เรื่องราวเหยื่อหญิงสาวคิดกระโดดตึกชั้น 4 เพื่อฆ่าตัวตายหนีปัญหา หลังถูก “ไฮโซโจ” นักธุรกิจเจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดังบุกเข้าข่มขืนในบ้านพัก พร้อมคำพูดข่มขู่ ตัดสินใจกระโดดตึกชั้น 4 หวังจากลาโลกร่างไร้สติอยู่ในอาการครึ่งเป็นครึ่งตายอยู่ในห้อง ICU หลังจากทุกข์ทรมานดำดิ่งอยู่กับภาพจำที่สุดเลวร้ายจากการถูก “ไฮโซโจ” ย่ำยีพร้อมคำพูดที่ยังตามหลอกหลอน ไม่สามารถสลัดออกจากจิตใจเธอได้กว่า 4 วันเรื่องเลวร้ายได้เกิดขึ้นพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. จับกุม นายวชิรวิชญ์ ศิริโชควณิชย์ หรือโจ อายุ 42 ปี เจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดัง ได้ที่คอนโดหรูย่านลุมพินีเรื่องราวที่สุดแสนรันทดหดหู่เกิดขึ้นที่ย่านสีลม ผู้เคราะห์ร้ายพักอยู่ที่บ้านพักย่านสีลม มีไฮโซโจนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของแบรนด์ขนมกล้วยชื่อดัง และขยายกิจการมาเปิดร้านขายกัญชาอยู่ข้างบ้านที่เธอพักอาศัยไฮโซโจตกอยู่ในอาการมึนเมาในร้านขายกัญชาตัวเอง ก่อนบุกเข้าไปในห้องเหยื่อที่นอนอยู่ ลงมือล่วงละเมิดตะคอกใส่หูอย่างโรคจิตว่า “กูจะ...จนมึงตาย” เหยื่อพยายามดิ้นต่อสู้แต่ไม่สามารถสู้แรงได้เมื่อตื่นมาพบว่าไฮโซโจยังนอนหลับอยู่บนเตียง รวบรวมสติหลบหนีออกจากบ้านแจ้งความ สน.ทุ่งมหาเมฆ ขึ้นโรงพักด้วยท่าทีหวาดระแวงสุดขีด อาการเนื้อตัวสั่นเทาทำให้ ร.ต.อ.หญิง วิรัญชนา แพงคำ ร้อยเวรที่รับแจ้ง พาเข้าห้องเย็นเกลี้ยกล่อมชวนคุยหลายชั่วโมงยอมเปิดใจบรรยายเหตุการณ์ใบหน้านองน้ำตากว่า 6 ชั่วโมงสอบปากคำหดหู่ใจตำรวจหญิงผู้สอบปากคำถึงกับร้องไห้ตาม ก่อนเหยื่อตัดสินใจกระโดดลงจากชั้น 4 ฆ่าตัวตาย ตกลงชั้น 3 ร่างของกระแทกระเบียงทำให้แรงกระแทกลดลง ทำให้ยังไม่เสียชีวิตแต่อยู่ในอาการโคม่าพล.ต.ท.ธิติ สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนคดี ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับไฮโซโจ นักธุรกิจเจ้าของแบรด์ขนมกล้วยชื่อดัง ชั้นจับกุมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ยืนยันไม่ได้ข่มขืน เพราะผู้เสียหายยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเอง อ้าง “ผู้หญิงสมยอมและยอมตกเป็นโลกใบที่ 3 เอง”พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะมีความขัดแย้งกับคำให้การและพยานหลักฐานหลายประเด็น ชื่นชมพนักงานสอบสวนหญิงเกลี้ยกล่อมและบันทึกปากคำหญิงผู้เสียหายตั้งแต่แรกนี่คือพยานหลักฐานที่สำคัญมาก เพราะในตอนนี้ผู้เสียหายยังให้การหรือต่อสู้ใดๆคดีไม่ได้หน้าที่ของตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม