พิษกัญชา-น้ำกระท่อม ทำหนุ่มเพ้อสติแตกมีคนตามฆ่า คว้ามีดดาบล็อกคอพ่อบังเกิด เกล้าคาระเบียงชั้น 3 ของแมนชันย่านคลองตัน ก่อนยื้อยุดแย่งมีดผลักพ่อตกจากระเบียงลงมาบาดเจ็บ ตำรวจเข้าระงับเหตุควบคุมลูกทรพี ไม่วายถูกมีดบาดที่มือขวาเจ็บ 1 นาย หลังได้สติเจ้าตัวเอาแต่พร่ำขอโทษพ่อ อ้างเบลอเพราะอดหลับอดนอนมา 4 วันหนุ่มเมากัญชา-ดื่มน้ำกระท่อมคว้ามีดดาบ จี้คอพ่อบังเกิดเกล้า และยื้อยุดผลักดันจนตกระเบียงห้องชั้น 3 เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มี.ค. พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ว่า เมื่อสองทุ่มวันที่ 7 มี.ค. เกิดเหตุชายคลุ้มคลั่งเมาน้ำกระท่อมใช้มีดจี้คอพ่อที่บ้านเลขที่ 307 ฟาติมาแมนชั่น ซอยสุเหร่าคลองตัน แขวงและเขตสวนหลวง กทม. รุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวนและสายตรวจ สน.คลองตันที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ตเมนต์ สูง 4 ชั้น ที่ระเบียงห้องพักชั้น 3 พบนายวิศณุศักดิ์ หรือบิ๊ก ลำดวน อายุ 25 ปี สวมเสื้อยืดสีเขียว อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งในมือขวาถือมีดดาบยาว 20 นิ้ว ส่วนมือซ้ายถือโทรศัพท์มือถือ ล็อกคอนายพงษ์บดินทร์ ลำดวน อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ จนชาวบ้านไม่กล้าเข้าใกล้ได้แต่ ตะโกนขอให้ปล่อยมีด โดยนายวิศณุศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ทำทีโทรศัพท์พูดคุยกับแม่ทำนองว่าถูกคนตามฆ่า ขณะที่นายพงษ์บดินทร์ ผู้เป็นพ่อร้องขอให้ผู้ก่อเหตุปล่อย จนเกิดการยื้อฉุดกระชากมีดดาบ ก่อนนายบิ๊กจะผลักพ่อตกจากระเบียงชั้น 3 ลงมานอนบาดเจ็บอยู่ที่พื้นชั้นล่าง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบนำคนเจ็บส่ง รพ.ตร. ระหว่างนั้นตำรวจ สน.คลองตัน พบนายบิ๊กผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งภายในห้องพักชั้น 3 นำไม้ง่ามเข้าไปควบคุมตัว แต่เกิดการต่อสู้ขัดขืนทำให้ ด.ต.ทรงฤทธิ์ สุริยันต์ ตำรวจสายตรวจ สน.คลองตันถูกมีดบาดที่มือขวาบาดเจ็บ ส่วนนายบิ๊กถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.คลองตันเบื้องต้นนายวิศณุศักดิ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้ดูดกัญชากับดื่มน้ำกระท่อม ทั้งที่อดนอนมาแล้ว 4 วัน จนเกิดอาการเบลอเสียสติ ไม่รู้ว่าลงมือทำร้ายพ่อ อยากจะขอขมาพ่อและอยากให้พ่อถอนแจ้งความ หากตนติดคุกไป ลูกของตนจะอยู่กับใคร หลังจากนี้รับปากจะเลิกเสพทุกอย่าง ขอโอกาสกลับเนื้อกลับตัวด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า สอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง อ้างไม่ได้นอนมา 4 คืน ประกอบกับดื่มน้ำกระท่อมและเสพกัญชาที่ซื้อมาจากเพื่อนทำให้มีอาการหลอนและหูแว่วว่าจะมีคนมาทำร้าย นำมีดที่อยู่ภายในห้องมาทำร้ายพ่อที่พยายามเข้ามาห้ามและแย่งมีด จนตกลงมาจากระเบียงชั้น 3 ตรวจสอบประวัติและตรวจปัสสาวะ ไม่พบประวัติอาชญากรรม แต่พบประวัติการเสพกัญชาและดื่มน้ำกระท่อมมาหลายปี ส่วนผลการตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติดชนิดอื่น เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายบุพการีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ คดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้ เตรียมคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญาพระโขนงในวันที่ 9 มี.ค.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่