พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวหน้าฝนอุ่นใจ สุขภาพไทยปลอดโรค โดยกรมควบคุมโรค ว่า โรคที่คาดว่าจะเพิ่มสูงในช่วงฤดูฝน ได้แก่ 1.โรคไข้หวัดใหญ่ โดยกลุ่มเด็กอายุ 0-4 ปี ป่วยมากที่สุด สายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่พบคือ สายพันธุ์เอ และอาจจะระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียน เรือนจำ ค่ายทหาร วัด มัสยิด2.โรคโควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น สายพันธุ์ที่ระบาดคือ JN.1 ซึ่งรอบนี้จะพบเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 4 ปีป่วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีอาการไข้สูงและเชื้อลงปอดได้เร็ว อาการอาจรุนแรงได้ ดังนั้น เราต้องป้องกันเด็กเล็กโดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 1 ปีไม่ควรพาไปในที่คนหนาแน่น3.โรคไข้เลือดออก ปี 67 พบผู้เสียชีวิตแล้ว 36 คน และจะพบผู้ป่วยสูงสุดเดือน ก.ค. ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยเรียน อายุ 5-14 ปี แต่ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว ดังนั้น ต้องทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายทุก 7 วัน“นอกจาก 3 โรคดังกล่าวแล้ว โรงเรียนยังต้องระวังโรคมือเท้าปาก โรคอาร์เอสวี โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน ซึ่งมีแนวโน้มระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงเรียนและค่ายลูกเสือ ดังนั้น อาหารโรงเรียนต้องสะอาด โดยเฉพาะนมโรงเรียนต้องเก็บรักษาอุณหภูมิที่ถูกต้อง” พญ.จุไรกล่าวและว่า นอกจากนี้ยังต้องระวังโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งปีนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 คน ซึ่งถูกสุนัขข่วนเป็นแผลถลอกแต่ไม่ไปพบแพทย์ ดังนั้น กรณีถูกสุนัข แมวข่วนแม้จะมีแผลเล็กน้อยควรพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เพราะโรคนี้ป้องกันได้ด้วยวัคซีน แต่หากป่วยขึ้นมาเมื่อใดก็เสียชีวิตขณะที่ นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับโรคฝีดาษวานรต้อง จับตามองเป็นพิเศษ โดยปี 2565-2567 พบผู้ป่วยแล้ว 794 คน เสียชีวิต 11 คน ทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยและยังไม่ได้รับการรักษามาก่อน คำแนะนำคือ หลีกเลี่ยงสัมผัสผู้สงสัยว่าเป็นฝีดาษวานร หลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก ไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ส่วนโรคไข้หวัดนก ซึ่งไทยไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดนกมาตั้งแต่ปี 2549 อย่างไรก็ตาม กรณีพบผู้ป่วยไข้หวัดนกที่ติดเชื้อจากโคนม 3 คนในสหรัฐ อเมริกานั้น ไทยกำลังติดตามและเฝ้าระวัง.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่