ช็อกคาโรงเรียน นักเรียนชาย ม.2 วัย 14 ปี ก่อเหตุสลด ใช้มีดมาไล่แทงคอเพื่อนดับสยอง ระหว่างเดินแถวขึ้นห้องเรียนตอนเช้า ท่ามกลางสายตาเพื่อนนักเรียนนับร้อย ตำรวจคุมตัวสอบสวนพร้อมผู้ปกครองและสหวิชาชีพเบื้องต้น ถามตอบได้ตามปกติ ถูกแจ้ง 2 ข้อหาฉกรรจ์ไว้ก่อน แฉต้นเหตุถูกคนตายทำร้ายชกต่อยหลายครั้ง ไถเงินวันละ 20 บาท เอาไปซื้อบุหรี่ แต่พี่ชายผู้ตายไม่เชื่อมูลเหตุ ยันทางบ้านให้เงินผู้ตายมาโรงเรียนวันละ 150 บาท ไม่จำเป็นต้องไปไถใคร ตำรวจส่งผู้ก่อเหตุตรวจสภาพจิตสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ แม่ตามประกบติดกล่าว “ขอโทษ” กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กทม.ต้นสังกัดโรงเรียนเต้นล้อมคอก สั่งเข้มตรวจอาวุธก่อนเข้าสถานศึกษา พร้อมส่งนักจิต วิทยาดูแลสภาพจิตใจเด็ก ครู และบุคลากรในโรงเรียนเหตุสะเทือนขวัญเด็กนักเรียนระดับมัธยมแทงเพื่อนดับคาโรงเรียนรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 29 ม.ค. ร.ต.อ.พยัคฆ์สยาม ผู้มีศักดิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุเด็กนักเรียนถูกของมีคมแทงเข้าบริเวณคอบาดเจ็บสาหัส ภายในโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ ซอยพัฒนาการ 26 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม. รายงานผู้บังคับ บัญชาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณโดมลานกีฬาพบร่าง ด.ช.รัฐภูมิ (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2/2 สวมชุดนักเรียนนอนหงายหายใจรวยรินเลือดไหลท่วมตัว ตรวจสอบพบบาดแผลฉกรรจ์ถูกของมีคมแทงบริเวณลำคอด้านขวา 1 แผล และท้ายทอยอีก 1 แผล หัวใจหยุดเต้น หน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาลทำ CPR ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภารามแต่เสียชีวิตในที่สุดสอบสวนเบื้องต้นมือมีดรายนี้คือ ด.ช.ปวีน (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2/3 หลังเกิดเหตุครูควบคุมตัวไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบพาตัวออกจากโรงเรียนเกิดเหตุไปสอบสวนที่ สน.คลองตัน เนื่องจากผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน รีบประสานสหวิชาชีพ ผู้ปกครอง และตัวแทนโรงเรียนมาสอบสวนอย่างถูกต้องตามกฎหมายน.ส.ซานูลา ยูโซ๊ะ พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เผยว่า หลังจากนักเรียนเลิกแถวเคารพธงชาติตอนเช้ากำลังจะขึ้นห้องเรียน ตนนั่งอยู่ในป้อมได้ยินเด็กนักเรียนพูดว่า มีคนถูกแทง รีบวิ่งไปช่วยเหลือพบเด็กยืนจับบริเวณลำคอที่มีเลือดออกเต็มไปหมด รีบเอามือกดบาดแผลไว้จนเด็กค่อยๆทรุดตัวลงกลางสนามกีฬา ตอนนั้นน้องนิ่ง พูดไม่ได้เพราะเลือดไหลเยอะมาก พยายามบอกน้องว่า “อย่าหลับนะๆ” เพื่อให้มีสติตลอด ส่วนคนก่อเหตุไม่ยอมพูดจาอะไร แต่สายตาจ้องมายังน้องที่บาดเจ็บตลอด จนครูรีบมาจับแยกไว้ ตนไม่รู้ว่าเด็กทั้ง 2 คนมีปัญหาอะไรกัน รู้เพียงว่าคนก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษพัฒนาการช้า แต่เห็นยังมีเพื่อนยิ้มแย้มแจ่มใสตามปกติ ไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ที่ผ่านมาโรงเรียนมีมาตรการตรวจอาวุธนักเรียนอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าไม่ได้ตรวจทุกวันสอบถามเพื่อนนักเรียนทราบว่า เหตุเกิดขณะกำลังทยอยเดินเข้าอาคารเรียน ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตมีการหยอกล้อกันใต้อาคารเรียนฝั่งด้านหลังเวทีสนาม กีฬา คนก่อเหตุใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมาแทงเข้าบริเวณท้ายทอย 1 ครั้ง จากนั้นวิ่งไล่ตามกันมาจนล้มลงกลางลานกีฬาแล้วแทงซ้ำบริเวณคอด้านขวาอีก 1 ครั้ง ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร แต่เพื่อนๆต่างบอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กพิเศษ เคยโดนบูลลี่โดนรังแกบ่อย น่าจะเก็บกด ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนปฏิเสธ ให้ข้อมูล บอกว่าขอตรวจสอบรายละเอียดความชัดเจนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนนักเรียนหญิงชั้น ม.2/4 เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ตนเห็นขณะวิ่งไล่แทงกัน ผู้ตายพูดขณะวิ่งหนีว่า “พอแล้ว กูขอโทษ” แต่ผู้ก่อเหตุไม่หยุดวิ่งตามแทงต่อเนื่อง จนเพื่อนล้มลงนอนดิ้นอยู่กลางสนามบาส เลือดพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก เห็นเพื่อนทุรนทุรายแต่ช่วยอะไรไม่ได้ น่าสงสารมาก ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นคนกร่างๆ ชอบทำตัวคล้ายเป็นนักเลง เก็บตัวเงียบ หากไม่พอใจใครจะมีอาการโมโหจนตัวสั่นคล้ายคนอารมณ์รุนแรงและเก็บกด แต่ยังไม่เคยเห็นทำร้ายใคร ที่รู้ผู้ก่อเหตุไม่ใช่เป็นเด็กพิเศษ นอกจากนี้เคยเห็นผู้ก่อเหตุเอาช้อนมาทำเป็นมีดและยังพกมีดมาโชว์ที่โรงเรียนด้วยต่อมาเวลา 10.30 น. ผู้ปกครองที่ทราบข่าวร้ายเริ่มทยอยเดินทางมารับบุตรหลาน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ผู้ปกครองชายคนหนึ่ง เผยว่า เป็นผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.2/3 ห้องเดียวกับนักเรียนที่ก่อเหตุ ลูกชายบอกว่าอยู่ในเหตุการณ์ เห็นนักเรียนแทงกันตายแล้วโทร.บอก รู้สึกตกใจมาก รีบมารับลูกกลับบ้านเพราะกลัวว่าลูกเสียขวัญ หลังทราบว่าเด็กที่ก่อเหตุเป็นใครรู้สึกตกใจมาก เพราะว่าที่ผ่านมาลูกชายเคยเล่าให้ฟังว่า เด็กที่ก่อเหตุไม่ค่อยพูดจาหรือสุงสิงกับใคร ดูเงียบผิดปกติ ตนมักบอกลูกเสมอว่า ให้ระวัง เพราะไม่รู้ว่าเด็กที่ไม่พูดหรือเงียบแบบนี้ในใจคิดอะไรอยู่ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากนี้จะปรึกษาครอบครัวย้ายลูกออกจากโรงเรียน มองว่าไม่ปลอดภัย โรงเรียนไม่มีการตรวจอาวุธ อีกทั้งรอบโรงเรียนมักมีนักเรียนหรือวัยรุ่นตีกันประจำ ล่าสุดตนเข้าไปช่วยนักเรียนวัยรุ่นใช้มีดจี้นักเรียนด้วยกัน มองว่าโรงเรียนทราบปัญหาควรเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยมากกว่านี้ ต่อมาเวลา 12.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาที่โรงเรียนเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุสลดในโรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์ มองว่าไม่ควรเกิดขึ้น ที่ผ่านมาโรงเรียนมีนโยบายป้องกันสุ่มตรวจอาวุธ อาจไม่หมด 100 เปอร์เซ็นต์ สอบถาม ผอ.โรงเรียนพบว่าตรวจกระเป๋าวันนี้ไม่พบอาวุธมีด อาจลักลอบนำเข้ามาก่อน เบื้องต้นเร่งฟื้นฟูเยียวยาจิตใจนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนด้วยนักจิตวิทยา ส่วนตัวยอมรับว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นน่าใจหายและน่าสลดใจอย่างมาก หลังจากนี้จะดูระเบียบการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย ทราบว่าโรงเรียนมีประกัน แต่ยอมรับว่าจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มชีวิต นร. ส่วนงานศพ กทม.จะช่วยเช่นกัน มาตรการรักษาความปลอดภัยหลังจากนี้ จะนำบทเรียนที่เกิดขึ้นมาเป็นแนวทางป้องกันให้ดีขึ้นด้านนางบวรลักษณ์ แก้วกล้าปัญญาเจริญ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า โรงเรียนมีมาตรการสุ่มตรวจอาวุธนักเรียนอยู่บ่อยครั้ง แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่า เด็กผู้ก่อเหตุลักลอบนำอาวุธเข้ามาโดยแอบเอาไว้ตามมุมต่างๆของโรงเรียน หรือฝากเพื่อนคนอื่นนำเข้ามา เพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบ ส่วนประวัติเด็กผู้ก่อเหตุไม่เคยมีประวัติใช้ความรุนแรง และไม่มีประวัติการใช้กัญชา ส่วนเรื่องการพูดจาดูถูกกันไม่ทราบข้อมูล ที่ผ่านมาโรงเรียนเน้นย้ำไม่ให้ใช้ความรุนแรง ส่วนเรื่องประวัติการรักษาว่า เป็นเด็กกลุ่มพิเศษหรือไม่ ทางโรงเรียนไม่เคยมีประวัติ แต่ลักษณะนิสัยของเด็กนักเรียนคนดังกล่าวเป็นเด็กที่ชอบอยู่คนเดียวและมักเล่นเพียงลำพังมีรายงานว่า โรงเรียนจะปิดการเรียนการสอนในวันพรุ่งนี้ก่อน 1 วัน ส่วนวันนี้หากเด็กคนไหนยังไม่มีผู้ปกครองมารับ ให้อยู่ภายในโรงเรียนจนกว่าจะถึงเวลาเลิกเรียน แต่ไม่มีการเรียนการสอนที่ศาลาว่าการ กทม. นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิตจะเร่งเยียวยาต่อไป ตรวจสอบเบื้องต้น เด็กนักเรียนที่ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนชั้น ม.2 แต่อยู่คนละห้อง เด็กที่ก่อเหตุไม่ได้แจ้งว่า เป็นเด็กพิเศษ ไม่มีใบรับรองแพทย์ด้วย ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า เด็กที่ก่อเหตุถูกเด็กที่เสียชีวิตกลั่นแกล้งต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์ มีความคับแค้นใจ แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่แน่ชัด ส่วนครูผู้สอนประเมินให้ความเห็นว่า นักเรียนผู้ก่อเหตุเป็นเด็กสมาธิสั้น ไม่นิ่ง ขณะนี้ตำรวจเชิญไปสอบสวนที่โรงพักพร้อมผู้ปกครอง เพื่อตรวจสอบว่า มีพฤติกรรมเป็นเด็กพิเศษหรือไม่ นอกจากนี้ต้องตรวจสอบสาเหตุให้แน่ชัด ตรวจสอบว่าเด็กนำอาวุธมาจากไหน และวางมาตรการความปลอดภัยให้รัดกุมเข้มข้นขึ้นที่ สน.คลองตัน เวลา 15.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเด็กนักเรียนชายชั้น ม. 2 ผู้ก่อเหตุพร้อมแม่ออกจากโรงพัก เพื่อนำตัวไปตรวจสภาพจิตที่สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเด็กผู้ก่อเหตุถึงประเด็นในโลกออนไลน์แชร์แชตข้อความของบุคคลที่อ้างเป็นครูในโรงเรียน ลักษณะนักเรียนผู้ก่อเหตุเตรียมการตั้งแต่วันศุกร์ (26 ม.ค.) แต่ไม่มีมีด ไปขอเพื่อนในชั้นเรียนก็ไม่มีใครให้ ก่อนมาก่อเหตุวันนี้ นักเรียนคนก่อเหตุปฏิเสธไม่ตอบคำถาม ขณะที่แม่เด็กยกมือไหว้ ก่อนจะพูดสั้นๆว่า “ขอโทษ” จากนั้นรีบขึ้นรถไป ต่อมานายณัฐภูมินทร์ กิ่งทอง อายุ 20 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่โรงพัก กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสภาพจิตใจครอบครัวย่ำแย่ทุกคน เหตุใดผู้ก่อเหตุต้องมาแทงน้องชาย น้องเป็นเด็กร่าเริง เป็นคนสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อน ส่วนประเด็นที่ผู้ก่อเหตุให้การว่า ก่อนเกิดเหตุน้องชายและผู้ก่อเหตุขัดแย้งทะเลาะกันในห้อง อยากถามกลับว่า ขัดแย้งเรื่องอะไร ตนมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่โรงเรียนต้องปิดข่าว ไม่ให้เด็กออกมาให้ข้อมูลสื่อมวลชน หากตนมีโอกาสเจอคนก่อเหตุ อยากถามว่า แทงน้องชายเรื่องอะไร อยากรู้ต้นสายปลายเหตุว่ามันเกิดจากอะไร จากการสอบถามเพื่อนน้องชายเล่าให้ฟังว่า ทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะอะไรกันมาก่อน ทั้งคู่ยังแหย่เล่นกันตามปกติ“ส่วนที่ผู้ก่อเหตุให้การว่า น้องผมไถเงินนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อ เพราะน้องได้เงินไปโรงเรียนวันละ 150 บาทจะไปไถเงินเพื่อนทำไม ส่วนที่เผยแพร่แชตว่า ผู้ก่อเหตุเตรียมแผนมาตั้งแต่วันศุกร์ ส่วนตัวไม่ทราบ แต่ดูจากแชตน่าจะจริง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกแค้นเป็นอย่างมาก เพราะมาทำร้ายน้องชายจนเสียชีวิต” นายณัฐภูมินทร์กล่าวด้าน พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เผยหลังสอบปากคำนักเรียนผู้ก่อเหตุว่า วันนี้สอบปากคำเด็ก พยานทั้งครูที่เห็นเหตุการณ์และแม่ผู้เสียชีวิต สำหรับสาเหตุเกิดจากความคับแค้นใจ ที่ผู้ตายมักจะมาบังคับขอเงินผู้ก่อเหตุช่วงเที่ยงครั้งละ 20 บาทบนอาคารเรียน อ้างว่าจะนำไปซื้อบุหรี่ มีการชกที่ศีรษะและใบหน้า โดนแบบนี้มาประมาณ 3-4 ครั้งช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความคับแค้นใจจึงไปซื้อมีดพกติดตัวมาโรงเรียนเช้าวันนี้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปสอบปากคำพยานในโรงเรียนว่า พบเห็นพฤติกรรมแบบนี้จริงหรือไม่ เบื้องต้นแจ้ง 2 ข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีด“ยืนยันจากการสอบปากคำพบว่า พฤติกรรมของเยาวชนชายวัย 14 ปีมีสติสัมปชัญญะเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถตอบคำถามได้ชัดเจน นักจิตวิทยาและบุคคลที่ร่วมสอบปากคำลงความเห็นว่า เด็กมีสภาพจิตปกติ แต่ในทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งผู้ก่อเหตุไปตรวจสุขภาพจิตอีกครั้ง ทั้งนี้จากการตรวจปัสสาวะผู้ก่อเหตุไม่พบสารเสพติดในร่างกาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่า เคยสูบกัญชา 1 ครั้งเมื่อเดือน ก.ย. ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุไม่มีประวัติเข้าออกสถานีตำรวจเป็นประจำตามที่เป็นกระแสข่าวในโซเชียลด้วย” ผกก.สน.คลองตันกล่าวต่อมาเวลา 17.50 น. น.ส.นิภาวรรณ (สงวน นามสกุล) อายุ 45 ปี แม่ และนายณัฐภูมินทร์ (สงวน นามสกุล) อายุ 20 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่โรงเรียนนาคนาวาอุปถัมภ์ เพื่อพูดคุยกับทางโรงเรียนใช้เวลาประมาณ 30 นาที นายณัฐภูมินทร์ ออกมาเปิดเผยว่า โรงเรียนจะรับผิดชอบแต่ต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ยังคงติดใจและอยากคุยกับผู้ก่อเหตุว่าแทงน้องชายตนทำไม วันพรุ่งนี้ไปรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดทองย่านอ่อนนุช หลังจากรับศพจะเดินทางมาเชิญดวงวิญญาณที่โรงเรียนอีกครั้ง ก่อนเดินทางกลับพี่ชายผู้ตายตะโกนเรียกชื่อน้องชายให้กลับบ้าน ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ก่อนขึ้นรถตู้กลับบ้านทันทีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่