ไฟไหม้ชุมชนวัดบุปผาราม ครึ่งชั่วโมงวอด 15 หลัง ส่วนใหญ่เป็นบ้านเช่าทำด้วยไม้ สลดหญิงชราวัย 74 ปี วิ่งหนีไฟไม่รู้ทิศเพราะควันดำจนไม่เห็นทางตกลงไปในบ่อน้ำที่ตื้นไม่ถึง 1 ฟุต นั่งพิงตอไม้เสียชีวิต คาดสำลักควันและเกิดหัวใจวาย เจ้าหน้าที่นำส่งนิติเวชผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะเดียวกันมีผู้บาดเจ็บอีก 8 คนส่วนใหญ่ไฟลวกและสำลักควันไฟเหตุเพลิงไหม้ฝั่งธนฯมีคนตายครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มี.ค. พ.ต.ท.ศุภวุฒิ แป้นสุข สว. (สอบสวน) สน.บุปผาราม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนหลังวัดบุปผาราม ซอยอิสรภาพ 26 ถนนเทศบาลสาย 2 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร และรถดับเพลิงจากกองทัพเรือ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยธนบุรีที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัด ลักษณะเป็นบ้านเช่าไม้ชั้นเดียวปลูกติดกันหลายหลัง ห่างจาก สน.บุปผา ราม ประมาณ 100 เมตร มีทางเดินคับแคบ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องลากสายยางน้ำเข้าไปยังจุดที่เกิดเหตุพร้อมเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงประมาณ 30 นาที ควบคุมเพลิงไว้ได้หลังเพลิงสงบ ตรวจสอบพบมีบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 15 หลัง มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย เป็นหญิง 2 ราย และชาย 6 ราย ส่วนมากเกิดจากสำลักควันและไฟลวก ภายในบ่อน้ำใกล้บ้านเช่าไม่มีเลขที่พบศพนางประไพ เรียงพิมาย อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212 ใกล้กับจุดที่พบศพ เสียชีวิตลักษณะท่อนล่างแช่อยู่ในน้ำ ท่อนบนพิงอยู่กับตอไม้ คาดเสียชีวิตจากการสำลักควันและหัวใจวายจากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดขึ้นจากบ้านเช่าไม่มีเลขที่ในชุมชนแล้วเกิดเพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นบ้านไม้เก่า ส่วนนางประไพมีบ้านอยู่ติดกับบ้านต้นเพลิงและอยู่บ้านเพียงลำพัง ตกใจวิ่งหนีโดยไม่รู้ทิศ เพราะกลุ่มควันหนาจนมองไม่เห็นทาง จนกระทั่งวิ่งตกลงไปในบ่อน้ำตื้นเพียง 50 ซม. แต่ไม่สามารถไปต่อได้จนกระทั่งสำลักควันและเกิดอาการหัวใจวาย เนื่องจากนางประไพป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลศิริราชเพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไปอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่