สืบนครบาลบุกล็อก “ไอ้วิน” มือยิง “น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ” พร้อมเพื่อนคู่หูสถาบันช่างเดียวกัน หลังตีเนียนหนีมาเป็นนักท่องเที่ยวคาเต็นท์ดอยปุยเชียงใหม่ คุมตัวกลับกรุงเทพฯทันที ผบ.ตร.จ่อสอบปากคำเองพรุ่งนี้ ส่วนแม่ผู้เสียชีวิตที่ถูกยิงคางานแต่งศิษย์เก่าอุเทนเมื่อปี 65 และแม่น้องหยอดถือรูปลูกชายเหยื่อรายล่าสุดบุกโรงพักขอให้ตำรวจคัดค้านประกันตัวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด แม่น้องหยอดถอดรองเท้าปรี่จะหวด “เป๊ปซี่” ขณะตำรวจกำลังคุมตัวพร้อมพวก 12 คนไปฝากขัง ศาลพิจารณาคำร้องแล้วไม่ให้ประกันตัวส่งเข้าเรือนจำทันทีกรณีตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการกวาดขยะสังคมแก๊งนักศึกษาช่างกลไล่ยิงอริต่างสถาบันที่เป็นผลพวงจากคดียิงนายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยราชมงคล ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิต และยังทำให้ น.ส.ศิรดา หรือครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกกระสุนลูกหลงเสียชีวิตไปด้วย เหตุเกิดหน้าธนาคาร ทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. เมื่อเช้าวันที่ 11 พ.ย. ต่อมาชุดสืบสวนนครบาลนำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.จับกุมผู้ต้องหาลอตแรก 9 คนได้เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ก่อน เปิดฉากกวาดจับรอบ 2 เมื่อเช้ามืดวันที่ 18 ธ.ค.ได้ผู้ต้องหาอีก 13 คน มีผู้ต้องหาสำคัญคือนายนภวุฒิ หรือวุฒิ เรืองศรี คนชี้เป้าและพาไอ้วินมือปืนกับไอ้เลาะคนขี่ จยย.หลบหนีในคดียิงครูเจี๊ยบ ถูกจับกุมด้วย ส่วน 2 คนร้ายชุดสืบสวนยังติดตามตัวไม่ลดละล่าสุดไอ้วิน มือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดหนีไม่รอดถูกจับได้ที่เชียงใหม่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.สั่งการชุดสืบสวนนครบาลบุกจับกุมนายอนาวิน หรือวิน หรืออั้ม แก้วเก็บ อายุ 20 ปี นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน คณะวิศวกรรมพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ (วศ.บ.) อยู่บ้านเลขที่ 120 ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขณะตีเนียนเป็นนักท่องเที่ยวกางเต็นท์นอนอยู่ที่อุทยานแห่งชาติดอยปุย จ.เชียงใหม่ พร้อมนายกฤติ หรือชิว ล้ำเลิศ นักศึกษาสถาบันเดียวกัน อยู่บ้านเลขที่ 90/177 ซ.วัดหลวง แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. และอยู่ในเครือข่ายองค์กรทมิฬ หลังแจ้งข้อหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” และผู้ต้องหาตามหมายจับ “ร่วมกันสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซ่องโจร)” นำตัวทั้งคู่มาที่กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปมีรายงานว่า ในเวลา 13.30 น. วันที่ 20 ธ.ค. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จะมาร่วมสอบสวนปากคำนายอนาวิน มือปืนโหดด้วยตัวเองส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนปากคำ 13 ผู้ต้องหาองค์กรทมิฬที่ถูกตำรวจจับกุมรอบ 2 และถูกนำตัวมาควบคุมไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ยกเว้น น.ส.อัญญารัตน์ ทองสุข อายุ 24 ปี แฟนสาวของนายนภวุฒิ หรือวุฒิ เรืองศรี ถูกจับข้อหา “สนับสนุนร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” เพราะขับรถเก๋งไปรับนายนภวุฒิ หลังขับรถไทรทันพาไอ้วินและไอ้เลาะ หลบหนี ยังถูกคุมตัวสอบปากคำที่ บก.สส.บช.น.มีรายงานว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ มีกลุ่มเพื่อนและญาติของผู้ต้องหา 12 คน ทยอยเข้าเยี่ยม หลายคนมีลักษณะคล้ายกับนักศึกษาจากสถาบันเดียวกับผู้ต้องหา แต่ทั้งหมดไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆขณะเดียวกันที่ห้องประชุมชั้น 1 สน.ทุ่งมหาเมฆ น.ส.รุจลักษณ์ เพชรรัตน์ อายุ 44 ปี พนักงานบริษัท แห่งหนึ่ง แม่นายณัฐวุฒิ พินิจใหม่ อายุ 24 ปี อดีต นศ.เทคโนยีราชมงคลพระนครเหนือ วิทยาเขตอุเทนถวาย แผนกโลจิสติกส์ เพื่อนเจ้าบ่าว ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในงานแต่งงานพื้นที่ สน.สุทธิสาร เมื่อปี 65 และ น.ส.นิชลักษณ์ พลรัตน์ อายุ 25 ปี เพื่อนเจ้าสาว เข้าพบ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 ขอให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัวนายชนัญชิต หรือเป๊ปซี่ แสงจันทร์ อายุ 21 ปี และกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดน.ส.รุจลักษณ์ เพชรรัตน์ อายุ 44 ปี แม่นายณัฐวุฒิ พินิจใหม่ ผู้ตายกล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ส.ค.65 ผู้ก่อเหตุถูกจับกุมแต่ได้รับการประกันตัว ทราบว่าเป็น 1 ในคนที่ถูกจับกุมครั้งนี้ด้วยคือนายชนัญชิต หรือเป๊ปซี่ แสงจันทร์ รู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม หากผู้ก่อเหตุไม่ได้รับการประกันตัวคงไม่มีเหตุยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดรวมไปถึงเหตุการณ์ อื่นๆ ขอให้ตำรวจพิจารณาสิ่งที่ครอบครัวผู้สูญเสียร้องขอจะยื่นคัดค้านการประกันตัวทั้งต่อตำรวจและต่อศาล เพราะไม่ต้องการให้ได้ประกันตัวจะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุซ้ำๆ ไม่รู้ว่าการขอประกันตัวนั้น ต้องการออกมาเพื่อสู้คดีหรือออกมาเพื่อก่อเหตุซ้ำ และผู้ต้องหาที่ตำรวจจับครั้งนี้ ก็เป็นผู้ต้องหาในคดีที่ลูกชายตนเสียชีวิต อยากให้ตำรวจกวาดล้างให้หมด อยากฝากถึงสถาบันว่า หากมีเนื้อร้ายก็ต้องตัดทิ้งไม่ควรอุ้มชูไว้ด้าน น.ส.นิชลักษณ์ พลรัตน์ อายุ 25 ปี เพื่อน เจ้าสาวเผยทั้งน้ำตาว่า เจ้าบ่าวเป็นศิษย์เก่าอุเทนถวาย ส่วนเพื่อนที่เสียชีวิตเป็นเพื่อนสมัยอนุบาลไม่ได้เรียนที่อุเทนถวาย วันนั้นเห็น จยย.แปลกๆขี่วนตั้งแต่เช้า ช่วงที่แขกกำลังทยอยกลับ คนร้ายเข้ามายิงผู้ตายที่ออกไปยืนคุยโทรศัพท์หน้าบ้าน และยังเข้ามายิงคนที่อยู่ด้านในจนสาหัสอีก 4 คน นายเป๊ปซี่ ตำรวจพบว่าเป็นคนขี่รถมาดูที่เกิดเหตุ 3-4 วันก่อนเกิดเหตุ คาดว่าน่าจะเป็นคนที่ลงมือยิงด้วย เพราะเป็นผู้ต้องหาคนที่ 1 ของคดี อีกทั้งเมื่อเห็นพฤติกรรมนายเป๊ปซี่ หลังถูกจับกุมไม่ได้รู้สึกผิดยังทำตัวเหมือนเดิม กลัวจะได้รับการประกันตัวอีก เพราะไม่รู้จะมาก่อเหตุซ้ำอีกไหม ภาพวันนั้นยังติดอยู่ในใจ เพื่อนหลายคนโดนยิงทั้งที่ไม่มีใครเกี่ยวข้องไม่ได้เรียนสถาบันคู่ขัดแย้ง เชื่อว่าคนก่อเหตุมายิงเพียงแค่เพราะว่าต้องการทำแต้มไล่เลี่ยกัน น.ส.พรพิมล จำเมือง อายุ 55 ปี แม่นายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ พร้อมญาติถือรูปถ่ายน้องหยอดมาที่ชั้น 2 หน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา น.ส.พรพิมลนั่งกอดรูปลูกชายร่ำไห้กล่าวว่า ขอเดินหน้าถึงที่สุดและขอคัดค้านการประกันตัว ลูกต้องได้รับความยุติธรรม ได้ติดตามข่าวจากตำรวจเป็นระยะพร้อมให้กำลังใจขอให้จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว เชื่อว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ แต่ตนในฐานะผู้สูญเสียจะเดินหน้าให้ถึงที่สุดอยากขอความยุติธรรมให้ลูก เพราะน้องมีความฝันมีอนาคตที่ดีแต่ต้องมาเสียชีวิตจากคนพวกนี้ อยากให้กวาดล้างอย่างเด็ดขาดเชื่อว่าพวกนี้ไม่มีจิตสำนึก และอยากให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุมองในทางกลับกันว่าหากเป็นคนในครอบครัวจะรู้สึกอย่างไร เและไม่เห็นด้วยที่กฎหมายมาคุ้มครองนักศึกษาและเยาวชน เพราะตนเป็นครอบครัวผู้สูญเสียกลับต้องวิ่งหาความยุติธรรม แต่พวกที่ก่อเหตุกลับได้รับความคุ้มครองพล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เผยว่า เมื่อคืนพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดถึงดึก การสอบสวนเสร็จสิ้นครบถ้วน จากนี้จะนำข้อมูลไปขยายผลดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายอื่นๆต่อไป ผู้ต้องหาทั้ง 13 คน ยังคงให้การปฏิเสธ แต่บางส่วนให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ วันนี้จะส่งตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง โดยเตรียมกำลังตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ 10 นาย และชุดเคลื่อนที่เร็วของ บก.น. 5 อีก 20 นายร่วมสนับสนุนเนื่องจากการส่งผู้ต้องหาลอตก่อนหน้านี้ไปฝากขัง มีกลุ่มเพื่อนผู้ต้องหามาเยี่ยมและตามไปที่ศาล ถึงแม้ครั้งที่แล้วไม่ได้สร้างความวุ่นวายอะไรแต่ต้องป้องกันไว้ก่อน สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 12 คน พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวทั้งหมด หากผู้เสียหายคดีอื่นๆกังวลเรื่องการได้รับการประกันตัวนั้น สามารถไปยื่นคำร้องเพิ่มเติมที่ศาลได้ หลังจากนี้จะยังขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ที่ร่วมก่อเหตุ มั่นใจว่าเป็นขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ต้องกวาดล้างให้เด็ดขาดจากนั้นเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหา 12 คน ออกจากห้องคุมขังชั้น 2 ของโรงพัก ไปผัดฟ้องฝากขัง ผัดแรก 12 วัน ระหว่าง 19-30 ธ.ค.66 ที่ศาล อาญากรุงเทพใต้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ กลุ่มผู้ก่อเหตุทำกันเป็นขบวนการขณะควบคุมกลุ่มผู้ต้องหาเดินลงมาที่รถยนต์ควบคุมผู้ต้องหาส่งศาล น.ส.พรพิมล จำเมือง อายุ 55 ปี แม่น้องหยอด น.ส.รุจลักษณ์ เพชรรัตน์ อายุ 44 ปี แม่ของลูกชายเสียชีวิตงานแต่ง และ น.ส.นิชลักษณ์ พลรัตน์ อายุ 25 ปี เพื่อนเจ้าสาวได้ตะโกนด่าทอกลุ่มผู้ต้องหา โดยเฉพาะแม่น้องหยอดปรี่จะเข้าไปทำร้ายโดยถอดรองเท้าออกมาตีนายชนัญชิต หรือเป๊ปซี่ แต่นายเป๊ปซี่ก็หันไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้โต้ตอบอะไร มีตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วคอยควบคุม สถานการณ์ แม่น้องหยอดยังตะโกนใส่ต่อเนื่องว่า “ทำเลวไม่ต้องปิดหน้า ไม่ต้องอาย” ขณะผู้ต้องหาทั้งหมดต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครพูดหรือตอบคำถามใดๆ ก่อนที่ตำรวจจะขับรถออกไป มีตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว 20 นายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบด้านหลังรถเพื่อคุ้มกัน ป้องกันเหตุความไม่สงบหลังพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องฝากขังศาล อาญากรุงเทพใต้พิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้วเห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดี ร้ายแรง หากปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจหลบหนีให้ยกคำร้องคุมตัวเข้าเรือนจำทันทีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่