯ บก.สอท.2 ลงพื้นที่หาพยานหลักฐานจนพบความเชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องผู้กระทำผิด รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาและศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายค้นเป้าหมายจำนวน 10 จุด ในพื้นที่ จ.สงขลา 9 จุด และ จ.น่าน 1 จุด ประกอบด้วยจุดแรกค้นห้องแถวในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 2 บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 3 บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 4 คอนโดมิเนียมห้องเลขที่ 36 ถ.ปุณณกัณฑ์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 5 คอนโดมิเนียม ห้องเลขที่ 26 ถนนปุณณกัณฑ์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 6 คอนโดมิเนียม ห้องเลขที่ 99 ถ.กาญจนวนิช ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 7 ห้องพักเลขที่ 346 ในคอนโดมิเนียม ถนนกาญจนวนิช ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 8 ห้องพักเลขที่ 347 ในคอนโดมิเนียม ถนนกาญจนวนิช ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จุดที่ 9 ห้องพักเลขที่ 348 ในคอนโดมิเนียม ถนนกาญจนวนิช ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจุดที่ 10 บ้านพักในพื้นที่ ต.ท่าน้าว อ.ภูเพียง จ.น่านผลการตรวจค้นทั้ง 10 จุด ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด ประกอบด้วยเงินสดกว่า 39 ล้านบาท แคชเชียร์เช็ค 20 ฉบับมูลค่ารวม 66.8 ล้านบาท ทองคำแท่ง 99.99% หนักรวม 10 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 28 ล้านบาท กองทุนรวมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท เงินในบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องมูลค่ากว่า 63 ล้านบาท รถยนต์ 7 คัน และรถ จยย. 1 คัน อาทิ รถสปอร์ต AUDI R8 รถโตโยต้า อัลพาร์ต 2 คัน รถ BMW X4 รถเบนซ์ C350E AMG รถมาสด้า 2 และรถอีซูซุ นิวเอ็กซ์ รวมมูลค่ากว่า 33 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาหรู 9 เรือน อาทิ PATEK PHILLIPE, ROLEX, AUDEMARS PIGUET, GUCCI มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท เครื่องประดับ ทองรูปพรรณ และกระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนหลายรายการมูลค่า 8 ล้านบาท พระเครื่องจำนวนมากมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โมเดล Art Toy มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท สมุดบัญชี 368 เล่ม บัตรกดเงิน 327 ใบ โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต 55 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง รวมทรัพย์สินที่ยึดได้ทั้งหมดมูลค่ากว่า 360 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าทั้ง 5 เว็บไซต์ มีสมาชิกผู้เล่นรวมกันร่วม 30,000 คน ยอดเงินหมุนเวียนกว่า 60 ล้านบาทต่อเดือนหรือกว่า 720 ล้านบาทต่อปีตำรวจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 11 ราย ประกอบด้วย 1.นายโกเมศ จิตประวัติ อายุ 42 ปี 2.น.ส.พิชญ์ชลัช พิชญ์ธราวัฒน์ อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของเว็บและเป็นผู้รับผลประโยชน์จากธุรกิจเว็บพนันมานานกว่า 2 ปี 3.น.ส.จุรี จิตติ อายุ 63 ปี 4.นางมาลี ผดุงศักดิ์ อายุ 62 ปี 5.นายธีระยุทธ แสงทอง อายุ 42 ปี 6.น.ส.สุมนทิพย์ ชำนาญศิลป์ อายุ 56 ปี 7.น.ส.สุพัตร ยอดแก้ว อายุ 32 ปี 8.น.ส.กนกวรรณ มงคลบุตร อายุ 33 ปี 9.นายวรธิวา แซ่ฝุ่ง อายุ 43 ปี 10.นายวิวัฒน์ สุขประชา อายุ 57 ปี และ 11.นายวรวุธ มงคลบุตร อายุ30ปี ทำหน้าที่แอดมินและกดเงินแจ้งข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงินอีกราย ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภานุภัท กิตติพันธ์ ผกก.1 บก.ปอท. พ.ต.ท.พรเสกข์ เชาวสันต์ สว.กก.1 บก.ปอท. ร.ต.อ.กษิดิศ ดิลกคุณานันท์ รอง สว.กก.1 บก.ปอท. นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย และโฆษกประจำ ปปง. นายอนุรักษ์ บุญแสวง อดีตนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) นายปริญญา เธียรวร นักลงทุนร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ Lock Star” เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชียงราย นนทบุรี และปทุมธานีสำหรับการจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์ ไฮบริดสแกม (Hybrid Scam) ตั้งแต่ระดับหัวหน้าเครือข่ายที่มีหน้าที่ควบคุมสั่งการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคนที่ดูแลเรื่องฟอกเงิน 6 ราย ประกอบด้วยนายจีเว่ย เกา อายุ 29 ปี และนายจู เฉิน อายุ 28 ปี ทั้งคู่เป็นชาวจีนเป็นผู้บริหารจัดการและแปรสภาพทรัพย์สิน พร้อมชายไทย 2 ราย หญิงไทย 2 ราย ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, สมคบฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงินพล.ต.ต.อธิปกล่าวว่า บก.ปอท.รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้ลงทุนสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) ผ่านเว็บไซต์ชื่อ Tidex เป็นแอปพลิเคชันที่ปลอมขึ้นมาทั้งหมด อ้างให้ผลตอบแทนสูงมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อหลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปฯ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาคนร้ายจะอัปเดตยอดเหรียญดิจิทัลที่แสดงในแอปฯทุกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนที่โอนเข้าไป ทำให้ดูน่าเชื่อถือหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปเพิ่มอีก เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงินออกมา กลุ่มคนร้ายจะทำทีแจ้งว่าไม่สามารถทำได้ อ้างติดปัญหาเรื่องภาษี ก่อนหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไปเพิ่มอีก ด้วยความที่อยากได้เงินกลับคืนจึงยอมทำตามกลายเป็นสูญเงินเพิ่มขึ้นไปอีก รวมยอดเงินที่โอนเข้าไป 7 ครั้ง มูลค่ากว่า 22.4 ล้านบาทพ.ต.อ.ภานุภัทร กิตติพันธ์ ผกก.1 บก.ปอท. กล่าวว่า หลังรับเรื่องเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนร้ายกลุ่มนี้พบว่า หลังเหยื่อโอนเงินเข้ามาคนร้ายจะนำเงินดังกล่าวไปซื้อเหรียญดิจิทัลแล้วโอนต่อไปยังกระเป๋าเหรียญดิจิทัลส่วนตัว หรือ Private wallet กว่า 20 กระเป๋า เพื่อเลี่ยงถูก ตรวจสอบ จากนั้นจะโอนเหรียญดิจิทัลไปรวมที่กระเป๋าเหรียญดิจิทัลกลางของคนร้าย ก่อนที่จะเทขายเหรียญดิจิทัลเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินบาทไทย แนวทางการสืบสวนพบว่าคนร้ายกลุ่มนี้ทำกันในรูปแบบขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ตั้งแต่หัวหน้าทำหน้าที่สั่งการ, กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ทำหน้าที่ติดต่อพูดคุยและหลอกลวงเหยื่อ, กลุ่มนายหน้าจัดหาบัญชีม้า และกระเป๋าวอลเล็ตม้า รวบรวมบัญชีต่างๆ นำไปมอบให้กับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์, กลุ่มบัญชีม้าและกระเป๋าวอลเล็ตม้าทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีและกระเป๋าเงินดิจิทัล และกลุ่มที่ทำหน้าที่ฟอกเงิน นำเงินที่ได้มาจากการฉ้อโกงไปซื้อทรัพย์สินมีค่าและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆพ.ต.ท.พรเสกข์ เชาวสันต์ สว.กก.1 บก.ปอท. กล่าวเสริมว่า หลังสืบทราบรวบรวมพยานหลักฐานการกระทำผิดจนแน่ชัด ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งคนจีนและคนไทย ที่เป็นกลุ่มระดับสั่งการ, ผู้บริหารดูแลเรื่องฟอกเงิน และรับผลประโยชน์จำนวน 6 ราย จนนำมาสู่การตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย พร้อมตรวจยึดบ้านหรู 1 หลัง มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท, รถยนต์ 2 คัน, รถจักรยานยนต์ 2 คัน, เงินสดกว่า 4 ล้านบาท, สร้อยคอทองคำ, นาฬิกาหรู, กระเป๋าแบรนด์เนม, คอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ก, โทรศัพท์มือถือ และเหรียญดิจิทัลสกุลต่างๆ มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่